นศ.ชายทรุด อุตส่าห์ลดอ้วนได้ 10 กก. แต่ตรวจเจอ "ไขมันพอกตับ" หมอรู้กินอะไรรีบเตือน!

นศ.ชายทรุด อุตส่าห์ลดอ้วนได้ 10 กก. แต่ตรวจเจอ "ไขมันพอกตับ" หมอรู้กินอะไรรีบเตือน!

นศ.ชายทรุด อุตส่าห์ลดอ้วนได้ 10 กก. แต่ตรวจเจอ "ไขมันพอกตับ" หมอรู้กินอะไรรีบเตือน!
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นักศึกษาชายชาวจีน ถูกวินิจฉัยเป็นโรคไขมันพอกตับ หลังจากที่เขาลดน้ำหนักด้วยการอดอาหารเป็นเวลา 1 เดือน

ตามรายงานของสื่อในเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน นักศึกษาชายคนหนึ่งชื่อ "จางซื่อ" ได้ทำการลดน้ำหนักโดยการอดอาหารเป็นเวลา 1 เดือน ซึ่งทำให้เขาลดน้ำหนักได้ถึง 10 กิโลกรัม แต่กลับถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรคไขมันพอกตับ

ผู้ป่วยกล่าวว่าเขาได้ทำตามแผนการลดน้ำหนักที่ค่อนข้างเข้มงวด โดยรับประทานขนมปังโฮลเกรนเพียงแผ่นเดียว ในมื้อเช้าและมื้อเย็น ส่วนมื้อกลางวันมักจะกินแค่เมล็ดพืชบางชนิด

หลังจากผ่านไป 1 เดือน จางซื่อสามารถลดน้ำหนักได้ 10 กิโลกรัม แต่ในขณะเดียวกันร่างกายของเขาก็เริ่มแสดงอาการผิดปกติ เช่น อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร ปวดท้อง จึงกังวลเกี่ยวกับสุขภาพของตัวเองและไปตรวจที่โรงพยาบาล ผลการตรวจพบว่าเขามีโรคไขมันพอกตับ

แพทย์ชี้ข้อผิดพลาดที่ทำให้ผู้ป่วยเป็นโรคไขมันพอกตับ

แพทย์หวังเซิงเปิ่น รองผู้อำนวยการแผนกโภชนาการคลินิกของโรงพยาบาลหมายเลข 1 ในอู่ฮั่น กล่าวว่า การอดอาหารอย่างเกินไปและไม่เป็นไปตามหลักวิทยาศาสตร์ อาจนำไปสู่โรคไขมันพอกตับ ซึ่งเป็นความผิดพลาดที่ทำให้ผู้ป่วยเป็นโรคนี้

แพทย์หวังอธิบายว่า แผนการลดน้ำหนักที่เข้มงวดของจางซื่อทำให้ร่างกายขาดสารอาหารที่สำคัญ เช่น โปรตีน ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับกระบวนการสังเคราะห์และซ่อมแซมเซลล์ตับ นอกจากนี้โปรตีนยังช่วยให้การเผาผลาญในร่างกายทำงานได้ปกติ การขาดโปรตีนทำให้กระบวนการสร้างไลโปโปรตีน ซึ่งเป็นโปรตีนที่ช่วยขนส่งไขมันในร่างกายอ่อนแอลง ส่งผลให้ไขมันสะสมในเซลล์ตับและเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคไขมันพอกตับ

"การอดอาหารเกินไปสามารถทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดต่ำลง ทำให้ร่างกายต้องเร่งการสลายไขมันเพื่อเปลี่ยนเป็นพลังงานสำหรับกิจกรรมต่างๆ ในร่างกาย ซึ่งอาจทำให้กรดไขมันเข้าสู่กระแสเลือดมากขึ้น และนำไปสู่การสะสมไขมันส่วนเกินในตับ" แพทย์หวังกล่าว

แพทย์ยังเตือนเพิ่มเติมด้วยว่า การอดอาหารเกินไปไม่เพียงแต่เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคไขมันพอกตับ แต่ยังสามารถนำไปสู่ปัญหาสุขภาพอื่นๆ ได้เช่น

  • ความผิดปกติของฮอร์โมน : การอดอาหารเกินไปอาจทำให้ระดับฮอร์โมนผิดปกติ เช่น การลดลงของฮอร์โมนเอสโตรเจน ซึ่งอาจส่งผลต่อสุขภาพระบบสืบพันธุ์และผิวพรรณของผู้หญิง
  • ปัญหาทางเดินอาหาร การอดอาหารเกินไปอาจทำให้การผลิตกรดในกระเพาะอาหารลดลง ส่งผลกระทบต่อการย่อยอาหารและการดูดซึมสารอาหาร และอาจทำให้เกิดโรคในทางเดินอาหาร เช่น แผลในกระเพาะอาหาร
  • ปัญหาทางจิตใจ ความเครียดจากการอดอาหารและลดน้ำหนักอาจทำให้เกิดปัญหาทางจิตใจ เช่น ความวิตกกังวลและภาวะซึมเศร้า
  • ลดภูมิคุ้มกัน การอดอาหารในระยะยาวอาจทำให้ร่างกายขาดสารอาหาร ทำให้ภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง และเพิ่มความเสี่ยงในการติดเชื้อ


แพทย์หวังกล่าวแนะนำว่า เพื่อให้ร่างกายแข็งแรงควรกินและออกกำลังกายอย่างสมดุล โดยรับประทานอาหารที่มีสารอาหารครบถ้วนและหลากหลาย เช่น เนื้อสัตว์ ปลา ผัก ผลไม้ และหลีกเลี่ยงการบริโภคธัญพืชขัดสีและอาหารที่มีน้ำตาล เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่เพียงพอและช่วยให้ตับทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะเดียวกันก็ต้องออกกำลังกายที่เหมาะสมกับความชอบและสภาพร่างกาย เช่น การเดิน วิ่ง ว่ายน้ำ หรือเล่นแบดมินตัน เพื่อลดไขมันส่วนเกินและช่วยลดน้ำหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook