อุปทูตซาอุฯโต้นายกฯบอกมีข้อมูลครบ

อุปทูตซาอุดิอาระเบียออกแถลงการณ์โต้นายกฯ ระบุ มีข้อมูลครบถ้วนเกี่ยวกับการแต่งตั้ง พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม เป็นผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมจี้ ให้ชี้แจงการแก้ไขปัญหา

นายนาบิล เอช อัซรี อุปทูตซาอุดิอาระเบีย ประจำประเทศไทย ออกแถลงการณ์ในวันนี้ (19) เพื่อชี้แจง และตอบโต้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี หลังการเข้าพบปะพูดคุยกันวานนี้ที่บ้านพิษณุโลก โดย  นายนาบิล เอช อัซรี แสดงความประหลาดใจ เกี่ยวกับการเผยแพร่ข่าว ที่ระบุว่า อุปทูตซาอุดิอาระเบียมีข้อมูลแบบเดาส่ง และจากการที่นายกรัฐมนตรีนายอภิสิทธิ์ กล่าวถึงตนว่า ดูเหมือนอุปทูตซาอุฯ จะมีข้อมูลไม่ครบถ้วนทั้งหมด เกี่ยวกับการเลื่อนตำแหน่ง พ.ต.ท.สมคิด บุญถนอม

โดยนายอัซรี ได้ย้ำถึงหน้าที่สำคัญของตนในฐานะตัวแทนรัฐบาลซาอุดิอาระเบีย คือการติดตามความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาที่ยังคาราคาซังอยู่ระหว่างไทยและซาอุดิอาระเบีย และเป็นหน้าที่ของตนเพื่อพยายามเจรจาปัญหากับรัฐบาลไทยเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดความตึงเครียดใดๆ เพิ่มมากขึ้น หรือเกิดภาวะแทรกซ้อนที่ไม่พึงประสงค์ในความสัมพันธ์ทวิภาคี อีกทั้งตนก็ได้รับข้อมูลล่วงหน้าเกี่ยวกับการการแต่งตั้ง พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม ผู้ที่มีความพัวพันกับการหายตัวไปของนายโมฮัมเหม็ด อัลรูไวลี่ นักธุรกิจชาวซาอุดีอาระเบีย ในปี พ.ศ.2533 เป็นผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ ทราบข้อมูลทั้งหมดเป็นอย่างดีไม่มีอะไรผิดเพี้ยนอีกด้วย แต่เจ้าหน้าที่ของรัฐบาลไทยที่ตนได้พบในช่วงนี้ มีความพยายามที่จะเสนอข้อมูลที่แตกต่างกัน และพยายามพูดถึงความแตกต่างทางกฏหมาย เพื่อนำมาใช้อธิบายปัญหา อย่างไรก็ดี ตนขอคัดค้านอย่างถึงที่สุดจากการแสดงความคิดเห็นโดยเจ้าหน้าที่ระดับสูงของไทย ที่อ้างว่า ตนมีการเข้าใจผิด หรือ มีข้อมูลไม่เพียงพอ

และจนถึงเวลาช่วงบ่ายของวันนี้ ทางสถานทูตซาอุดิอาระเบียในกรุงเทพมหานคร ก็ยังไม่ได้รับการชี้แจง หรือแจ้งให้ทราบอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับปัญหา การเลื่อนตำแหน่งให้แก่ พล.ต.ท.สมคิด ฉะนั้นการเข้าใจในเรื่องนี้จึงไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะดูเหมือนว่าเจ้าหน้าที่ไทยยังอ้างกฏหมายที่มีความแตกต่างกัน

นอกจากนี้ ทุกครั้งที่ตนได้เข้าพบกับเจ้าหน้าที่รัฐบาลไทย ก็จะได้รับข้อมูลที่แตกต่างกันทุกครั้ง ดังนั้นซาอุดิอาระเบียจึงยังไม่สามารถยอมรับคำอธิบายเหล่านั้นได้ และในความคิดเห็นของตน วัตถุประสงค์ข้อบังคับของกฎหมายและรัฐธรรมนูญ เป็นไปเพื่อประโยชน์สำหรับประชาชนทั่วไป และไม่ได้เป็นประโยชน์สำหรับบางคน จึงทำให้เป็นเรื่องเข้าใจได้ยากต่อการอ้างเหตุผลว่าบุคคลที่ถูกตั้งข้อสงสัยจากศาลอาญาของไทย เช่น ข้อหาฆาตกรรม จะได้รับการพิจารณาให้เลือนตำแหน่งและได้รับการปกป้อง และถึงแม้ว่ากรณีของนายโมฮัมเหม็ด อัลรูไวลี่ จะได้รับการจัดเป็นคดีพิเศษ ตามกระบวนการยุติธรรมของไทย แต่ตนก็ยังไม่เห็นความคืบหน้าใดๆ ซึ่งตนก็พยายามอย่างดีที่สุดแล้วต่อการรอมชอมกับเจ้าหน้าที่ไทยในระดับทางการทูตเพื่อให้สถานการณ์ไม่เลวร้ายลงไปกว่านี้ แต่ทางเราก็ยังไม่เห็นความพยายามจากเจ้าหน้าที่ไทยเพื่อแก้ไขปัญหา และ ฟื้นฟูความสัมพันธ์ หรือ การเพิ่มความสัมพันธ์อันดีรระหว่างกันในตอนนี้เลย