งดเครื่องดื่ม 1 อย่าง เคล็ดลับยายวัย 90 ยังสมองดี-ร่างกายแข็งแรง ทำงานเต็มเวลาทุกวัน!

งดเครื่องดื่ม 1 อย่าง เคล็ดลับยายวัย 90 ยังสมองดี-ร่างกายแข็งแรง ทำงานเต็มเวลาทุกวัน!

งดเครื่องดื่ม 1 อย่าง เคล็ดลับยายวัย 90 ยังสมองดี-ร่างกายแข็งแรง ทำงานเต็มเวลาทุกวัน!
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ยายวัย 90 ปี ยังคงไปทำงานทุกวัน เผยเคล็ดลับคือการงดเครื่องดื่ม 1 ประเภท พร้อมด้วย 2 นิสัยง่ายๆ ที่ไม่มีค่าใช้จ่ายแม้แต่บาทเดียว

ลีโอนี เพนเดอร์กัสต์ คุณยายชาวออสเตรเลีย ปัจจุบันอายุ 90 ปี ยังคงทำงานเต็มเวลาที่ร้านขายนาฬิกาของครอบครัว “ฉันชอบพบปะผู้คนและดูแลร้าน ฉันเชื่อมั่นว่าเมื่อฉันอายุมากขึ้น ตราบใดที่ฉันยังมีสุขภาพแข็งแรงเพียงพอ การทำงานจะดีกว่าการพักผ่อน” เธอบอก

จากข้อมูลของ Business Insider ครอบครัวสามีของเธอเป็นผู้บุกเบิกในเมืองโอเมโอ ประเทศออสเตรเลีย ซึ่งเป็นเมืองเล็กๆ ที่มีประชากร 411 คน จากการสำรวจสำมะโนประชากรปี 2021 ลูกสาวของเธอและสามีสร้างร้านนาฬิกานางฟ้าแห่งแรกที่นี่ อย่างไรก็ตาม เมืองนี้เงียบเกินไปสำหรับคู่รักหนุ่มสาว ดังนั้น พวกเขาจึงตัดสินใจย้ายออกไปจากเมืองนี้ และทิ้งร้านให้เธอรับช่วงต่อ ปัจจุบันเธอทำงานที่นี่มาแล้ว 26 ปี

ต่อมา เธอ, สามี และลูกชาย ได้ซื้อกิจการเพิ่มเติมอีกหนึ่งแห่งคือ Omeo Rural and Hardware Supplies. โดยที่ "โทนี่" สามีของเธอ ยังคงทำงานที่ร้านขายเครื่องมือและขับรถบรรทุกทุกวันด้วย ขณะที่ร้านนาฬิกาหลังจากทำงานมา 26 ปี เธอได้ตัดสินใจขายอาคารที่ตั้งของร้านแรก อย่างไรก็ดี เมื่อลูกสาวของเธอกลับมาบ้านเกิดในหว่างโควิด-19 ระบาด ก็ได้เปิดร้านใหม่ในขนาดที่เล็กลง จากนั้นเธอจึงกลับมาทำงานที่ร้านนาฬิกาอีกครั้ง

โดยทั่วไปแล้ว เธอจะเปิดร้านนาฬิกาตั้งแต่ 10.00-17.00 น. ทำหน้าที่ทุกอย่างเองคนเดียวในร้าน ไม่เพียงเท่านั้น เธอยังรับหน้าที่ซักผ้าต่างๆ ให้กับร้านเบเกอรี่ของครอบครัว ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากร้านนาฬิกาด้วย และเมื่อพูดถึงเคล็ดลับการรักษาสุขภาพที่ดีในวัย 90 ปี เธอยืนยันว่าส่วนหนึ่งเป็นเพราะพันธุกรรม แต่ก็ไม่ลืมที่จะพูดถึง "ลักษณะนิสัยที่ดี" ที่ทำให้เธอมีสุขภาพแข็งแรงมาจนปัจจุบัน

ไม่ดื่มแอลกอฮอล์และไม่สูบบุหรี่

เนื่องจากเติบโตในครอบครัวที่มีร้านขายเหล้า คุณยายได้เห็นเรื่องราวด้านลบมากมายเกี่ยวกับการบริโภคแอลกอฮอล์เกินขนาด ดังนั้นจึงตัดสินใจ "ปฏิเสธ" ทั้งเหล้าและบุหรี่ตั้งแต่เนิ่นๆ

องค์การอนามัยโลกระบุว่า ไม่มีระดับการดื่มแอลกอฮอล์ใดที่ปลอดภัยสำหรับสุขภาพ โดยจากการเผยแพร่ของ European Journal of Public Health ในปี 2017 พบว่าแม้จะดื่มแค่เล็กน้อยหรือดื่มวันละหนึ่งแก้ว ก็เป็นสาเหตุของการเกิดมะเร็งถึง 13.3% จากจำนวน 3,723,600 รายในแต่ละปีที่เกิดขึ้นในยุโรป

แอลกอฮอล์เกี่ยวข้องกับปัญหาสุขภาพหลายประการ เช่น ปัญหาหัวใจ โรคตับ มะเร็งบางประเภท และโรคสมองเสื่อม นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์กล่าวว่า ความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตก่อนวัยจะเพิ่มขึ้นตามปริมาณแอลกอฮอล์ที่บริโภค และผู้เชี่ยวชาญยังกล่าวว่า สำหรับคนอายุ 40 ปีขึ้นไป การดื่มแอลกอฮอล์เกินกว่าขีดจำกัดที่กำหนด จะทำให้ชีวิตสั้นลงเฉลี่ย 15 นาที ซึ่งเป็นเวลาที่เท่ากับการสูบบุหรี่หนึ่งมวน

เช่นเดียวกับแอลกอฮอล์ บุหรี่ก็เป็นอีกหนึ่งตัวทำลายอายุขัย โดยจากการศึกษาในระยะ 50 ปี จากคณาจารย์มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ที่เผยแพร่ในวันที่ 22 มิถุนายน 2004 พบว่า ผู้ที่สูบบุหรี่จะเสียชีวิตก่อนผู้ที่ไม่สูบบุหรี่ถึง 10 ปีโดยเฉลี่ย และการสูบบุหรี่ทำให้เกิดโรคประมาณ 25 โรค อย่างไรก็ตาม หากเลิกสูบบุหรี่ได้แม้ในวัย 50 ปี ก็จะสามารถเพิ่มอายุขัยได้อีก 5 ปี และหากเลิกสูบในวัย 30 ปี ก็จะสามารถหลีกเลี่ยงความเสี่ยงนั้นได้ทั้งหมด

การเคลื่อนไหวร่างกาย

"ฉันคิดว่าการรักษาความเคลื่อนไหวสำคัญมาก ทุกคนไม่ควรนั่งนิ่งเกินไปเป็นเวลานาน ฉันทำงานที่ร้านแต่ก็เคลื่อนไหวตลอดเวลา โดยเฉพาะการขึ้นบันได" คุณยายวัย 90 ปีเผย

การศึกษาใน American Journal of Medicine พบว่า คนที่นั่งมากกว่า 11 ชั่วโมงต่อวัน เมื่อเทียบกับคนที่นั่งเพียง 4 ชั่วโมงต่อวัน จะมีอัตราการเสียชีวิตเพิ่มขึ้น 40% ภายใน 3 ปีถัดไป

ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพแนะนำให้หลีกเลี่ยงการนั่งนานเกินไป ควรลุกขึ้นมาเคลื่อนไหวทุก 45 นาที เดินหรือดื่มน้ำให้เพียงพอ ควรออกกำลังกาย 30 นาที ถึง 1 ชั่วโมงต่อวัน เดิน 10,000 ก้าว และเน้นกิจกรรมกลางแจ้ง โดยสำหรับผู้สูงอายุ สามารถเลือกทำกิจกรรมเบาๆ เช่น เดิน ว่ายน้ำ โยคะ หรือแอโรบิก ซึ่งเป็นการออกกำลังกายที่ช่วยรักษาความฟิตของร่างกาย

ดำเนินชีวิตด้วยความเชื่อมั่น

คุณยายท่านนี้กล่าวว่า ความเชื่อมั่นเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ช่วยให้ตนเองมีชีวิตยืนยาว เนื่องจากเชื่อว่าสิ่งดีๆ จะมาถึงในอนาคต ครอบครัวของเธอสามารถผ่านเหตุการณ์เลวร้ายที่สุดมาได้ รวมถึงเหตุไฟป่าที่ทำให้ทั้งครอบครัวต้องย้ายออกจากบ้านเป็นเวลาถึง 10 วัน

สอดคล้องกับที่ ดร.เดวิด ฟาห์ จากมหาวิทยาลัยซูริค เคยกล่าวไว้ว่า คนที่มีทัศนคติเชิงบวก มักจะคิดบวก เชื่อมั่นในตนเอง และพอใจกับตัวเอง จะมีโอกาสมีชีวิตยืนยาวมากกว่าคนที่มองโลกในแง่ร้าย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook