สิ้นแล้ว หลวงปู่มี ฐิตสาโร พระเกจิสุรินทร์ อายุยืนที่สุดในภาคอีสาน สิริอายุ 113 ปี

สิ้นแล้ว หลวงปู่มี ฐิตสาโร พระเกจิสุรินทร์ อายุยืนที่สุดในภาคอีสาน สิริอายุ 113 ปี

สิ้นแล้ว หลวงปู่มี ฐิตสาโร พระเกจิสุรินทร์ อายุยืนที่สุดในภาคอีสาน สิริอายุ 113 ปี
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

 สิ้นแล้ว หลวงปู่มี ฐิตสาโร เกจิอายุยืนที่สุดในภาคอีสาน สิริอายุ 113 ปี ชาวบ้านเลื่องลือพระเครื่องแคล้วคลาด

วันที่ 5 ม.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พระราชมงคลวัชรินทร์ หรือ “หลวงปู่มี ฐิตสาโร” อดีตเจ้าอาวาสกิตติมศักดิ์วัดโพนทอง ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ได้มรณภาพลงแล้วด้วยอาการสงบ เมื่อเวลา 02.30 น.ของคืนที่ผ่านมา หลังจากเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลกาบเชิง อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ด้วยอาการป่วยหอบเหนื่อย หมดแรง อ่อนเพลีย และโรคความดัน รวมทั้งปัสสาวะไม่ออก รักษาอาการอาพาธมาร่วม 3 อาทิตย์ แม้ทีมแพทย์พยาบาลจะพยายามรักษาและยื้อชีวิตหลวงปู่มีอย่างเต็มที่แล้วก็ตาม ทั้งฉีดยากระตุ้นความดันต่างๆ ก็ไม่เป็นผล

หลวงปู่มี มรณภาพลงอย่างสงบ สิริอายุ 113 ปี 37 พรรษา ซึ่งหลวงปู่มี ฐิตสาโร เดินไม่ได้มาร่วม 2 ปีแล้ว ด้วยโรคชรา จึงต้องใช้รถเข็นในการเดินทาง โดยมีลูกศิษย์คอยติดตามเข็นรถไปตามกิจนิมนต์ต่างๆ

สำหรับหลวงปู่มี เป็นพระสงฆ์ที่มีอายุมากที่สุดในภาคอีสาน แม้จะไม่เป็นที่รู้จักในวงกว้าง แต่ชาวบ้านในพื้นที่รู้จักดี ในเรื่องพระสงฆ์ที่มีวัตรปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ไม่เคยเสื่อมเสีย วัตถุมงคลของหลวงปู่มี มีพุทธคุณในด้านเมตตามหานิยมและแคล้วคลาดปลอดภัย ซึ่งชาวบ้านในพื้นที่ทราบดีว่า เคยมีชาวบ้านคล้องพระเครื่องของหลวงปู่มีแล้วรถบรรทุกอ้อยคว่ำ และเคยมีรถชนยนต์ชนกัน แต่เหลือเชื่อ คนขับกลับรอดปลอดภัย ไม่เป็นอะไรแม้แต่น้อย

ประวัติ หลวงปู่มี เกิดวันที่ 1 เม.ย. 2455 ที่หมู่บ้านโพนทอง ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ เมื่อจบการศึกษา ป.4 ได้บวชสามเณรแล้วศึกษานักธรรมตรีจนจบ ต่อจากนั้นก็เดินธุดงค์ไปตามชายแดนในสถานที่ต่างๆ เพื่อเรียนวิชากับครูบาอาจารย์ใน จ.สุรินทร์ หลายรูป พอถึงวัยหนุ่มท่านก็ลาสิกขาออกมาเป็นบรรพชิต อยู่ที่บ้านเกิดหลายสิบปี จากนั้นได้เข้าพิธีอุปสมบทอีกครั้งเมื่อปี 2531 ขณะอายุ 76 ปี โดยมี พระอุปัชฌาย์ คือ พระครูภัทรญาณคุณ (หลวงพ่อประเสริฐ) วัดดาราธิวาส อ.สังขะ จ.สุรินทร์ พระอธิการสุรินทร์ ปัญญาโร เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระสุพจน์ เตชพโล เป็นพระอนุสาวนาจารย์

ส่วนลำดับศักดิ์ หลวงปู่มี ฐิตสาโร เจ้าอาวาสวัดโพนทอง เพิ่งได้รับโปรดเกล้าจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯที่ทรงมีพระราชโองการโปลดเกล้าพระราชทานตั้งสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะ ชั้นราช ในราชทินนาม "พระราชมงคลวัชรินทร์ สุจิณธรรมวิจิตร มหาคนิสสร บวรสังฆา รามคามวาสี" เมื่อปีที่แล้ว ในช่วงที่ท่านอายุได้ 111 ปี อีกด้วย

ล่าสุด (5 ม.ค.67) เวลา 16.00 น.นายวรวิทย์ ทองไทยนันท์ ผอ.สำนักพระพุทธศาสนา จ.สุรินทร์, นายจำนงค์ สมรูป ปลัดอำเภอกาบเชิง, นายศิริชัย ตันติรัตนานนท์ นายก อบต.ด่าน และนายศิริวุฒิ วงษ์เจริญ กำนัน ต.ด่าน พร้อมกับศิษยาณุศิษย์และพุทธศาสนิกชน ได้ร่วมในพิธีสวดพระอภิธรรม พิธีบำเพ็ญกุศลสรีระสังขารหลวงปู่มี ฐิตสาโร อดีตเจ้าอาวาสกิตติมศักดิ์วัดโพนทอง โดยมีเจ้าคณะอำเภอกาบเชิง เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ในการประกอบพิธี ด้วยบรรยากาศที่เศร้าสลด

โดยในวันนี้ (6 ม.ค.68) เวลา 16.30 น.จะมีพิธีพระราชทานน้ำหลวงสรงศพ พระราชมงคลวัชรินทร์ หรือหลวงปู่มี ฐิตสาโร โดยมีพระราชวิมลโมลี เจ้าคณะ จ.สุรินทร์ เป็นประธานในพิธีสรงน้ำสรงศพ และในวันที่ 12 ม.ค.68 จะมีพิธีพระราชทานเพลิงศพสรีระสังขารพระราชมงคลวัชรินทร์ หรือหลวงปู่มี ฐิตสาโร ต่อไป 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook