บทเรียนเด็กสาววัย 17 กินน้ำอัดลมแทนน้ำ ผ่านไปปีเดียวสะพรึง หน้าสวยแต่ "ยิ้มไม่ได้"

บทเรียนเด็กสาววัย 17 กินน้ำอัดลมแทนน้ำ ผ่านไปปีเดียวสะพรึง หน้าสวยแต่ "ยิ้มไม่ได้"

บทเรียนเด็กสาววัย 17 กินน้ำอัดลมแทนน้ำ ผ่านไปปีเดียวสะพรึง หน้าสวยแต่ "ยิ้มไม่ได้"
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

บทเรียนเด็กสาววัย 17 กินน้ำอัดลมแทนน้ำ ผ่านไปปีเดียวสะพรึง หน้าสวยแต่ "ยิ้มไม่ได้" เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นในปาก

เด็กหญิงวัย 17 ปี ในจีนแผ่นดินใหญ่ ฟันของเธอเริ่มเปลี่ยนสีจากคราบสกปรกที่เกาะแน่น เช่น ขาวขุ่น น้ำตาล และดำ ก่อนเกิดฟันผุหลายจุดขนาดเท่าเมล็ดข้าว เพียงแค่จิบน้ำอุ่นก็เพียงพอที่จะกระตุ้นความเจ็บปวดได้ สองเดือนก่อน เธอจึงตัดสินใจไปพบแพทย์ และพบว่าฟันของเธอ 15 ซี่ถูก "ทำลาย" จากการดื่มโค้ก เธอรู้สึกเสียใจอย่างมาก

ตามรายงานของสื่อจีน วัง เล่ย วัย 17 ปี ได้ไปโรงพยาบาลทันตกรรมมหาวิทยาลัยอู่ฮั่นเมื่อสองเดือนก่อน นายแพทย์วัง ลี่ บรรยายว่าแม้เธอจะมีรูปร่างหน้าตาสวยงาม แต่สุขภาพฟันของเธออยู่ในสภาพเลวร้ายมาก ขณะเข้ารับการรักษา เธอไม่สามารถอ้าปากได้มากนัก

หลังจากสอบถามพบว่าเธอเริ่มมีนิสัยดื่มโค้กแทนน้ำทุกวันเมื่อปีที่แล้ว โดยดื่มวันละ 4-5 ขวดและไม่เคยแปรงฟันตอนกลางคืน ฟันของเธอเริ่มเปลี่ยนเป็นสีขาวขุ่น น้ำตาล และดำจากคราบสกปรก และเมื่อสารกรดกัดกร่อนฟัน ฟันเริ่มอ่อนตัวและเกิดฟันผุจำนวนมาก ภายในหนึ่งปี ฟันของเธอมีรอยผุขนาดเท่าเมล็ดข้าวหลายจุด และเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา เพียงแค่จิบน้ำหรือเจอลมเย็นก็สามารถกระตุ้นความเจ็บปวดได้

แพทย์ตัดสินใจเคลือบฟลูออไรด์หรือใช้เรซินเจาะลึก สำหรับฟันที่ผุแต่ยังไม่ถึงโพรงประสาทฟัน สามารถอุดฟันได้ แต่หากเกิดโพรงประสาทอักเสบจะต้องทำการรักษารากฟัน เพื่อกำจัดการติดเชื้อในโพรงและรากฟัน หลังจากการรักษาอย่างเป็นระบบเป็นเวลา 2 เดือน ฟันของเธอไม่ไวต่อความรู้สึกอีกต่อไป และที่สำคัญ สีฟันกลับมาขาวเหมือนเดิม

แพทย์เตือนว่าเครื่องดื่มอัดลมมีส่วนผสมที่เป็นกรด การบริโภคเครื่องดื่มอัดลมในปริมาณมากเป็นเวลานานจะกัดกร่อนเคลือบฟันบนผิวฟัน เมื่อเคลือบฟันเสียหาย ฟันจะไวต่อความรู้สึก ทำให้เกิดความเจ็บปวดต่อสิ่งกระตุ้นต่างๆ เช่น เย็น ร้อน เปรี้ยว และหวาน ส่งผลต่อการกินและการใช้ชีวิตประจำวัน และในกรณีที่รุนแรง อาจนำไปสู่การเกิดฟันผุ ดังนั้นจึงควรลดการบริโภคเครื่องดื่มอัดลม รักษาความสะอาดช่องปากทุกวัน และตรวจสุขภาพช่องปากอย่างสม่ำเสมอ

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook