ย้อนฟัง "อาต๋อย ไตรภพ" เล่าถึง "โก๊ะตี๋" ปรึกษาชีวิตรักกับ "กวาง" ก่อนปิดฉากหลังแต่ง 1 ปี
ย้อนฟังคำพูด ต๋อย ไตรภพ ในรายการตีท้ายครัว โก๊ะตี๋ ปรึกษาชีวิตรักกับ กวาง ก่อนมาถึงวันนี้ปิดฉากเลิกราหลังแต่ง 1 ปี
ต้องบอกว่าเป็นข่าวที่ทำเอาแฟนคลับต่างตกใจไปเหมือนกันกับเรื่องราวชีวิตรักของนักแสดงตลก โก๊ะตี๋ อารามบอย หลังเข้าพิธีวิวาห์กับแฟนสาวนอกวงการ กวาง สุภัค ไปเมื่อปลายเดือนธันวาคมปีที่แล้ว จากการคบหาดูใจกันมากว่า 12 ปี ดูเหมือนชีวิตรักหลังแต่งงาน 1 ปีจะราบรื่น แต่ล่าสุด โก๊ะตี๋ ได้ประกาศแจ้งให้ทุกคนรับทราบตนเองกับ กวาง ได้ตัดสินใจแยกทางกันแล้ว เป็นการเลิกทั้งที่ยังรักกัน หลายคนที่ได้อ่านข้อความของ โก๊ะตี๋ ต่างส่งกำลังใจให้ทั้งสองคน
หากย้อนฟังคำสัมภาษณ์ของ อาต๋อย ไตรภพ พิธีกรชื่อดังที่ โก๊ะตี๋ ให้ความเคารพรักเหมือนพ่อแท้ เพราะวันที่ไปสู่ขอ กวาง เถ้าแถ่ที่สู่ขอก็คือ อาต๋อย ไตรภพ
และในเทปรายการตีท้ายครัว ทางช่อง 3 ออกอากาศเมื่อวันที่ 8 ธันวาคมที่ผ่านมา โก๊ะตี๋-กวาง สองสามีภรรยาเป็นแขกรับเชิญ และได้มีการเชิญ อาต๋อย ไตรภพ มาร่วมวงเป็นแขกรับเชิญพิเศษด้วย
โดย อาต๋อย ได้พูดถึง โก๊ะตี๋ ไว้ว่าเราทำเขาอะไรเขาเอาจริง และโชคดีที่ได้ กวาง เป็นภรรยา และภรรยาดุมากบางที โก๊ะตี๋ ก็ไม่ไหว เพราะ กวาง เขาเป็นคนมีกฏเกณฑ์เป๊ะๆ ส่วน โก๊ะตี๋ จะเป็นแบบลูกทุ่งสุดๆ บอกเดี๋ยวจัดการแต่ไม่ได้ทำ แต่กวางบอกจัดการคือเป๊ะๆ แรกเขาก็มีปัญหากัน
โก๊ะตี๋ ได้เล่าว่าก่อนแต่งมีปัญหาทะเลาะกัน หนูบอกอาว่าหลังแต่งงานมานั้นไม่เคยทะเลาะกันแล้ว เพราะเราทะเลาะกันมาหมดแล้ว
อาต๋อย ได้เล่าเสริมว่า โก๊ะตี๋ บอกว่าจากนี้ไปจะไม่ทะเลาะแล้วเพราะแต่งงานกันแล้ว อะไรยอมได้ยอมหมด อันนี้คือประโยคที่โก๊ะตี๋บอกอาไว้
ซึ่ง อาต๋อย ได้เล่าถึงความรักของคู่นี้ที่ตนเองรับรู้เรื่องราวมาตลอด
และ โก๊ะตี๋ ได้บอกว่าตนเองมีปัญหาอะไรจะปรึกษาอยู่สองคนคือ พี่ยุทธ สรยุทธ และ อาต๋อย ไตรภพ โดยบอกว่า พี่ยุทธ เหมือนศาลอุทธรณ์ที่จะอธิบายให้ฟังเรื่องราวเป็นขั้นเป็นตอน แต่พอเรื่องมาถึง อาต๋อย เหมือนเป็นศาลฎีกาที่จะตัดสินเลยว่าแน่ใจแล้วใช่มั้ย ถ้าแน่ใจก็เป็นไปตามนั้น ก่อนแต่งงานไปบอกอาต๋อยว่าไม่ไหวแล้วกับกวาง ถ้าคิดดีแล้วเดี๋ยวจะไปบอกกวางให้ ไปยกเลิก แต่สุดท้ายแล้วเขาขอกลับไปคิดก่อน เพราะอาต๋อยฟันโฉ๊ะแล้ว
ล่าสุด จากที่ โก๊ะตี๋ ได้โพสต์ไว้นั้น ทางด้าน พี่ยุทธ สรยุทธ ได้เข้ามาคอมเมนต์ไว้เป็นอีโมจิหัวใจสองดวง เป็นการส่งกำลังใจให้น้องทั้งสองคน
เพราะเรื่องราวชีวิตคู่เป็นเรื่องของคนสองคนจริงๆ
