เล่นมือถือแบบใด?! อายุแค่ 15 เป็นอัมพาตครึ่งซีก หมอชี้ “ท่านี้” อันตรายมากกับทุกวัย
หมอเตือนกิจกรรมคนยุคนี้ แชร์เคสหนุ่มอายุแค่ 15 เป็นอัมพาตครึ่งซีก เพราะ "เล่นมือถือ" ตอนกลางคืน ย้ำอันตรายกับทุกวัย!
นักเรียนชายวัย 15 ปี เกิดอาการอัมพาตครึ่งซีกอย่างกะทันหัน หลังเล่นโทรศัพท์หลายชั่วโมงตอนกลางคืน แพทย์เตือนเป็นนิสัยที่หลายคนชอบทำ!
ตามข้อมูลจากโรงพยาบาลทั่วไปจังหวัดโฮอาบินห์ ประเทศเวียดนาม ระบุว่า เมื่อวันที่ 24 กันยายนที่ผ่านมา นักเรียนชายรายนี้เกิดอาการปวดรุนแรงที่กระดูกสันหลังคอ และรู้สึกเป็นอัมพาตครึ่งซีกขวา หลังจากเล่นโทรศัพท์หลายชั่วโมงในเวลากลางคืน ครอบครัวของเขาจึงพาเขาไปที่ห้องฉุกเฉิน
แพทย์พบว่าผู้ป่วยยังรู้สึกตัว แต่มีอาการอัมพาตครึ่งซีก มีความแข็งแรงของกล้ามเนื้อขา 2/5 และความแข็งแรงของกล้ามเนื้อแขนเพียง 1/5 เท่านั้น มาพร้อมกับอาการปวดกระดูกสันหลังส่วนคอหลายจุด สงสัยว่าอาจเกี่ยวข้องกับกระดูกสันหลังคอและไขสันหลัง จึงได้ให้ผู้ป่วยตรวจ MRI พบว่ามีเลือดคั่งขนาดใหญ่ที่ชั้นนอกของเยื่อหุ้มไขสันหลังทางด้านขวาของกระดูกสันหลังคอ ทำให้มีการกดทับไขสันหลังอย่างรุนแรง
แพทย์จึงวินิจฉัยว่าเป็นอาการเลือดคั่งภายนอกเยื่อหุ้มไขสันหลังคอ และต้องผ่าตัดฉุกเฉิน โดยการผ่าตัดใช้เวลานาน 1.5 ชั่วโมง ใช้กล้องจุลทรรศน์ในการผ่าตัด ทำให้สามารถเอาเลือดคั่งออกไปได้สำเร็จ โดยที่มีเพียงแผลขนาดเล็ก พร้อมทั้งดำเนินการห้ามเลือดและลดการกดทับไขสันหลังด้วย
การฟื้นตัวหลังผ่าตัดดีขึ้นอย่างรวดเร็ว ผู้ป่วยเริ่มสามารถขยับแขนและขาได้ภายในวันแรกหลังการผ่าตัด โดยแขนขามีแรงเพิ่มขึ้นถึง 4/5 แพทย์แสดงความดีใจว่าการผ่าตัดประสบความสำเร็จอย่างดี จากนั้นผู้ป่วยได้รับการฟื้นฟูและฝึกกายภาพบำบัด เพื่อฟื้นฟูการเคลื่อนไหวจนกว่าจะฟื้นตัวเต็มที่
ความคิดเห็นจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
Dr.Trương Như Hiển รองผู้อำนวยการและหัวหน้าฝ่ายศัลยกรรมระบบประสาท กล่าวว่า ภาวะเลือดคั่งภายนอกเยื่อหุ้มไขสันหลัง เป็นโรคที่พบได้ยากและมักถูกมองข้ามในการวินิจฉัย โดยมักเกิดจากความผิดปกติของหลอดเลือดบริเวณไขสันหลัง หรือการบาดเจ็บที่กระดูกสันหลัง ผู้ป่วยจำเป็นต้องได้รับการตรวจและรักษาอย่างทันท่วงที เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงจากการกดทับไขสันหลัง
โรคนี้มักพบในผู้สูงอายุที่มีโรคประจำตัว เช่น ความดันโลหิตสูง หรือโรคข้อกระดูกเสื่อมรุนแรง แต่กรณีของผู้ป่วยรายนี้ที่อายุแค่ 15 ปี ถือเป็นกรณีที่พบได้น้อยมาก ในระยะเวลากว่า 20 ปีที่ทำงานของเขา
การเล่นโทรศัพท์มือถืออาจเป็นสาเหตุ
ผู้ป่วยเปิดเผยว่า ก่อนเกิดอาการเขาเล่นเกมโทรศัพท์มือถืออย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน ระหว่างนั้นมีการขยับคออย่างแรงเช่น การหมุนหรือกระตุกคอเพื่อลดอาการเมื่อยล้า ซึ่งแพทย์ระบุว่าเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้กระดูกสันหลังคอได้รับแรงกระแทกอย่างรุนแรง ส่งผลให้เกิดความเสียหายแก่หลอดเลือดและกดทับไขสันหลัง
นอกจากนี้ คุณหมอยังเตือนด้วยว่า การที่ผู้คนมักใช้โทรศัพท์หรือแท็บเล็ต ในท่าทางที่ต้องก้มหน้ามองเป็นเวลานาน ก็จะทำให้แรงกดทับกระดูกสันหลังเพิ่มขึ้น และทำให้หลอดเลือดเกิดการคั่งได้ง่าย
คุณหมอแนะนำว่า สำหรับผู้ที่มีปัญหาสุขภาพเช่น อาการปวดคอ ไหล่ หรือแขนขา รวมถึงอาการชา หรือลามไปถึงมือหรือเท้าควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจเช็คและพิจารณาการทำ MRI เพื่อตรวจหาความผิดปกติของกระดูกสันหลัง
ในการใช้ชีวิตประจำวัน ควรระวังท่าทางในการนั่งและยืน โดยเฉพาะไม่ควรก้มคอลงนานๆ และเมื่อเข้านอนควรเลือกหมอนที่มีความสูงเหมาะสม หลีกเลี่ยงการนอนในท่าที่ยืดหรือก้มคอติดต่อกันนานๆ
สำหรับผู้ที่ต้องนั่งทำงานเป็นเวลานาน ควรมีการพักทุก 30-45 นาที และสำหรับผู้ที่มีอาการปวดคอ ควรหลีกเลี่ยงการบิดหรือเคลื่อนไหวคออย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ หากมีอาการเจ็บปวด ควรเข้ารับการรักษาโดยทันทีเพื่อป้องกันการบาดเจ็บเพิ่มเติม
- พนง.อายุน้อย ล้มตึงเป็นอัมพาต เพราะ 2 เมนูโปรด หมอเตือนหนุ่ม-สาว กินแทบทุกคน!
- กินของทอดเสี่ยงมะเร็ง นักพิษวิทยาแนะกิน 3 สิ่งนี้ ช่วยล้างพิษได้ อร่อยด้วย!