หมอมาเตือนเอง 6 พฤติกรรมการกินที่ต้องระวัง ถ้ายังกินแบบนี้ต่อไป มะเร็งมาแน่!

หมอมาเตือนเอง 6 พฤติกรรมการกินที่ต้องระวัง ถ้ายังกินแบบนี้ต่อไป มะเร็งมาแน่!

หมอมาเตือนเอง 6 พฤติกรรมการกินที่ต้องระวัง ถ้ายังกินแบบนี้ต่อไป มะเร็งมาแน่!
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

คำเตือนจากแพทย์ เผย 6 พฤติกรรมการกินที่ต้องระวัง กินแบบนี้ต่อไป เสี่ยง "มะเร็ง" ถามหา

เว็บไซต์ ETtoday รายงานว่า นายแพทย์หวงเซวียน ผู้เชี่ยวชาญโรคร้ายแรง ได้โพสต์เตือนบนโซเชียล ระบุว่า วิถีชีวิตที่เร่งรีบและพฤติกรรมการกินที่เปลี่ยนไป ทำให้คนยุคปัจจุบันเผชิญความเสี่ยงด้านสุขภาพจากอาหารมากขึ้น โดยเฉพาะ "มะเร็ง" ซึ่งเป็นหนึ่งในภัยร้ายสำคัญ พร้อมวิเคราะห์ 6 พฤติกรรมการกินยอดฮิต ที่อาจเพิ่มความเสี่ยงมะเร็งอย่างมาก แต่กลับถูกมองข้ามบ่อยครั้ง

6 พฤติกรรมการกิน ที่อาจเพิ่มความเสี่ยงมะเร็ง

1. การบริโภคอาหารแปรรูปมากเกินไป

ข้อแรก หมอหวงเซวียน ชี้ว่า การบริโภคอาหารแปรรูปมากเกินไป เป็นอันตราย เนื่องจากมีปริมาณเกลือ น้ำตาล และสารปรุงแต่งสูง หากกินต่อเนื่องในระยะยาว อาจกระตุ้นการอักเสบและเพิ่มอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็ง โดยเฉพาะ เนื้อสัตว์แปรรูป ที่มีความเชื่อมโยงกับมะเร็งลำไส้ใหญ่อย่างชัดเจนจากงานวิจัยหลายชิ้น ทั้งนี้ การวิเคราะห์ข้อมูลพบว่า การกินเนื้อสัตว์แปรรูปเกิน 50 กรัมต่อวัน อาจเพิ่มความเสี่ยงมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้ถึง 18%

2. กินเนื้อแดงมากเกินไป

กินเนื้อแดงมากเกินไปก็เสี่ยง หมอหวงเซวียน เผยว่า การบริโภคเนื้อแดงเกิน 100 กรัมต่อวัน อาจเพิ่มความเสี่ยงมะเร็งลำไส้ใหญ่ถึง 17% เนื่องจากในเนื้อแดงมี ไนโตรซามีน และ พอลิไซคลิกอะโรมาติกไฮโดรคาร์บอน (PAHs) ที่เกิดจากกระบวนการปรุงอาหาร เช่น การย่างหรือทอด ไนโตรซามีนอาจถูกเปลี่ยนเป็นสารก่อมะเร็งในสภาวะกรดในกระเพาะหรือความร้อนสูง ขณะที่ PAHs ซึ่งเกิดขึ้นระหว่างการย่างหรือทอด อาจกระตุ้นการกลายพันธุ์ของยีนและเพิ่มความเสี่ยงมะเร็งโดยตรง

3. การกินผักผลไม้และธัญพืชไม่เพียงพอ

ขาดใยอาหาร เสี่ยงมะเร็งลำไส้ใหญ่! หมอหวงเซวียนอธิบายว่า การกินผักผลไม้และธัญพืชไม่เพียงพอ อาจทำให้สมดุลของจุลินทรีย์ในลำไส้เสียหาย ส่งผลให้ระบบป้องกันในลำไส้อ่อนแอลง และเพิ่มความเสี่ยงต่อมะเร็งลำไส้ใหญ่

งานวิจัยจากเกาหลีเผยว่า ผู้ชายที่บริโภคพืชผักมากที่สุด มีโอกาสเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่น้อยลงถึง 23% เมื่อเทียบกับผู้ที่กินน้อยที่สุด นอกจากนี้ สถาบันวิจัยมะเร็งสหรัฐยังพบว่า การบริโภคธัญพืชเต็มเมล็ดวันละ 80 กรัม ช่วยลดความเสี่ยงมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้ถึง 17%

4. การบริโภคน้ำตาลสูงต่อเนื่อง

กินของหวานมากเกินไป อันตราย หมอหวงเซวียน เตือนว่า การบริโภคน้ำตาลสูงต่อเนื่อง อาจนำไปสู่โรคอ้วนและภาวะดื้อต่ออินซูลิน ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับการเกิดมะเร็งเต้านมและมะเร็งตับอ่อน

5. การกินอาหารไม่สม่ำเสมอ

กินไม่เป็นเวลาหรือกินจนอิ่มเกินไป เสี่ยงมะเร็งเพิ่มขึ้น หมอหวงเซวียนอธิบายว่า การกินอาหารไม่สม่ำเสมอ อาจทำให้ระบบเผาผลาญผิดปกติ ส่งผลให้ความไวต่ออินซูลินลดลง น้ำตาลในเลือดแปรปรวน และการสะสมไขมันเพิ่มขึ้น ซึ่งไม่เพียงแต่เพิ่มความเสี่ยงโรคอ้วนและเบาหวาน แต่ยังเชื่อมโยงกับมะเร็งหลายชนิด เช่น มะเร็งเต้านม มะเร็งลำไส้ใหญ่ และมะเร็งตับอ่อน

นอกจากนี้ การกินเยอะเกินหรือกินเร็ว ยังเสี่ยงมะเร็งหลายชนิด หมอหวงเซวียนเตือนว่า การกินอาหารในปริมาณมากเกินไปในเวลาอันสั้น อาจทำให้เกิดโรคอ้วนและระบบเผาผลาญแปรปรวน งานวิจัยชี้ว่าโรคอ้วนมีความเชื่อมโยงกับมะเร็งหลายชนิด เช่น มะเร็งเต้านม มะเร็งลำไส้ใหญ่ และมะเร็งตับอ่อน นอกจากนี้ การกินเร็วหรือกินแบบไม่มีสติ ยังเพิ่มความเสี่ยงต่อมะเร็งหลอดอาหารอีกด้วย

6. การดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณที่มากเกินไป

ดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป อันตรายกว่าที่คิด หมอหวงเซวียนชี้ว่า การดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณที่มากเกินไป เพิ่มความเสี่ยงมะเร็ง 6 ชนิด เช่น มะเร็งศีรษะและลำคอ มะเร็งตับ และมะเร็งกระเพาะอาหาร รวมถึงโรคอีกกว่า 200 ชนิด จากข้อมูลปี 2019 พบว่า 5.4% ของผู้ป่วยมะเร็งในสหรัฐมีสาเหตุมาจากการดื่มแอลกอฮอล์ ขณะเดียวกัน งานวิจัยอื่นยังเผยว่า การดื่มแอลกอฮอล์จำนวนมากในช่วงวัยรุ่น อาจเพิ่มความเสี่ยงมะเร็งลำไส้ใหญ่ก่อนอายุ 50 ปี ได้ถึง 150%

ลดความเสี่ยงมะเร็งด้วยการเลือกกินอย่างมีสติ 

หมอหวงเซวียน แนะนำว่า การรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ เป็นปัจจัยสำคัญในการลดความเสี่ยงมะเร็ง โดยควรกินผักผลไม้และธัญพืชให้มากขึ้น, เสริมไขมันที่ดีต่อร่างกาย, ดื่มน้ำให้เพียงพอ, เพิ่มการรับประทานจุลินทรีย์และอาหารหมัก, คำนึงถึงเวลาและระเบียบในการกิน, รักษาน้ำหนักตัวให้เหมาะสม

นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงการกินเนื้อสัตว์แปรรูปและเนื้อแดง, จำกัดการบริโภคน้ำตาลและอาหารแคลอรี่สูง, หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์เกินพอดี, และลดการดื่มน้ำหวานและอาหารเค็ม เพื่อปรับปรุงสุขภาพและลดความเสี่ยงมะเร็งอย่างเห็นผล

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook