เล่นมือถือแบบใด?! อายุแค่ 15 เป็นอัมพาตครึ่งซีก หมอชี้ “ท่านี้” อันตรายมากกับทุกวัย

เล่นมือถือแบบใด?! อายุแค่ 15 เป็นอัมพาตครึ่งซีก หมอชี้ “ท่านี้” อันตรายมากกับทุกวัย

เล่นมือถือแบบใด?! อายุแค่ 15 เป็นอัมพาตครึ่งซีก หมอชี้ “ท่านี้” อันตรายมากกับทุกวัย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หมอเตือนกิจกรรมคนยุคนี้ แชร์เคสหนุ่มอายุแค่ 15 เป็นอัมพาตครึ่งซีก เพราะ "เล่นมือถือ" ตอนกลางคืน ย้ำอันตรายกับทุกวัย!

นักเรียนชายวัย 15 ปี เกิดอาการอัมพาตครึ่งซีกอย่างกะทันหัน หลังเล่นโทรศัพท์หลายชั่วโมงตอนกลางคืน แพทย์เตือนเป็นนิสัยที่หลายคนชอบทำ!

ตามข้อมูลจากโรงพยาบาลทั่วไปจังหวัดโฮอาบินห์ ประเทศเวียดนาม ระบุว่า เมื่อวันที่ 24 กันยายนที่ผ่านมา นักเรียนชายรายนี้เกิดอาการปวดรุนแรงที่กระดูกสันหลังคอ และรู้สึกเป็นอัมพาตครึ่งซีกขวา หลังจากเล่นโทรศัพท์หลายชั่วโมงในเวลากลางคืน ครอบครัวของเขาจึงพาเขาไปที่ห้องฉุกเฉิน

แพทย์พบว่าผู้ป่วยยังรู้สึกตัว แต่มีอาการอัมพาตครึ่งซีก  มีความแข็งแรงของกล้ามเนื้อขา 2/5 และความแข็งแรงของกล้ามเนื้อแขนเพียง 1/5 เท่านั้น มาพร้อมกับอาการปวดกระดูกสันหลังส่วนคอหลายจุด สงสัยว่าอาจเกี่ยวข้องกับกระดูกสันหลังคอและไขสันหลัง จึงได้ให้ผู้ป่วยตรวจ MRI พบว่ามีเลือดคั่งขนาดใหญ่ที่ชั้นนอกของเยื่อหุ้มไขสันหลังทางด้านขวาของกระดูกสันหลังคอ ทำให้มีการกดทับไขสันหลังอย่างรุนแรง

แพทย์จึงวินิจฉัยว่าเป็นอาการเลือดคั่งภายนอกเยื่อหุ้มไขสันหลังคอ และต้องผ่าตัดฉุกเฉิน  โดยการผ่าตัดใช้เวลานาน 1.5 ชั่วโมง ใช้กล้องจุลทรรศน์ในการผ่าตัด ทำให้สามารถเอาเลือดคั่งออกไปได้สำเร็จ โดยที่มีเพียงแผลขนาดเล็ก พร้อมทั้งดำเนินการห้ามเลือดและลดการกดทับไขสันหลังด้วย

การฟื้นตัวหลังผ่าตัดดีขึ้นอย่างรวดเร็ว ผู้ป่วยเริ่มสามารถขยับแขนและขาได้ภายในวันแรกหลังการผ่าตัด โดยแขนขามีแรงเพิ่มขึ้นถึง 4/5 แพทย์แสดงความดีใจว่าการผ่าตัดประสบความสำเร็จอย่างดี จากนั้นผู้ป่วยได้รับการฟื้นฟูและฝึกกายภาพบำบัด เพื่อฟื้นฟูการเคลื่อนไหวจนกว่าจะฟื้นตัวเต็มที่

ความคิดเห็นจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

Dr.Trương Như Hiển รองผู้อำนวยการและหัวหน้าฝ่ายศัลยกรรมระบบประสาท กล่าวว่า ภาวะเลือดคั่งภายนอกเยื่อหุ้มไขสันหลัง เป็นโรคที่พบได้ยากและมักถูกมองข้ามในการวินิจฉัย โดยมักเกิดจากความผิดปกติของหลอดเลือดบริเวณไขสันหลัง หรือการบาดเจ็บที่กระดูกสันหลัง ผู้ป่วยจำเป็นต้องได้รับการตรวจและรักษาอย่างทันท่วงที เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงจากการกดทับไขสันหลัง

โรคนี้มักพบในผู้สูงอายุที่มีโรคประจำตัว เช่น ความดันโลหิตสูง หรือโรคข้อกระดูกเสื่อมรุนแรง แต่กรณีของผู้ป่วยรายนี้ที่อายุแค่ 15 ปี ถือเป็นกรณีที่พบได้น้อยมาก ในระยะเวลากว่า 20 ปีที่ทำงานของเขา

การเล่นโทรศัพท์มือถืออาจเป็นสาเหตุ

ผู้ป่วยเปิดเผยว่า ก่อนเกิดอาการเขาเล่นเกมโทรศัพท์มือถืออย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน ระหว่างนั้นมีการขยับคออย่างแรงเช่น การหมุนหรือกระตุกคอเพื่อลดอาการเมื่อยล้า ซึ่งแพทย์ระบุว่าเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้กระดูกสันหลังคอได้รับแรงกระแทกอย่างรุนแรง ส่งผลให้เกิดความเสียหายแก่หลอดเลือดและกดทับไขสันหลัง

นอกจากนี้ คุณหมอยังเตือนด้วยว่า การที่ผู้คนมักใช้โทรศัพท์หรือแท็บเล็ต ในท่าทางที่ต้องก้มหน้ามองเป็นเวลานาน ก็จะทำให้แรงกดทับกระดูกสันหลังเพิ่มขึ้น และทำให้หลอดเลือดเกิดการคั่งได้ง่าย

คุณหมอแนะนำว่า สำหรับผู้ที่มีปัญหาสุขภาพเช่น อาการปวดคอ ไหล่ หรือแขนขา รวมถึงอาการชา หรือลามไปถึงมือหรือเท้าควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจเช็คและพิจารณาการทำ MRI เพื่อตรวจหาความผิดปกติของกระดูกสันหลัง

ในการใช้ชีวิตประจำวัน ควรระวังท่าทางในการนั่งและยืน โดยเฉพาะไม่ควรก้มคอลงนานๆ และเมื่อเข้านอนควรเลือกหมอนที่มีความสูงเหมาะสม หลีกเลี่ยงการนอนในท่าที่ยืดหรือก้มคอติดต่อกันนานๆ

สำหรับผู้ที่ต้องนั่งทำงานเป็นเวลานาน ควรมีการพักทุก 30-45 นาที และสำหรับผู้ที่มีอาการปวดคอ ควรหลีกเลี่ยงการบิดหรือเคลื่อนไหวคออย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ หากมีอาการเจ็บปวด ควรเข้ารับการรักษาโดยทันทีเพื่อป้องกันการบาดเจ็บเพิ่มเติม  

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook