หญิงทำอาหารอยู่ดีๆ หมดสติ-หายใจล้มเหลว ตัวการร้ายคือ "ผัก" ที่คุ้นเคย ระเหยเข้าจมูก

หญิงทำอาหารอยู่ดีๆ หมดสติ-หายใจล้มเหลว ตัวการร้ายคือ "ผัก" ที่คุ้นเคย ระเหยเข้าจมูก

หญิงทำอาหารอยู่ดีๆ หมดสติ-หายใจล้มเหลว ตัวการร้ายคือ "ผัก" ที่คุ้นเคย ระเหยเข้าจมูก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หญิงทำอาหารในบ้าน อยู่ดีๆ หมดสติ-หายใจล้มเหลว ตัวการร้ายคือ "ผัก" ที่เธอเองคุ้นเคยมาทั้งชีวิต ปล่อยไอระเหยเจ้าจมูก

หญิงวัย 61 ปี จากเมืองกว๋างนิงห์ ประเทศเวียดนาม ถูกส่งตัวเข้าศูนย์การแพทย์ด่งเตรียว หลังสูดดมไอระเหยจากหัวหอมในปริมาณมากจนหายใจลำบาก หมดสติ และไม่ตอบสนอง

ศูนย์การแพทย์เมืองด่งเตรียว ระบุว่า หญิงรายนี้เข้ารับการรักษาในแผนกฉุกเฉิน-วิกฤต และป้องกันพิษ เมื่อเวลา 22.00 น. ของวันที่ 1 ธันวาคม โดยมีอาการหายใจลำบาก กระสับกระส่ายอย่างรุนแรง ไม่สามารถสื่อสารได้ และไม่ได้รับการปฐมพยาบาลในเบื้องต้น

เมื่อทีมแพทย์ตรวจสอบ พบว่าผู้ป่วยอยู่ในภาวะหมดสติ มีภาวะทางเดินหายใจล้มเหลว กล้ามเนื้อปอดทั้งสองข้างหดเกร็ง และมีผื่นกระจายทั่วร่างกาย

ญาติของผู้ป่วยระบุว่า ก่อนเกิดเหตุ ผู้ป่วยได้สับหัวหอมในปริมาณมากที่บ้าน จากนั้นเริ่มหายใจลำบาก หมดสติ และไม่ตอบสนองเมื่อมีการเรียก

แพทย์วินิจฉัยว่าผู้ป่วยมีภาวะแพ้รุนแรง (Anaphylaxis) ระดับ 3 ที่ไม่ทราบสาเหตุ มีภาวะทางเดินหายใจล้มเหลว และโรคหอบหืดหลอดลม ทีมแพทย์ได้ดำเนินการฉุกเฉินด้วยการฉีดอะดรีนาลีน (แบบฉีดเข้ากล้ามเนื้อ) ใช้ยาคอร์ติโคสเตียรอยด์ การให้ยาคลายกังวล ควบคุมทางเดินหายใจ และใช้เครื่องช่วยหายใจ

หลังจากการรักษาอย่างเข้มข้นเป็นเวลา 24 ชั่วโมง ผู้ป่วยสามารถถอดท่อช่วยหายใจได้ รู้สึกตัวมากขึ้น สื่อสารได้ดีขึ้น หายใจสะดวกขึ้น และผื่นบนร่างกายลดลง หลังจากการดูแลและรักษาต่อเนื่องเป็นเวลา 5 วัน ผู้ป่วยมีอาการคงที่และได้รับอนุญาตให้กลับบ้าน

ข้อควรระวังเกี่ยวกับภาวะแพ้รุนแรง

แพทย์จากแผนกฉุกเฉิน-วิกฤตและป้องกันพิษเตือนว่า ภาวะแพ้รุนแรง (Anaphylaxis) เป็นปฏิกิริยาแพ้อย่างเฉียบพลันที่อาจเป็นอันตรายถึงชีวิต หากเกิดอาการช็อก อาจนำไปสู่อาการชัก หมดสติ และเสียชีวิตในเวลาอันสั้น

ความรุนแรงของอาการแพ้ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น การตอบสนองของผู้ป่วยต่อสารก่อภูมิแพ้ ปริมาณของสารก่อภูมิแพ้ อัตราการดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย และระยะเวลาที่ได้รับการรักษา หากพบอาการแพ้ ควรรีบนำตัวผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉินทันที เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะแทรกซ้อนที่อาจเป็นอันตรายถึงชีวิต

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook