ไทยก็มีกิน! ต่างชาติอวยผัก "ราชินีใบเขียว" วิตามินซีเหนือมะนาว ช่วยคุมน้ำตาล-ป้องกันมะเร็ง

รู้หรือไม่? มีผักที่ต่างชาติยกเป็น "ราชินีผักใบเขียว" วิตามินซีมากกว่ามะนาวถึง 3 เท่า ช่วยคุมน้ำตาลในเลือด ป้องกันมะเร็ง และดีต่อหัวใจ

ผักเคล (Kale) หรือเรียกอีกชื่อว่าคะน้าใบหยัก เป็นพืชในตระกูลเดียวกับกะหล่ำและบรอกโคลี มีสีเขียวเข้มขอบใบโค้งเป็นวงกลมเล็กๆ ผักชนิดนี้เป็นที่รู้จักโดยเนื้อแท้ว่าเป็นสุดยอดอาหาร จนถึงกับถูกเรียกว่า "ราชินีแห่งผักใบเขียว" เนื่องจากมีสารอาหารมากมายที่ดีต่อร่างกายจริงๆ

ตามที่ผู้เชี่ยวชาญระบุ ผักเคลยังมีปริมาณวิตามินซีสูงเป็น 2-3 เท่าของส้มและมะนาวอีกด้วย โดยผักเคล 100 กรัม มีวิตามินซีประมาณ 104-120 มก. ในขณะที่ส้มมีวิตามินซี 53 มก. และมะนาว 29 มก. และจากข้อมูลของ HuffPost ผักเคล60 กรัม มีวิตามินซีสูงถึง 134% ของปริมาณวิตามินซีที่แนะนำต่อวัน ในขณะเดียวกัน ส้ม 1 ผล (ประมาณ 131 กรัม) มีวิตามินซีเพียง 113% ของปริมาณวิตามินซีที่จำเป็นเท่านั้น

จากข้อมูลของกระทรวงเกษตรของสหรัฐอเมริกา ผักเคลปรุงสุกหนึ่งถ้วยมีแคลอรี่ประมาณ 42 แคลอรี่ น้ำ 106 กรัม และไขมัน 1.4 กรัม นอกเหนือจากเส้นใย โปรตีน วิตามิน แคลเซียม แมกนีเซียม และโพแทสเซียม ด้วยคุณค่าทางโภชนาการที่น่าประทับใจนี้เอง จึงได้รับการการันตีจากผู้เชี่ยวชาญ และยังมีคุณประโยชน์น่าทึ่งอีกมายมายที่หลายคนอาจไม่รู้ เช่น

ควบคุมน้ำตาลในเลือด

นักวิจัยชี้ให้เห็นว่า ผักเคลมีสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิด โดยเฉพาะกรดอัลฟาไลโปอิก สารนี้ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด และปรับปรุงความไวของอินซูลิน รวมทั้งชะลอการดูดซึมคาร์โบไฮเดรตด้วยปริมาณเส้นใยที่อุดมสมบูรณ์  ผลการศึกษาในปี 2015 โดยมหาวิทยาลัยการแพทย์ Tanzhou ประเทศจีน แสดงให้เห็นว่าอาหารที่อุดมด้วยผักตระกูลกะหล่ำ เช่น ผักคะน้า ผักใบเขียว และผลเบอร์รี่ (สตรอเบอร์รี่ บลูเบอร์รี่) สามารถลดความเสี่ยงของโรคเบาหวานประเภท 2 ได้ เนื่องจากมีเส้นใยสูง

ดีต่อหัวใจ

ผักเคลมีสารประกอบหลายชนิดที่ดูดซับกรดน้ำดีในร่างกาย จึงช่วยลดคอเลสเตอรอลส่วนเกินในเลือด นอกจากนี้กรดโอเมก้า 3 และวิตามินซี เค และโพแทสเซียมที่พบในผักนี้ ยังมีประโยชน์มากมายในการปรับปรุงสุขภาพหัวใจและหลอดเลือดอีกด้วย

ป้องกันการเกิดมะเร็ง

ผักเคลแสดงให้เห็นว่ามีสารประกอบหลายชนิดที่เชื่อกันว่าช่วยปกป้องร่างกายจากการก่อตัวของเซลล์มะเร็ง โดยเฉพาะกลูโคซิเนตช่วยยับยั้งและชะลอการเจริญเติบโตของเนื้องอกตลอดจนเอนไซม์ที่เกี่ยวข้องกับมะเร็ง นอกจากนี้ซัลโฟราเฟน และอินโดล-3-คาร์บินอล (I3C) ยังเป็นสารต้านมะเร็งอีก 2 ชนิดที่พบในผักชนิดนี้

ปรับปรุงการมองเห็น

ลูทีน และซีแซนทีน เป็นสารที่สามารถปกป้องและปรับปรุงสุขภาพดวงตาจากผลกระทบของแสงแดด ดังนั้นผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการจึงแนะนำให้เพิ่มที่มีสารอาหารเหล่านี้ในมื้อประจำวัน เช่น ผักโขม มะเขือเทศ ผักตระกูลกะหล่ำ แน่นอนว่ารวมทั้งผักเคลด้วย

ช่วยเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง

ผักเคลมีแคลเซียม โพแทสเซียม และวิตามินเคจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งแคลเซียมในผักชนิดนี้มีการศึกษาแสดงให้เห็นว่า เทียบเท่ากับนมหนึ่งแก้ว ซึ่งช่วยปรับปรุงสุขภาพกระดูกและข้อต่อ ในขณะที่โพแทสเซียมและวิตามินเค ช่วยส่งเสริมความหนาแน่นของกระดูกให้สูงขึ้น ซึ่งสามารถป้องกันโรคกระดูกพรุนได้

เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน

ด้วย "คลัง" สารอาหารที่อุดมสมบูรณ์ ผักเคลได้รับการยืนยันจากผู้เชี่ยวชาญว่ามีความสามารถในการปรับปรุงและเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งรวมถึงสารต่างๆ เช่น วิตามินซี วิตามินเค ซีลีเนียม และเบต้าแคโรทีน

สารต้านอนุมูลอิสระ

ผักเคลอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น ฟลาโวนอยด์ โพลีฟีนอล เบต้าแคโรทีน กลูโคซิโนเลต และวิตามินซี สารเหล่านี้ช่วยควบคุมกระบวนการออกซิเดชั่นในร่างกาย และได้รับการพิสูจน์แล้วว่าป้องกันโรคเรื้อรังหลายชนิด แม้กระทั่งมะเร็งด้วยเช่นเดียวกัน

• กินเต้าหู้เยอะเสี่ยงมะเร็งไหม? หมอเฉลยให้ พร้อมเผยชื่อ 4 อาหารที่เป็น "ตัวนำโรค" ของจริง!
• แพทย์อเมริกัน แนะนำเครื่องดื่ม 3 ชนิด ที่ตับและระบบย่อยอาหาร "ชอบ" ทุกอย่างมีขายในไทย!