ผวาทั้งหมู่บ้าน! ไอ้หื่นอาละวาด ข่มขืนคนชรา คุณยายอายุ 68 และ 78 ตกเป็นเหยื่อ

ผวาทั้งหมู่บ้าน! ไอ้หื่นอาละวาด ข่มขืนคนชรา คุณยายอายุ 68 และ 78 ตกเป็นเหยื่อ

ผวาทั้งหมู่บ้าน! ไอ้หื่นอาละวาด ข่มขืนคนชรา คุณยายอายุ 68 และ 78 ตกเป็นเหยื่อ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 24 ธ.ค.67 ที่มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ต.ลำผักกูด องธัญบุรี จ.ปทุมธานี ยาย 2 ราย อายุ 78 ปี และ 68 ปี ทั้งสองเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน เดินทางมาจาก จ.นครราชสีมา เข้าร้องทุกข์ต่อ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี รายแรก ถูกคนร้ายล่วงละเมิดเมื่อวันที่ 8 ส.ค. 67 หลังเกิดเหตุได้เข้าแจ้งความทันที

ผู้เสียหายรายที่ 2 ถูกคนร้ายล่วงละเมิดเมื่อวันที่ 14 ธ.ค. 67 หลังเกิดเหตุได้เข้าแจ้งความทันที โดยทั้ง 2 ยายถูกคนร้ายสวมไอ้โม่งล่วงละเมิดกลางทุ่งนากลางวันแสกๆ คาดเป็นคนร้ายคนเดียวกัน ยังจับกุมคนร้ายไม่ได้

เหตุการณ์นี้ ทำให้ผู้หญิงและชาวบ้านในหมู่บ้านหวาดผวากันทั่ว นอกจากนี้ยังมีหญิงชราอายุ 70 ปี อีก 1 ราย เกือบจะตกเป็นเหยื่อยังดีที่มีชาวบ้านผ่านมาเห็นคนร้ายเลยรีบเผ่นหนี เกรงผู้หญิงทั้งคนแก่และเด็กในหมู่บ้านจะเป็นอันตราย ชาวบ้านอยู่กันอย่างหวาดผวาไปกล้าออกไปทำนา เลี้ยงวัวควาย ขอช่วยติดตามคดีลากคอโจรหื่นมารับโทษตามกฎหมาย

หลังรับเรื่อง นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ได้โทรศัพท์ประสาน พล.ต.ต.ณรงค์ฤทธิ์ ด่านสุวรรณ ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา พร้อมกล่าวว่า คดีนี้ถือเป็นเรื่องร้ายแรงต้องให้ตำรวจเร่งจับกุมผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีโดยเร็ว เนื่องจากชาวบ้าน ผู้หญิง คนแก่หญิงชรา และเด็กหวาดกลัวกันมาก คาดว่าคนร้ายน่าจะเป็นคนในพื้นที่เพราะใส่หมวกไอ้โม่งปิดบังใบหน้ากลัวคนจะจำได้และรู้เส้นทางพื้นที่เป็นอย่างดี และมีพยานบอกว่าช่วงเกิดเหตุเห็นชายต้องสงสัยลักษณะเดียวกันกับที่ยายแจ้งวนเวียนอยู่แถวนั้น และนางปวีณา ยายผู้เสียหายทั้ง 2 คนไปติดตามคดีกับ พล.ต.ต.ณรงค์ฤทธิ์ ด่านสุวรรณ ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา เพื่อขอให้เร่งติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็ว

หญิงชรารายแรก อายุ 68 ปี กล่าวว่า ครอบครัวมีอาชีพทำนาปลูกข้าว เช้าวันที่ 8 ส.ค.67 ยายกับสามีและน้องสาวได้ออกไปเก็บต้นกล้าข้าวในที่นาท้ายหมู่บ้าน อ.บัวใหญ่ จ.นครราชสีมา ซึ่งห่างจากบ้านไปประมาณ 500-600 เมตร ยายไปบริเวณนั้นเป็นครั้งแรก พอใกล้เที่ยงสามีกับน้องสาวได้กลับเข้าไปบ้านก่อน เพราะยายยังเก็บต้นกล้าข้าวไม่เสร็จ จึงอยู่ที่นาคนเดียว จู่ๆ มีคนร้ายเป็นชาย 1 คนสวมหมวกไอ้โม่งปิดบังใบหน้าโผล่มาประชิดตัว รูปร่างผอม สูง สวมใส่เสื้อแขนยาว กางเกงยีนส์ เข้ามาทำทีถามว่า "มีจอบเสียมให้ยืมไหม?"

จากนั้นคนร้ายก็บีบคอฉุดลากยายไปใกล้บ่อน้ำกลางนา ระหว่างนั้นคนร้ายก็ถามว่า "ยายมีเงินไหม? เอาเงินมาให้หมด" ยายกลัวมากบอกว่า "ไม่มี" และได้แต่ร้องขอชีวิตว่าอย่าทำอะไรยายเลย คนร้ายก็ข่มขู่ห้ามส่งเสียงดัง ให้อยู่นิ่งๆ แล้วถลกเสื้อยายขึ้นมาปิดหน้าไม่ให้ยายมองอะไรก่อนจะลงมือล่วงละเมิดยายจนสำเร็จ แล้วคนร้ายก็ให้ยายหลับตาเป็นเวลา 10 นาที ถ้าก็ไม่กล้าลืมตาเพราะถูกข่มขู่ถ้าขัดขืนจะบีบคอให้ตายแล้วคนร้ายก็หลบหนีไป ยายรีบใส่เสื้อผ้ากลับมาบ้านบอกสามีและลูกๆ พากันไปแจ้งความที่ สภ.บัวใหญ่ทันที

ก่อนหน้าที่ยายจะถูกกระทำประมาณ 2 สัปดาห์ก็มียายคนหนึ่งในหมู่บ้าน อายุ 70 ปี ไปทุ่งนาเจอคนร้ายสวมไอ้โม่งลักษณะเดียวกันเข้ามาข้างหลังและจะเอาเงิน แต่พอดีมีชาวบ้านผ่านมาเห็นคนร้ายก็เลยรีบหนีไป ยายก็ไม่คิดว่าจะมาเกิดเรื่องกับตัวเอง หลังแจ้งความเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.บัวใหญ่ ได้ส่งตัวยายไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลและสอบปากคำเรียบร้อยแล้ว ที่ผ่านมาในหมู่บ้านมีคนติดยาดมสารระเหยเยอะซึ่งอันตรายมาก ทุกวันนี้ยายเครียดจนนอนไม่หลับ หวาดกลัวไปกล้าไปนาอีก จนหมอต้องให้ยาคลายเครียดมากิน ผ่านมา 4 เดือนอยู่ไม่เป็นสุขเสียขวัญลูกหลานต้องพาไปรดน้ำมนต์และยายก็ไม่กล้าอยู่คนเดียว เพราะตำรวจยังจับคนร้ายไม่ได้ ยายจึงปรึกษากับยายวัย 78 ปีที่ถูกล่วงละเมิดอีกรายเมื่อวันที่ 14 ธ.ค.67 พากันเดินทางมาขอให้มูลนิธิปวีณาฯ ช่วยติดตามคดี

ขณะที่ หญิงชรารายที่ 2 อายุ 78 ปี กล่าวว่า ยายกับผู้เสียหายรายแรกอยู่บ้านติดกัน วันเกิดเหตุ 14 ธ.ค.67 เวลาประมาณ 11.00 น ยายไปนาเก็บข้าวตามปกติทุกวัน ห่างจากจุดเกิดเหตุรายแรกประมาณ 1 กม. จู่ๆ ก็มีคนร้ายเป็นชายประชิดตัวเข้ามาทางด้านหลังบีบคอยาย ข่มขู่ไม่ให้หันไปมองจากนั้นก็ใช้หมวกผ้าที่ยายสวมใส่กันแดดปิดคลุมใบหน้ายายจนมองไม่เห็นอะไร คนร้ายได้ถามว่า "มีเงินไหม?" ในตัวยายมีเงินอยู่ 420 บาทมันก็ล้วงเอาไปหมด ยายบอกว่าจะไปแจ้งตำรวจมาจับ คนร้ายยังท้าทายบอกว่าไม่กลัว "ตำรวจทำอะไรไม่ได้เพราะมันแค่มาหาปู" จากนั้นคนร้ายก็บอกว่า "เอาซะหน่อย" ยายกลัวจนตัวสั่น คนร้ายได้ถอดกางเกงยายเอามามัดแขนยาย 2 ข้างไพล่หลังแล้วบังคับให้นอนลงก่อนจะทำการล่วงละเมิดยายจนสำเร็จความใคร่แล้วหลบหนีไป จากนั้นยายพยายามแก้มัดที่แขนจนหลุดแล้วรีบมาขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียง และเข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.บัวใหญ่ทันที

ก่อนหน้านี้รู้ข่าวยายคนแรกที่ถูกกระทำก็สงสาร ยายแก่มากแล้วไม่คิดว่าจะมาเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นกับตนเอง ตอนนี้ผู้หญิง คนแก่ และเด็กต่างหวาดผวากันไปหมด ไม่กล้าไปทุ่งนาหรือไม่ไหนมาไหนคนเดียว เพราะมีข่าวอีกว่ามีหญิงแก่อีก 1-2 คนที่ถูกกระทำแต่อับอายและหวาดกลัวไม่กล้าเข้าแจ้งความ อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดี ขอให้มูลนิธิปวีณาฯ ช่วยเหลือยาย 2 คนด้วย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook