อาจารย์แพทย์ ย้อนเล่าเคส 1 ในพันล้าน "หมอติดมะเร็งจากคนไข้" เผยเกิดอะไรขึ้น?

อาจารย์แพทย์ ย้อนเล่าเคส 1 ในพันล้าน "หมอติดมะเร็งจากคนไข้" เผยเกิดอะไรขึ้น?

อาจารย์แพทย์ ย้อนเล่าเคส 1 ในพันล้าน "หมอติดมะเร็งจากคนไข้" เผยเกิดอะไรขึ้น?
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

อาจารย์แพทย์ ย้อนเล่าเคสสะเทือนวงการ "หมอติดมะเร็งจากคนไข้" เคสหายาก 1 ในพันล้าน พร้อมวิเคราะห์สาเหตุโรคอย่างละเอียด

นายแพทย์ธนีย์ ธนียวัน หรือ หมอแทน เป็นอาจารย์แพทย์อยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา เชี่ยวชาญโรคปอด การปลูกถ่ายปอดและวิกฤตบำบัด เผยคลิปผ่านช่อง Doctor Tany ใน EP. เมื่อหมอติดมะเร็งจากคนไข้ !? ย้อนเล่าเคสน่าตกใจที่มีการตีพิมพ์ ในวารสารทางการแพทย์ระดับโลกอย่าง New England Journal of Medicine ในปี 1996 เกี่ยวกับแพทย์ที่ติดมะเร็งจากคนไข้

โดย อาจารย์หมอแทน เล่าว่า ทุกคนตอนนี้น่าจะรู้จักคำว่า “โรคติดต่อ” แล้วก็ “โรคไม่ติดต่อ” เป็นอย่างดี โรคติดต่อก็ยกตัวอย่างเช่น โควิด ไข้หวัดใหญ่ วัณโรคซึ่งสามารถแพร่จากคนนึงไปอีกคนนึงได้โดยตรง ส่วนโรคไม่ติดต่อเดี๋ยวนี้เราเรียกมันว่า NCD (Non-Communicable Diseases) เช่น เบาหวาน ความดัน โรคหัวใจ โรคอ้วน รวมไปถึงโรคมะเร็งด้วย

แต่โรคมะเร็งบางคนก็อาจจะบอกว่าในครอบครัวของเรามีประวัตินะ พ่อแม่เป็น ปู่ย่าตายายเป็น แล้วฉันก็จะเป็นอันนี้มันก็เป็นโรคติดต่อสิ?

มันไม่ใช่โรคติดต่อซึ่งสามารถกระโดดจากคนนึงไปอีกคนนึงได้ อันนี้คือเป็นการส่งถ่ายยีนจากรุ่นบรรพบุรุษมาถึงรุ่นเรา มันไม่ใช่กรณีที่สมมุติว่าคุณปู่คุณเป็นมะเร็งลำไส้แล้ววันนี้คุณไปดูแลท่าน ดูแลใกล้ชิดอยู่ทุกวันป็นเดือนเลยมะเร็งลำไส้ของคุณปู่จะไม่สามารถกระโดดเข้ามาในตัวคุณ ทำให้คุณเป็นมะเร็งลำไส้ได้แบบนั้น

แต่วันนี้ตนจะมาเล่าเคสๆ นึงซึ่งน่าสนใจมากเป็นเคสที่ "หมอติดมะเร็งจากคนไข้" 

เคสนี้ต้องบอกว่าเป็นเคสหนึ่งในพันล้านเลยทีเดียว โดยตัวเคสตีพิมพ์ในวารสารทางการแพทย์ระดับโลกอย่าง New England Journal of Medicine ในปี 1996 เรื่องของเรื่องคือมีผู้ชายคนหนึ่งอายุ 32 ปี เขาเป็นมะเร็งช่องท้องชนิดหนึ่งซึ่งมีชื่อเรียกว่า Malignant Fibrous Histiocytoma

แล้วคุณหมอคนนี้เขาก็ไปผ่าตัดช่องท้อง ตอนแรกก็ผ่าตัดก็ไม่มีอะไรหรอกแต่ว่าตอนที่เขาจะใส่สายระบายเลือดบังเอิญเขาไปถูกของมีคม น่าจะเป็นมีดหรืออะไรสักอย่าง บาดเข้าที่ตรงโคนนิ้วกลางข้างซ้าย หมอเขาก็รีบล้างแผลฆ่าเชื้อทุกอย่าง แล้วก็รักษาแผลมันก็หายแล้ว

แต่ปรากฏว่า 5 เดือนหลังจากนั้นตรงนี้มันกลายเป็นก้อนกลมๆ ขึ้นมาขนาด 3 ซม. ก็ตรวจการติดเชื้อตรวจทุกอย่างไม่เจออะไรเลยก็เลยไปผ่าตัดออกมาปรากฏว่ามันเป็นเนื้องอกชนิดเดียวกันกับคนไข้เลยคือ Malignant Fibrous Histiocytoma ต้องบอกว่าเนื้องอกชนิดนี้หรือมะเร็งชนิดนี้เจอได้ยากมากๆ เจอได้ยากสุดๆ

เคสนี้ตัวคนไข้ที่ได้รับการผ่าตัด สุดท้ายเขาเสียชีวิตจากภาวะแทรกซ้อนสักอย่าง ซึ่งเขาไม่ได้กล่าวไว้ในงานวิจัยชิ้นนี้ ส่วนคุณหมอเขาผ่าไปแล้วก็ติดตามอาการต่อ 2 ปี หลังจากนั้นไม่มีเนื้องอกเหลืออีกเลย ไม่ได้แพร่กระจายไปที่ไหนก็ถือว่าโชคดีมากๆ 

นายแพทย์ธนีย์ ธนียวัน ยังได้วิเคราะห์การเกิดโรคอย่างละเอียด ดังนี้ โดยสรุปคือ แพทย์ที่ทำการผ่าตัดเคสนี้เกิดอุบัติเหตุระหว่างการผ่าตัด ทำให้ได้รับเชื้อมะเร็ง หรือสิ่งแปลกปลอมผ่านเลือดและเจริญเติบโตในร่างกายของหมอรายนั้น ซึ่งเป็นเคสที่เกิดขึ้นได้ยากมาก 1 ในพันล้าน เนื่องจากมะเร็งหรือสิ่งแปลกปลอมที่ติดผ่านเลือดนั้นมีการพัฒนาตัวเองให้อยู่รอดในร่างกายของหมอรายนั้น

อย่างไรก็ตาม อาจารย์หมอแทน ย้ำว่า อย่าวิตกไปโอกาสเกิดมัน 1 ในเป็นพันล้าน ไม่ต้องกลัวขนาดนั้น มันจะต้องเอาตัวมะเร็งเข้าไปในแผลในร่างกายตรงๆ มันถึงจะติดได้ ไม่ใช่ว่าเราไปจับก้อนมะเร็งแล้วมันจะติดไปที่มืออันนั้นไม่ติดแน่ๆ

ถ้าเราเผลอกินเนื้อที่เราไม่รู้ว่าเนื้อวัวมันมีมะเร็งอยู่ก้อนนึง เรามองไม่เห็น เรากินเข้าไปเราเป็นมะเร็งหรือเปล่า?

ไม่เป็น มะเร็งพวกนี้ถ้ามันโดนเผามันตายไปเรียบร้อยแล้ว เข้าไปในทางเดินอาหารเรามันโดนน้ำย่อยมันก็ตายไปเรียบร้อย มันไม่สามารถทะลุทะลวงเข้าไปในร่างกายเรา จนกระทั่งเราเป็นมะเร็งได้ ดังนั้นก็สบายใจในเรื่องนี้ การดูแลผู้ป่วยมะเร็ง ก็ไม่ได้ทำให้คุณติดมะเร็งเข้าไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook