หญิงวัย 51 ปวดหัวแทบระเบิด เกือบตาบอด-หูหนวก อึ้งสาเหตุ ใครก็เป็นได้แค่ไปตลาด
หญิงปวดหัวแทบระเบิด เกือบตาบอด-หูหนวก อึ้งสาเหตุที่ทำให้สมองติดเชื้อ มาจากกิจวัตรประจำวันที่ต้องจ่ายตลาด
หญิงวัย 51 ปี จากมณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน มีอาการปวดศีรษะรุนแรงเป็นประจำ แม้จะรับประทานยาแก้ปวดวันละ 6 เม็ด แต่อาการก็ยังไม่ดีขึ้น ภายหลังพบว่าเธอป่วยเป็นเยื่อหุ้มสมองอักเสบจากเชื้อรา ซึ่งเกี่ยวข้องกับกิจวัตรประจำวันในการไปตลาด
ตามรายงานจากสื่อจีน ระบุว่าคุณเหมยเริ่มมีอาการไข้และหวัดก่อนจะเกิดอาการปวดศีรษะรุนแรง จนไม่สามารถบรรเทาได้ด้วยยาแก้ปวด เมื่อไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลท้องถิ่น แพทย์วินิจฉัยว่าอาจเป็นผลมาจากโรคกระดูกต้นคอเสื่อม และแนะนำให้เธอรักษาตามมาตรฐานสำหรับโรคดังกล่าว แต่ผลลัพธ์กลับไม่เป็นที่น่าพอใจ
เธอบรรยายถึงความรุนแรงของอาการปวดว่า “เหมือนหัวจะระเบิด และทั้งร่างกายเจ็บปวดจนแทบคลั่ง” แม้จะเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล แต่ไข้ก็ยังขึ้นลงและอาการปวดหัวไม่ดีขึ้น หลังจากทรมานนานถึง 10 วัน เธอและครอบครัวตัดสินใจเปลี่ยนโรงพยาบาลเพื่อรับการรักษาเพิ่มเติม
ที่โรงพยาบาลใหม่ พบว่าสาเหตุของอาการปวดศีรษะไม่ใช่โรคกระดูกต้นคอเสื่อม แต่เป็น เยื่อหุ้มสมองอักเสบจากเชื้อราคริปโตคอคคัส โรคนี้เป็นการอักเสบของเยื่อหุ้มสมองที่เกิดจากเชื้อรา ซึ่งมีผลกระทบต่อระบบประสาทส่วนกลางและมีอัตราการเสียชีวิตสูง แพทย์ชี้ว่าแรงดันในกะโหลกศีรษะของคุณเหมยเพิ่มขึ้นจนเนื้อเยื่อสมองใกล้เคียงถูกกดทับ ส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อเส้นประสาท เช่น การมองเห็นและการได้ยินลดลง
แม้จะได้รับการรักษาด้วยยาต้านเชื้อรา แต่อาการของเธอยังคงทรุดลงจนเกือบสูญเสียการมองเห็นในตาซ้าย แพทย์จึงต้องผ่าตัดฉุกเฉิน หลังการรักษาอย่างต่อเนื่อง อาการปวดศีรษะของเธอก็หายเป็นปกติ และการมองเห็นกลับคืนมา
สาเหตุการติดเชื้อคริปโตคอคคัส
แพทย์อธิบายว่า เชื้อคริปโตคอคคัสเป็นเชื้อราที่พบได้ในสิ่งแวดล้อมทั่วไป เช่น ในดิน มูลนก โดยเฉพาะมูลนกพิราบ คุณเหมยที่เป็นผู้รับผิดชอบการไปตลาดและปรุงอาหารที่บ้าน มักสัมผัสกับสัตว์ปีกและอาจสูดดมเชื้อจากอากาศที่ปนเปื้อนสปอร์เชื้อราอาการของเยื่อหุ้มสมองอักเสบจากเชื้อราคริปโตคอคคัสคล้ายกับเยื่อหุ้มสมองอักเสบทั่วไป เช่น มีไข้ ปวดศีรษะ คลื่นไส้ และอาเจียน แม้จะพบได้ไม่บ่อย แต่หากไม่ได้รับการรักษาทันท่วงที อาจเป็นอันตรายถึงชีวิต
โดยปกติ เชื้อคริปโตคอคคัสไม่ก่อให้เกิดโรค แต่เมื่อร่างกายอ่อนแอจากการพักผ่อนไม่เพียงพอหรือภูมิคุ้มกันลดลง จะเพิ่มความเสี่ยงในการติดเชื้อ ดังนั้น ควรให้ความสำคัญกับสุขอนามัยเมื่อสัมผัสสัตว์ปีก และหลีกเลี่ยงการสัมผัสโดยตรงในผู้ที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอหรือป่วยเรื้อรัง