นายแพทย์เผยแล้ว เด็ก 3 ขวบที่ชุมพร เสียชีวิตเพราะ "เอนเทอโรไวรัส”

นายแพทย์เผยแล้ว เด็ก 3 ขวบที่ชุมพร เสียชีวิตเพราะ "เอนเทอโรไวรัส”

นายแพทย์เผยแล้ว เด็ก 3 ขวบที่ชุมพร เสียชีวิตเพราะ "เอนเทอโรไวรัส”
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จากกรณี เรื่องราวบีบหัวใจ แม่โพสต์เรื่องราวผ่านเฟซบุ๊ก "Aphichaya Thanasri" ต้องสูญเสียลูกสาว "น้องไดอาน่า" ในวัยเพียงแค่ 3 ขวบ แบบไม่มีสัญญาณเตือน และไม่ทันได้บอกลา โดยคุณแม่ได้เผยเรื่องราวทั้งหมดว่า เริ่มต้น น้องไดอาน่า มีแค่ไข้อ่อนๆ ไม่มีอาการอะไรเลย พอเช็ดตัวกินยาก็หาย แต่จู่ๆน้องมีอาการชักเกร็ง แม่พาไปโรงพยาบาลทันที พอไปถึงโรงพยาบาล หมอรีบช่วยชีวิตน้อง ด้วยการปั๊มหัวใจ ใส่ท่อเครื่องช่วยหายใจ หมอช่วยจนสุดทาง แต่ปาฏิหาริย์ไม่มีจริง น้องไดอาน่า เสียชีวิต

หมอแจ้งว่า น้องไดอาน่า ติดเชื้อไวรัส ที่อยู่ในอากาศ แล้วมันลงไปที่หัวใจ เลยทำให้กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบเฉียบพลัน มันไวมาก ไม่มีสัญญาณอะไรมาก่อนเลย แม่ยังโพสต์ ทิ้งท้ายไว้ว่า น้องไปเป็นนางฟ้าบนสวรรค์นะลูก ลูกโชคดีมาก บุญเยอะมาก ไม่ต้องอยู่บนโลกที่มันโหดร้ายแบบนี้ เชื้อโรคอะไรไม่รู้เต็มไปหมด หลับให้สบายนะลูกรัก รักน้องที่สุด ดวงใจของครอบครัวเรา

ล่าสุด นายแพทย์ อนุ ทองแดง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชุมพร เปิดเผยว่า ขอประชาชนอย่าได้ตื่นตระหนกตกใจ สำหรับเด็กหญิงอายุ 3 ขวบ ที่เสียชีวิตดังกล่าวนั้น อาจจะมาจากการสื่อสารที่ไม่เข้าใจกัน เนื่องจากผู้ปกครองที่อยู่ในอาการช็อกเสียใจกับการสูญเสียลูกสาว ความจริงแล้วไวรัสชนิดดังกล่าวมีอยู่ทั่วๆไป หรือที่เรียกว่า โรคติดเชื้อเอนเทอโรไวรัส (Enterovirus Diseases) ซึ่งมีมานานแล้ว เป็นเชื้อไวรัสตัวเก่าไม่ใช่ตัวใหม่ เชื้อสามารถอยู่ได้ไม่เกิน 3 ชั่วโมง ก็จะถูกทำลายไปกับแสงแดด ความร้อน ความแห้ง และสภาพอากาศ

นายแพทย์อนุกล่าวต่อว่า สำหรับผู้ป่วยรายนี้ ซึ่งมีอาการป่วยก่อนเข้าโรงพยาบาล 2 วัน มีอาการไข้ คลื่นไส้ และต่อมามีชักเกร็ง จากนั้นผู้ปกครองพาเข้ารักษาที่โรงพยาบาลเอกชนแล้วเสียชีวิต ซึ่งข้อมูลจากผลเลือดทราบว่า ผู้ป่วยรายนี้ติดเชื้อไวรัสปกติ ทั่วไปในกลุ่มของโรคติดเชื้อเอนเทอโรไวรัส (Enterovirus Diseases) แต่เชื้อได้ลงสู่หัวใจทำให้กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบรุนแรงเฉียบพลันจนเสียชีวิต

โดยทั่วไปแทบจะไม่มีผู้เสียชีวิตเลย ครั้งนี้ถือว่าอยู่ในอัตรา 0.01% ซึ่งที่ผ่านมาใน จ.ชุมพร มีผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสชนิดนี้ มีทั้งหมด 8 ราย ไม่มีใครเสียชีวิต แต่รายใหม่นี้เสียชีวิต

นายแพทย์อนุกล่าวว่า ขอให้ประชาชนอย่าได้ตื่นตระหนก เพราะไวรัสชนิดนี้ส่วนใหญ่อยู่ในสภาพแวดล้อมและสังคมทั่วๆไปอยู่แล้ว ซึ่งจะไม่ทำให้เกิดอันตรายรุนแรงและเสียชีวิต ถ้าเราป้องกันดูแลตัวเองเช่น กินร้อนช้อนกลาง ทำความสะอาดพื้นผิว ล้างมือบ่อยๆ ก็สามารถป้องกันไวรัสชนิดนี้ได้อยู่แล้ว

"หลังเกิดเหตุนี้ขึ้นมาทางเจ้าหน้าที่สาธารณสุขได้ลงพื้นที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กที่น้องไปเรียน และบ้านที่อยู่อาศัยของน้อง เพื่อสอบสวนโรค และให้คำแนะนำ ทำความเข้าใจ และการดูแลสภาพแวดล้อมต่างๆ ซึ่งขอยืนยันว่าไวรัสชนิดนี้ไม่ใช่ไวรัสตัวใหม่เหมือนที่เข้าใจกันในสื่อออนไลน์ จึงขอให้ประชาชนอย่าได้ตื่นตระหนกตกใจ ให้ใช้ชีวิตตามปกติและดูแลสุขภาพปฏิบัติตนเองตามที่หมอแนะนำ” นายแพทย์อนุกล่าว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook