"โก๊ะตี๋" ไลฟ์เปิดใจสาเหตุเลิกภรรยา พูดทั้งน้ำตาเป็นคนกลางขอยอมแพ้ จำต้องเลือกครอบครัว

โก๊ะตี๋ ไลฟ์เปิดใจทั้งน้ำตา เหนื่อยจากเป็นคนกลางของครอบครัว กระปุกเก็บความทุกข์ของทุกคน ขอยอมแพ้แล้ว

ล่าสุด โก๊ะตี๋ อารามบอย ไลฟ์สดทั้งน้ำตาเปิดใจจากประเทศอังกฤษ พร้อมบอกหมดเปลือกถึงสาเหตุตัดสินใจเลิกรา กวาง สุภัค ภรรยาที่ยังรักมากเหมือนเดิม ลั่นเป็นคนกลางที่เก็บความทุกข์ของทุกคน สุดท้ายวันนี้ขอยอมแพ้ เกิดมาพร้อมกับภาระ เลือกที่จะต้องเป็นแบบนี้

ซึ่ง โก๊ะตี๋ ได้ไลฟ์ผ่านช่องยูทูบ มีใจความระบุว่า 

"ก่อนอื่นต้องขอโทษ เลือกที่จะลงเมื่อวานพี่ที่จะต้องไม่ตอบคำถามใดๆ ครับ เอาเป็นว่าถ้าใครอยากจะรู้เดี๋ยวหนูจะเล่าให้ฟัง มันไม่ใช่เรื่องง่ายครับ ผมก็เข้าใจครับในเพจที่เอาข่าวไปลง หนูพร้อมจะให้ทุกคนด่าครับ อยากจะด่าตามสบายครับ แต่หนูจะบอกว่ามันไม่ง่ายหรอกครับ กับคนหนึ่งคนที่เดินทางร่วมกันมาเกือบ 12 ปี หนูรู้จักกวางตั้งแต่อายุ 23 จนตอนนี้ 35 เกือบหนึ่งทศวรรษ"

"หนูต้องยอมรับว่าเรื่องทัศนคติวิธีคิดเราไม่ต้องตรง หนูเกิดมาพร้อมกับภาระ หนูเลือกที่จะรับผิดชอบมัน รับผิดชอบครอบครัว ดูแลแม่ ดูแลพี่ชายคนโตเอ๋อๆ อ๋องๆ พูดไม่รู้เรื่อง และอีกหลายคนที่หนูดูแลและโอบอุ้มเขาไว้ คนที่อยู่ข้างหนูมันก็กดดันแหละ พอเราได้รับแรงกดดัน ภาวะต่างๆ มันก็กลับกลายเป็นว่า หนูก็จะพูดจาแรงๆ ใส่ผู้หญิง มันไม่ดีหรอก มันหน้าตัวเมีย เวลาไปด่าผู้หญิง ไปตะคอกใส่ผู้หญิง ซึ่งผมไม่อยากทำ หนูไม่อยากเป็น บางทีครั้งเราเลือกแล้วที่จะเป็นแบบนี้ กวางไม่ได้ผิดนะ เขาก็มีมายด์เซ็ทของเขา วิธีของแต่ละคนที่ถูกเลี้ยงดูมาคนละอย่าง หนูก็ถูกเลี้ยงดูมาอีกแบบนึง ซึ่งมันก็เป็นชีวิตใครชีวิตมัน"

"แต่คนสองคนที่ตัดสินใจใช้ชีวิตร่วมทางกัน บางคู่บางคนคิดว่าโลกภายนอกไม่เกี่ยว ชีวิตคู่เป็นเรื่องของคนสองคน แต่สำหรับหนูไม่ใช่ หนูไม่อยากให้เขาเสียเวลากับหนู"

"ถามว่ารักมาก กวางรักหนูร้อยเปอร์เซนต์ หนูรักกวางล้านเปอร์เซนต์ การพิมพ์ไปเป็นตัวหนังสือมันพูดไม่หมด หนูขอบคุณความรักที่กวางมอบให้หนู รักผู้ชายกระจอกๆ คนนึง จะรวยจะจนเขารักที่เราเป็นเรา" 

"แต่อย่างที่บอกถ้าจะไปทางความรักของผมอย่างเดียว มันก็จะดูเห็นแก่ตัวของครอบครัวหนูไปหน่อย แม่หนูก็ยังไม่ตาย แต่ถ้าผมจะดูแลครอบครัวอย่างเดียว คนข้างกายหนูเขาก็จะไม่ได้เวลาในส่วนที่จะต้องได้ การเป็นคนกลางลำบากใจ แต่หนูไม่ได้คนกลางแค่แม่กับเมีย หนูเป็นคนกลางของทุกๆ ฝ่าย "

"บางคนที่พูดมาหนึ่งสองสามสี่ห้า หนูพูดจะเลือกแค่หนึ่งสองสามเพราะเราอยากให้ทุกคนรักกัน หนูคิดแค่นั้นเอง หนูกับกวางมีความฝันที่จะทำร่วมกันเยอะมาก" 

"แต่หนูเหนื่อย แม่หนูกลับมาเป็นโรคคนแก่อีกครั้งมันหายไปเกือบสิบปี กลับมาเป็นอีกครั้งจากการกระทบกระเทือนจิตใจ พี่ชายคนโตหายไป 4 ปีและกลับมาตอนโควิด กลับมาแล้วพูดไม่รู้เรื่อง พี่ยศ พ่อไอ้จ็อบ หายไปเลย 4 ปี จนตอนนี้พี่ชายคนโตพูดไม่เกิน 4 คำ เคยพาไปหาหมอ เขาบอกเขาไม่เป็นอะไร ทุกวันนี้ก็ไม่พูด ตื่นเช้ามากินข้าวดูทีวี เข้าไปนอน ดูทีวีนอน ชีวิตอยู่แค่นี้ หนูคงไปทำเวรทำกรรมไว้เยอะ ถ้าเราไม่เลี้ยงใครจะเลี้ยง พี่น้องมันฆ่ากันไม่ตายหรอก แล้วหนูก็เครียด แม่กลับมาเป็นโรคคนแก่ เที่ยงคืนตีหนึ่งไปนั่งอยู่บ้านคนอื่น ต้องให้แม่กลับมากินยาอีกครั้ง ได้หลานๆ ดูแล" 

"หนูเลือกที่จะเป็นแบบนี้ตั้งแต่เด็ก เลือกที่จะรับผิดชอบ ผลักดันให้หนีจากคำว่าครอบครัวยากจน โชคดีที่หลานเรียนจบแล้วเขามีอาชีพ แต่ก็ยังมาลำบาก เปิดร้านข้าวมันไก่ให้พี่ชายคนกลางกับพี่สะใภ้ ซื้อตึกให้เลย 7 ล้านกว่า วันดีคืนดีทะเลาะกัน ไม่มีใครมากิน พี่ชายคนกลางกลับไปอยู่อ่างทอง โดนคอลเซนเตอร์โดนหลอกไปสองแสน เอาโฉนดไปจำนอง หนูก็ต้องไปไถ่ถอนออก ใครที่ด่าหนู มาเป็นหนูสักปีนึงแล้วจะรู้ ว่าเจออะไรบ้าง กว่าจะโตมาให้คนด่า ไม่รู้หรอกว่าหนูเจออะไรมาบ้าง (ร้องไห้)"

"หนูไปหาหมอมา หนูต้องกินยานอนหลับ กินยาคลายเครียด"

"หนูไม่ไหว หนูโทรหาพี่ยุทธว่าหนูไม่ไหวหนูยอมแล้ว คือเรื่องราวทั้งหมดไม่ได้ผิดที่กวาง (ร้องไห้) ผิดที่หนูไปดันทุรัง หนูอยากจะมีความรักแบบนี้ตั้งแต่แรก คิดว่าเอาอยู่ ยอมเก็บเรื่องราวต่างๆ ไว้คนเดียว เป็นกระปุกที่เก็บความทุกข์ของทุกคนไว้ เก็บไว้คนเดียว จนสุดท้ายไม่ไหว" (ร้องไห้)