แม่มหาเศรษฐี "รวยที่สุดในโลก" สอนลูกแค่ 2 ข้อ ทุกบ้านทำตามได้ แต่ไม่ง่ายที่จะเลียนแบบ!

แม่มหาเศรษฐี "รวยที่สุดในโลก" สอนลูกแค่ 2 ข้อ ทุกบ้านทำตามได้ แต่ไม่ง่ายที่จะเลียนแบบ!

แม่มหาเศรษฐี "รวยที่สุดในโลก" สอนลูกแค่ 2 ข้อ ทุกบ้านทำตามได้ แต่ไม่ง่ายที่จะเลียนแบบ!
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

"คุณแม่" ที่เลี้ยงลูกโตขึ้นมาเป็นมหาเศรษฐีอันดับ 1 ของโลก เผยคำสอนแค่ 2 ข้อ  ให้ประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืน แต่ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำตาม!

ไม่เพียงแต่มหาเศรษฐี “อีลอน มัสก์” เท่านั้นที่ประสบความสำเร็จ แต่สองพี่น้องของเขาอีก 2 คน ก็ล้วนเป็นเศรษฐีพันล้านดอลลาร์เช่นกัน แล้วแม่ของพวกเขาสอนลูกๆ แบบใดให้ประสบความสำเร็จเช่นนี้?

“เมย์ มัสก์” ได้กลายเป็นแบบอย่างในการเลี้ยงดูเด็กที่หลายคนชื่นชม เธอเกิดในปี 1948 ที่แคนาดา เคยเป็นทั้งซูเปอร์โมเดล นักโภชนาการ วิทยากร และยังเป็นผู้เขียนหนังสือชื่อ "A Woman Makes a Plan: Advice for a Lifetime of Adventure, Beauty and Success" แต่เบื้องหลังความสำเร็จของเธอคือช่วงเวลาของวัยเยาว์ที่เต็มไปด้วยความยากลำบาก

เธอเป็นนางแบบตั้งแต่อายุ 15 ปี แต่งงานตอนอายุ 22 ปี และใช้ชีวิตในความสัมพันธ์ที่มีความรุนแรงในครอบครัวเกือบ 10 ปี กระทั่งเมื่ออายุ 31 ปี จึงตัดสินใจลาชีวิตแต่งงานที่ทุกข์ทรมาน เพื่อเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวและเลี้ยงดูลูกๆ ทั้งสามคน

เธอไม่เพียงแต่เป็นที่รู้จักในฐานะแม่ของ อีลอน มัสก์แต่ยังเป็นแม่ของ “คิมบัล มัสก์” ผู้ก่อตั้งบริษัท The Kitchen Restaurant Group องค์กรไม่แสวงหากำไร Big Green และบริษัทเกษตรกรรมเมือง Square Roots รวมถึง “ทอสกา มัสก์” ผู้ผลิตและผู้กำกับภาพยนตร์มากฝีมืออีกด้วย

สอนลูกให้ขยันทำงานและหาเงินตั้งแต่ยังเด็ก

ตามข้อมูลจาก CNBC เคล็ดลับในการเลี้ยงดูของ เมย์ มัสก์ ส่วนใหญ่เน้นที่การสอนลูกๆ เกี่ยวกับคุณค่าของความขยันและความเป็นอิสระ เธอภูมิใจที่ได้สอนลูกให้ทำงานหนักและติดตามความฝันของตัวเอง

ไม่เพียงแต่สนับสนุนให้ลูกๆ ดูแลตัวเอง แต่ยังสนับสนุนให้พวกเขาตัดสินใจเลือกสิ่งที่อยากทำในชีวิตด้วยตัวเอง นำแนวทางนี้มาใช้ในการเลี้ยงดูลูกทั้งสามของเธอตั้งแต่เด็กๆ พวกเขาจึงมักจะช่วยแม่ในการทำงานธุรกิจ ในขณะเดียวกันก็ได้เรียนรู้คุณค่าของการหาเงินและความเป็นอิสระ แม่ไม่เคยตรวจการบ้านของลูกๆ เพราะมองว่าเป็นความรับผิดชอบของพวกเขาเอง ซึ่งการทำเช่นนี้ก็ช่วยสอนลูกๆ ให้เรียนรู้การรับผิดชอบในชีวิตด้วย

ผู้เป็นแม่ยังจำได้ด้วยว่า ตั้งแต่ อีลอน มัสก์ อายุเพียง 3 ขวบ เธอก็รู้แล้วว่าลูกชายเป็นเด็กที่พิเศษมาก แต่เนื่องจากเขาค่อนข้างขี้อาย ทำให้ความสามารถของเขาไม่ถูกสังเกตเห็น แต่แม่คือคนที่เขามักจะพูดคุยด้วยบ่อยๆ และเธอก็ได้เห็นความเฉลียวฉลาดของลูกตั้งแต่ยังเล็ก เมื่อเขาชอบที่จะแสดงเหตุผลและจำทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรอบตัวได้อย่างแม่นยำ ครั้งหนึ่งเธอพาไปโรงเรียนอนุบาล และบอกกับคุณครูว่า ลูกชายของเธอเป็นเด็กอัจฉริยะ ซึ่งทำให้คุณครูรู้สึกประหลาดใจอย่างมาก

อย่างไรก็ดี เธอไม่ได้คาดคิดว่าอีลอนจะประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่เท่าวันนี้ จนการกลายเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในโลก แม้ว่าเขามักจะพูดคุยกับแม่เกี่ยวกับแผนและความตั้งใจในอนาคต ตั้งแต่การพัฒนาเทคโนโลยีพลังงานแสงอาทิตย์, รถยนต์ไฟฟ้า, จรวด ไปจนถึงโครงการอวกาศ ทุกครั้งเธอก็มักจะแนะนำให้ลูกชายคิดทบทวนและหยุดทำงานเพื่อพักผ่อน เพราะกลัวว่าเขาทำงานหนักเกินไป อย่างไรก็ตามเขาไม่เคยฟังคำแนะนำนี้ และผลลัพธ์ก็พิสูจน์ให้เห็นแล้ว เธอจึงได้เรียนรู้ว่าควรสนับสนุนลูกชายให้ตามหาความฝันของตัวเองต่อไป

เมื่อลูกๆ เติบโตขึ้น พวกเขาก็ยังคงรับผิดชอบอนาคตของตัวเอง โดยเลือกโรงเรียนและกรอกใบสมัครขอทุนการศึกษาและสินเชื่อการศึกษาด้วยตัวเอง โดยไม่ต้องพึ่งพาความช่วยเหลือจากแม่ เธอเชื่อว่าลูกๆ ไม่จำเป็นต้องได้รับการปกป้องจากการรับผิดชอบในชีวิต ซึ่งทำให้พวกเขากล้าที่จะเผชิญกับความท้าทายในชีวิต ทั้งนี้ เธอยังเชื่อว่าพ่อแม่ไม่ควรกังวลหรือเครียดเกินไปเกี่ยวกับการศึกษาของลูกๆ เธอเคยเห็นพ่อแม่หลายคนวิตกกังวลเรื่องลูกเข้าเรียนมหาวิทยาลัยจนไม่สามารถทานอาหารได้ และเธอยืนยันว่าการให้ลูกเตรียมตัวสำหรับอนาคตของตัวเองเป็นสิ่งสำคัญ

แม้จะอายุเพิ่มมากขึ้นและลูกๆ ประสบความสำเร็จแล้ว เมย์ มัสก์ ก็ยังคงสนับสนุนและเป็นกำลังใจให้พวกเขาต่อไป เธอเป็นแฟนคลับที่ใหญ่ที่สุดของอีลอนในโซเชียลมีเดีย และเธอก็เชื่อว่าเรื่องเงินไม่เคยเป็นสิ่งที่ต้องกังวลสำหรับลูกๆ โดยเฉพาะอีลอน และมันจะเป็นเช่นนั้นตลอดชีวิต

 

อัลบั้มภาพ 5 ภาพ

อัลบั้มภาพ 5 ภาพ ของ แม่มหาเศรษฐี "รวยที่สุดในโลก" สอนลูกแค่ 2 ข้อ ทุกบ้านทำตามได้ แต่ไม่ง่ายที่จะเลียนแบบ!

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook