สาวสอบไม่ติดมหา'ลัย ต้องมาเป็นลูกจ้างโรงงาน 16 ปี เพิ่งรู้ความจริง ถูกเพื่อน "ขโมย" ชีวิต

สาวสอบไม่ติดมหา'ลัย ต้องมาเป็นลูกจ้างโรงงาน 16 ปี เพิ่งรู้ความจริง ถูกเพื่อน "ขโมย" ชีวิต

สาวสอบไม่ติดมหา'ลัย ต้องมาเป็นลูกจ้างโรงงาน 16 ปี เพิ่งรู้ความจริง ถูกเพื่อน "ขโมย" ชีวิต
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สาวสอบไม่ติดมหาวิทยาลัย ต้องมาเป็นลูกจ้างโรงงาน 16 ปี เพิ่งรู้ว่าที่จริงสอบติด แต่ถูกเพื่อน "ขโมย" ชีวิต รวบผู้ต้องหา 46 คน!

กลายเป็นเรื่องราวอื้อฉาวของระบบการศึกษาจีน และสร้างความสะเทือนใจให้กับสังคม จนบีบให้รัฐบาลต้องดำเนินการสอบสวน สำหรับเรื่องราวของ เฉินซวนถู สาวโรงงานรายหนึ่ง ที่ถูกขโมยชื่อ รวมทั้งชีวิตและอนาคตของเธอไปนานกว่า 16 ปี

ในปี 2004 เฉินซวนถู หญิงสาววัย 20 ปีจากประเทศจีน สอบเข้ามหาวิทยาลัยด้วยความมั่นใจ อย่างไรก็ตาม หลังการสอบ เธอกลับไม่ได้รับจดหมายตอบรับการเข้าเรียน

เมื่อเชื่อว่าตัวเองสอบไม่ผ่าน เฉินซวนถูจึงออกจากบ้านเกิดด้วยความผิดหวัง และเดินทางไกลหลายร้อยกิโลเมตรไปทำงานในเมืองเยียนไถ ตลอด 16 ปีที่ผ่านมา ความเสียใจจากการไม่ได้ไปมหาวิทยาลัยยังคงตามหลอกหลอนเธอ เธอต้องทนต่อการดูถูกและความลำบาก เพราะไม่มีวุฒิการศึกษา ผ่านไป 16 ปี เธอเพิ่งรู้ความจริงว่า ในปีนั้นเธอสอบติดมหาวิทยาลัยแล้ว แต่กลับมีคนอื่นแอบอ้างชื่อและใช้สิทธิ์เข้าเรียนแทน

"ฉันเป็นคนที่ตั้งใจเรียนอย่างหนัก แต่คนอื่นกลับมาเก็บเกี่ยวผลสำเร็จแทน" เธอเล่าอย่างโกรธแค้น การปลอมแปลงครั้งนี้ไม่เพียงแต่ขโมยตัวตนและความสำเร็จของเธอ แต่ยังขโมยอนาคตที่เธอควรจะได้รับด้วย

ความฝันที่พังทลาย

เฉินซวนถูเกิดในปี 1984 ในครอบครัวเกษตรกรยากจนในอำเภอฉวน เมืองเหลียวเฉิง มณฑลซานตง เพื่อเลี้ยงดูเธอ พ่อแม่ต้องขายทรัพย์สินมีค่าในบ้าน โดยหวังว่าเธอจะหลุดพ้นจากความยากจนและเปลี่ยนแปลงโชคชะตา

เฉินซวนถูไม่ทำให้พ่อแม่ผิดหวัง ตั้งแต่เด็กเธอขยันและเรียนเก่ง เนื่องจากฐานะทางบ้านยากจน เธอต้องกินข้าวกับผักดองตลอด 3 ปีในช่วงมัธยมปลาย และไม่กล้าซื้อเสื้อผ้าใหม่แม้ของเดิมจะขาด ขณะเดียวกัน เธอมักเดินเท้าผ่านภูเขาหลายชั่วโมงเพื่อกลับบ้าน แทนการนั่งรถบัสเพื่อประหยัดเงิน

ในปี 2004 เธอเข้าสอบเข้ามหาวิทยาลัยด้วยความตื่นเต้นและมั่นใจ หลังสอบเสร็จ เธอบอกพ่อแม่ว่า "ไม่ต้องห่วงค่ะ หนูทำได้ดีมาก หนูต้องสอบติดแน่นอน"

เธอยื่นใบสมัครไปยังมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีซานตงและโรงเรียนอื่นๆ ในเซี่ยงไฮ้ เนื่องจากครอบครัวไม่มีโทรศัพท์ เธอจึงเขียนที่อยู่บ้านเพื่อนบ้านสำหรับรับจดหมายตอบรับ ช่วงฤดูร้อน เธอช่วยพ่อแม่ทำงานในไร่ขณะที่รอจดหมาย แต่ไม่ว่าเธอจะถามเพื่อนบ้านกี่ครั้ง ก็ไม่เคยได้รับอะไรเลย

เมื่อถึงเดือนตุลาคม ขณะที่เพื่อนร่วมชั้นของเธอเริ่มเรียนมหาวิทยาลัยแล้ว เธอยังไม่ได้รับการตอบรับใดๆ เธอจึงคิดว่าตัวเองสอบไม่ผ่าน ด้วยความสิ้นหวัง เธอขังตัวเองในห้องและไม่กินไม่ดื่ม แม้พ่อแม่จะขอให้เธอลองสอบใหม่ แต่เธอก็ปฏิเสธอย่างหนักแน่น เพราะไม่อยากเพิ่มภาระให้ครอบครัว หลังจากนั้น เธอเก็บข้าวของและออกจากบ้านไปทำงานเป็นคนงานในโรงงานที่เมืองเยียนไถ

ชีวิตที่ถูกขโมย

ครั้งแรกที่เฉินซวนถูออกจากบ้าน เธอรู้สึกหลงทางและอ้างว้าง ไม่มีวุฒิการศึกษาและไม่มีคนรู้จัก เธอไม่สามารถเช่าห้องที่ราคาถูกที่สุดได้ เธอทำงานในโรงงานอาหารแช่แข็งที่มีอาหารและที่พักให้สำหรับคนงาน งานในสภาพหนาวเย็นทำให้มือของเธอแดงและแตกจนเจ็บทุกฤดูหนาว

เงินเดือนเพียงน้อยนิดทำให้เธอนึกถึงช่วงเวลาเรียน แต่ความทรงจำเหล่านั้นยิ่งทำให้เธอรู้สึกทุกข์ทรมานยิ่งขึ้น เพื่อนๆ ของเธอเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยแล้ว แต่เธอยังเป็นเพียงคนงานในสายการผลิต

หลายปีต่อมา เธอแต่งงานกับ หลี่จุนเหว่ย เพื่อนร่วมชั้นที่สอบเข้ามหาวิทยาลัยไม่ผ่านเหมือนกัน ทั้งสองเข้าใจกันและเริ่มต้นชีวิตเรียบง่าย ด้วยกำลังใจจากสามี ในปี 2019 เธอลงทะเบียนสอบเข้ามหาวิทยาลัยสำหรับผู้ใหญ่ และสอบติดโปรแกรมการเรียนทางไกลของมหาวิทยาลัยครูฉวี่ฝู

จนกระทั่งในเดือนพฤษภาคม 2020 ขณะตรวจสอบข้อมูลในระบบ เธอพบว่าเธอเคยเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีซานตงในช่วงปี 2004–2007 ข้อมูลทั้งหมดตรงกัน ยกเว้นรูปถ่ายของหญิงสาวคนหนึ่ง

ความจริงค่อยๆ เปิดเผยออกมาว่า เฉินซวนถูถูก เฉินเตี้ยนปิ่น เพื่อนสมัยมัธยมปลายแอบอ้างชื่อเข้าเรียน

ในปี 2004 เฉินเตี้ยนปิ่นสอบได้เพียง 303/750 คะแนน พ่อของเธอซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น ใช้เงิน 2,000 หยวน (ประมาณ 9,500 บาท) ซื้อนามสกุลและข้อมูลส่วนตัวของเฉินซวนถูผ่านคนกลาง เขาสมคบกับหัวหน้าสำนักงานรับสมัครนักเรียนอำเภอฉวนเพื่อปลอมแปลงเอกสาร

ในเดือนกันยายน 2004 เฉินเตี้ยนปิ่นได้รับจดหมายตอบรับเข้าโปรแกรมระดับวิทยาลัยของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีซานตง ซึ่งควรเป็นของเฉินซวนถู

ในปี 2007 หลังสำเร็จการศึกษา เธอปลอมแปลงทะเบียนบ้านในชื่อเฉินซวนถูอีกครั้ง สามเดือนต่อมา เธอสอบผ่านการคัดเลือกข้าราชการระดับตำบล และทำงานในตำแหน่งนี้เป็นเวลา 12 ปีโดยไม่กล้าเปิดเผยชื่อจริง

เมื่อเฉินซวนถูไปสอบถามที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีซานตง ทางมหาวิทยาลัยก็ยอมรับว่าในปี 2004 เฉินเตี้ยนปิ่นใช้ข้อมูลปลอมสมัครเข้าเรียน

ด้วยการช่วยเหลือจากสื่อ เหตุการณ์นี้สร้างความสะเทือนใจในสังคมและบีบให้รัฐบาลต้องสอบสวน ในที่สุด เฉินเตี้ยนปิ่นถูกปลดจากตำแหน่งและถูกริบปริญญา บุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมดถูกลงโทษอย่างรุนแรงตามกฎหมาย ตำรวจสอบสวนและจับกุมผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด 46 คน

ความยุติธรรมที่มาช้า

หลังจากผ่านไป 16 ปี เฉินซวนถูได้รับสิทธิ์เข้าเรียนมหาวิทยาลัยอีกครั้ง แต่เวลาที่สูญเสียไปไม่อาจหวนกลับมาได้ เธอเคยกล่าวว่า "ความยุติธรรมที่มาช้าไม่ใช่ความยุติธรรมอีกต่อไป ใครจะคืนเวลาที่ฉันสูญเสียไปให้ฉันได้?"

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook