คนไข้ไม่อยากเชื่อว่าตัวเองป่วย "มะเร็งกระเพาะ" หมอชี้ทำพลาด 2 ข้อ เลี้ยงเนื้องอกให้โตไว
คนไข้ไม่อยากเชื่อว่าตัวเองป่วย "มะเร็งกระเพาะ" หมอชี้ทำพลาด 2 ข้อ ที่ยิ่งเลี้ยงเนื้องอกให้โตไว รู้ตัวอีกทีระยะ 2 แล้ว
เมื่อไม่นานมานี้ โรงพยาบาลวั่นฟาง ไต้หวัน ได้รับและรักษาผู้ป่วยชายอายุ 50 ปีที่ป่วยเป็นมะเร็งกระเพาะอาหาร
ในรายการ Healthy Life ดร.หวัง เว่ยตี้ ซึ่งทำงานที่แผนกโรคตับและทางเดินอาหารของโรงพยาบาลวั่นฟาง ได้แชร์กรณีของผู้ป่วยชายวัย 50 ปีรายหนึ่งที่เขากำลังรักษา
ดร.หวังกล่าวว่าผู้ป่วยชื่อ ต้วงซือ เป็นผู้อำนวยการสถานดูแลผู้สูงอายุ งานของเขาต้องพบปะและสังสรรค์กับพันธมิตรทางธุรกิจเป็นประจำ ผู้ป่วยมีนิสัยการกินที่ไม่เป็นเวลา มักรับประทานอาหารรสเค็มและมัน อีกทั้งยังดื่มแอลกอฮอล์มาเป็นเวลาหลายปี
นอกจากนี้ ผู้ป่วยเคยได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นแผลในกระเพาะอาหารและติดเชื้อ Helicobacter Pylori (HP) เมื่อ 10 ปีก่อน โดยแพทย์เคยสั่งยาให้พร้อมทั้งนัดหมายเพื่อตรวจส่องกล้องซ้ำ แต่หลังจากรับประทานยาครบ ผู้ป่วยกลับไปซื้อยาตามใบสั่งเดิมมาใช้เองและไม่กลับไปพบแพทย์ตามที่กำหนด
ผู้ป่วยเล่าว่าช่วงนี้มักรู้สึกเหนื่อยล้า น้ำหนักลด และอุจจาระมีสีดำ เมื่อเกิดความกังวลจึงตัดสินใจไปตรวจร่างกาย ผลการส่องกล้องและตรวจชิ้นเนื้อพบว่าเขาเป็นมะเร็งกระเพาะอาหารระยะที่ 2 เมื่อตรวจพบโรค ผู้ป่วยรู้สึกตกใจมากและไม่อยากเชื่อว่าเขาจะเป็นมะเร็ง
ผู้ป่วยถูกส่งตัวเข้ารับการผ่าตัดเอาก้อนเนื้อในกระเพาะออกทันที พร้อมทั้งเข้าสู่กระบวนการรักษามะเร็ง
ความผิดพลาด 2 ข้อที่เพิ่มความเสี่ยงต่อมะเร็ง
ดร.หวังกล่าวว่าผู้ป่วยทำผิดพลาดสองข้อใหญ่ที่เพิ่มความเสี่ยงต่อมะเร็งกระเพาะอาหาร
-
ปล่อยให้เป็นแผลในกระเพาะอาหารนานเกิน 10 ปีโดยไม่ไปพบแพทย์ ดร.หวังอธิบายว่า การที่แผลในกระเพาะอาหารเรื้อรังจากการติดเชื้อ HP โดยไม่ได้รับการรักษาทันท่วงที อาจทำให้เซลล์ในกระเพาะอาหารถูกทำลายต่อเนื่อง เมื่อต้องสร้างเซลล์ใหม่อาจเกิดความผิดปกติและนำไปสู่มะเร็ง
-
มีพฤติกรรมการกินที่ไม่ดีต่อสุขภาพ การรับประทานอาหารรสเค็ม อาหารที่มีไขมันสูง และดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป อาจทำให้แผลในกระเพาะอาหารแย่ลง ส่งผลให้เกิดการทำลายเซลล์กระเพาะและเพิ่มความเสี่ยงต่อมะเร็ง
ดร.หวัง เว่ยตี้ กล่าวว่ามะเร็งกระเพาะอาหารมักไม่มีอาการชัดเจนในระยะแรก ทำให้ผู้ป่วยละเลยและไม่ได้รับการตรวจรักษา ทำให้เนื้องอกพัฒนาอย่างรวดเร็ว
หากร่างกายมีอาการ เช่น อาการแสบร้อนกลางอก เบื่ออาหาร แน่นท้อง อาหารไม่ย่อย ปวดหรือแสบท้อง อุจจาระสีดำหรือมีเลือด น้ำหนักลด เหนื่อยล้า ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัย
เพื่อป้องกันมะเร็งกระเพาะอาหาร ควรปฏิบัติตามคำแนะนำดังนี้
- สร้างพฤติกรรมการกินที่ดี: เพิ่มการบริโภคผัก ผลไม้ ลดการบริโภคอาหารรสจัด อาหารแปรรูปที่มีเกลือสูง และลดการดื่มแอลกอฮอล์
- รักษาสมดุลการทำงานและการพักผ่อน: ควรนอนหลับให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงการนอนดึก และลดความเครียดที่มากเกินไป