เฮ! ศาลยกคำร้อง ไม่ออกหมายจับ 45 พันธมิตรปิดสนามบิน

เฮ! ศาลยกคำร้อง ไม่ออกหมายจับ 45 พันธมิตรปิดสนามบิน

เฮ! ศาลยกคำร้อง ไม่ออกหมายจับ 45 พันธมิตรปิดสนามบิน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ศาลอาญายกคำร้องของตำรวจ กรณีขอหมายจับ 45 แนวร่วมพันธมิตรไม่มารายงานตัวกรณีบุกสนามบิน ชี้พยานไม่พอ

ศาลอาญายกคำร้องคดีที่พนักงานสอบสวน กองปราบปราม ยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขออนุมัติออกหมายจับแนวร่วมกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยทั้งหมด 45 คน ที่ยังไม่ได้เข้ารายงานตัวตามหมายเรียกในคดีมั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ก่อความวุ่นวายและก่อการร้าย จากกรณีการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ที่สนามบินสุวรรณภูมิและสนามบินดอนเมืองเมื่อปี 51 ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า จากคำร้องขอพนักงานสอบสวนที่ขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหาโดยอ้างเหตุ 3 ประการ คือ 1.ไม่ปฏิบัติตามหมายเรียก 2.หลบหนีไม่เข้ารายงานตัว และ 3.กระทำผิดกฏหมายอาญา ซึ่งมีโทษเกินกว่า 3 ปี แต่ข้อเท็จจริงในทางคดีพบว่า มีผู้ถูกกล่าวหาหลายราย ได้ยื่นคำร้องขอเลื่อนนัดกับพนักงานสอบสวนแล้วก่อนวันนัดรายงานตัว และมีผู้ถูกกล่าวหาอีกหลายรายที่พนักงานสอบสวนออกหมายเรียกเป็นชื่อเล่น ไม่ได้ระบุรูปพรรณที่ชัดเจน

นอกจากนี้ ข้อเท็จจริงเป็นที่ชัดเจนว่า หากไม่ได้ตัวผู้ถูกกล่าวหามาก็ไม่ได้ทำให้การสืบสวนสอบสวนเกิดความล่าช้า กรณีจึงยังไม่มีเหตุให้ออกหมายจับผู้ถูกกล่าวหาตามคำร้อง ศาลจึงมีคำสั่งให้ยกคำร้อง

ทั้งนี้ก่อนหน้านี้นายนิติธร ล้ำเหลือ ทนายความกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และ พร้อมผู้ถูกกล่าวหา เช่น พล.อ.ปฐมพงษ์ เกษรศุกร์ น.ส.ศิริลักษณ์ ผ่องโชค ได้ไปยื่นคำร้องคัดค้านต่อศาลอาญา เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (13 ก.ย.) เพื่อขอให้ยกคำร้องขอหมายจับ คดีกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ปิดล้อมสนามบินดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิ จำนวน 45 ราย ของพนักงานสอบสวน ที่มีพล.ต.ท.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้ช่วย ผบ.ตร. (กม1) เป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวน ที่ได้ยื่นคำร้องขอออกหมายจับต่อศาลอาญา เมื่อวันที่ 10 กันยายน ที่ผ่านมา และศาลได้รับคำร้องไว้แล้ว

"คดีนี้ไม่มีความจำเป็นถึงขั้นต้องออกหมายจับ เพราะชัดเจนว่าพนักงานสอบสวนไม่ได้มีความประสงค์จะสอบปากคำผู้ถูกกล่าวหาเพิ่มอีก เพราะกำหนดวันสั่งฟ้องคดีผู้ที่ไปรายงานตัวตามหมายเรียกไว้แล้วในวันที่ 20 กันยายน อีกทั้งผู้ถูกกล่าวหาทุกราย ไม่ได้มีพฤติการณ์จะหลบหนีคดี แต่ได้ต่อสู้คดีตามสิทธิของผู้ถูกกล่าวหา" นายนิติธร กล่าวและว่า กรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตจะเป็นการสร้างสถานการณ์เพื่อกดดันศาลในช่วงที่กลุ่มเสื้อแดงกำลังจัดการชุมนุมหรือไม่นั้น ตนไม่ทราบ

สำหรับผู้ต้องหาจำนวน 45 ราย แยกเป็น 3 กลุ่ม

1.ผู้ต้องหาที่พนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียกเพื่อมารับทราบข้อกล่าวหา แต่ไม่มาพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียก จำนวน 9 ราย ประกอบด้วย

นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ , พล.อ.ปฐมพงษ์ เกษรศุกร์ , นายวีระ สมความคิด, นายสมบูรณ์ ทองบุราณ,นายปราโมทย์ นาครทรรพ , นางต้นฝัน แสงอาทิตย์, นายสมชาย วงศ์เวช , น.ส.ศิริลักษณ์ ผ่องโชค และนายการุณ ใสงาม

2.ผู้ต้องหาที่ไม่มีข้อมูลทางทะเบียนราษฎร์เพียงพอที่จะออกหมายเรียกเพื่อมารับทราบข้อกล่าวหา แต่มีพยาน หลักฐานและตำหนิรูปพรรณเพียงพอที่จะขอออกหมายจับต่อศาล โดยทราบชื่อและนามสกุล 9 ราย ประกอบด้วย

นายเทิดศักดิ์ เจียมกิขวัฒนา, นางอัจฉรา สุวรรณวงศ์, นางสาวใจดาว เพชรมั่นคงเจริญ, นางกรรณิการ์ อารีสมาน, นางสาวโรส เมขลา, นายบอย โคราช (นักร้อง ) , นายพงศธร พลพยุง, นายเสน่ห์ หงษ์ทอง และนายหล่อ ภูมิทัศน์ (นักร้อง)

กลุ่มที่ 3 เป็นนักร้องที่ขึ้นเวที

รวม 27 คน ทราบชื่อ ไม่ทราบนามสกุล และไม่ทราบชื่อไม่นามสกุล ประกอบด้วย

นายจุ๋ม (วงด่านเกวียน)
หญิงไม่ทราบชื่อ สวมเสื้อสีดำ และชายไทยไม่ทราบชื่อ (นักร้องวงนกเขาเถื่อน),
ชายไทยไม่ทราบชื่อ (นักร้องวงทูเล) 2 คน
นายแมน (นักร้องวงสปริงเกอร์)
นายออฟ
นางมัณฑนา (ตัวแทนการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค)
นายคิม
นายจอร์ส
นายอำนวย
นางบุญเชิด
นางหน่อย
นางนิด
นายทศพล
นางกอบ
นางโพด
นายฟอร์ด (นักร้องวงแฮมเมอร์)
นายหน่อง (นักร้องวงโตโต้)
น.ส.นุช (นักร้อง)
ชายไม่ทราบชื่อ (นักร้องวงคนจร)
ชายไทยไม่ทราบชื่อ (นักร้องวงบิณฑบาต) 
นายเสก (นักร้องวงซูซู)
นายชู
นายแสน
และนายอ๊อด (วงคีตาชาลี)

 

 

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook