กสท เร่งแผนซื้อกิจการ ฮัทช์ หวังขยับ 2 จี เพิ่มเป็น 3 จี

นายจิรายุทธ รุ่งศรีทอง กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) เปิดเผยหลังการประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) กสท ที่มีนายวิสุทธ์ ศรีสุพรรณ ประธานว่า ได้รายงานให้ที่ประชุมรับทราบคำสั่งของศาลปกครองสูงสุด ซึ่งได้สั่งให้ระงับการเปิดประมูลใบอนุญาตประกอบกิจการ โทรศัพท์เคลื่อนที่ยุค 3 จี ของคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) ออกไปเป็นการชั่วคราว จนกว่าจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น

ผลจากการฟ้องร้องของ กสท ที่ต้องการให้เกิดความชัดเจนเรื่องอำนาจของ กทช.ในประเด็นการจัดสรรคลื่นความถี่ใหม่ให้เกิดความชัดเจน ดังนั้น กสท ควรใช้โอกาสนี้เร่งแผนธุรกิจสร้างรายได้ให้กับ กสท อาทิเช่น การเจรจาการซื้อกิจการของบริษัท ฮัทชิสัน จำกัด ทั้งโครงข่ายและลูกค้า วงเงิน 7,500 ล้านบาท ให้สำเร็จโดยเร็ว ซึ่งในสัปดาห์หน้าจะชี้แจงถึงเหตุผลและความจำเป็นการเข้าซื้อกิจการฮัทช์ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับทราบอีกครั้ง หลังจากที่ครม.ได้อนุมัติให้ กสท ดำเนินการมาตั้งแต่เดือน เม.ย.ที่ผ่านมา

นอกจากนี้ยังต้องเร่งปรับปรุงโครงข่ายด้วยเทคโนโลยี HSPA เพื่อให้บริการจาก 2 จี เป็น 3 จี บนคลื่นความถี่เดิม ของผู้รับสัมปทาน ได้แก่ บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค และบริษัท ทรูมูฟ จำกัด ที่ได้อนุมัติไปตั้งแต่ปี 2551 จึงต้องหารือในคณะกรรมการมาตรา 22 ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมการงานในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2535 (พ.ร.บ.ร่วมทุน) ในสัปดาห์หน้าเช่นกัน และจะเสนอให้ที่ประชุมบอร์ดพิจารณาอนุมัติแผนการปรับปรุงโครงข่าย ในวันที่ 12 ต.ค.นี้

ส่วนบริษัท ดิจิตอลโฟน จำกัด ในเครือบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอสนั้น กสท ไม่ได้อนุมัติให้ปรับปรุง เนื่องจากคลื่นความถี่ย่าน 850 เมกะเฮิร์ซต (MHz) มีเพียง 25 MHz แบ่งเป็นดีแทค 10 กสท 10 และทรู 5 MHz ดังนั้นจึงไม่มีคลื่นความถี่ ให้กับดีพีซี ประกอบกับดีพีซีไม่ได้เครื่องหมายการค้า(ยี่ห้อ) ในการทำตลาดที่ชัดเจนด้วย สำหับสาเหตุการฟ้องร้อง กสท ต้องทำความเข้าใจกับสังคมด้วยว่าเพื่อต้องการสร้างความถูกต้องตามกฎหมาย ไม่ได้มีเจตนาขัดขวางและทำให้ประเทศล้าหลังประเทศเพื่อนบ้านเพราะไทยมีบริการ 3 จี บนคลื่นความถี่เดิมอยู่แล้ว.