หมอเมืองนอกเตือน ของใช้ในบ้านที่เป็นพิษที่สุด แต่คนใช้กันทุกวัน แนะโยนทิ้งไปซะ
หมอผู้เชี่ยวชาญด้านธรรมชาติบำบัด เตือน ของใช้ในบ้านที่เป็นพิษที่สุด แต่มีคนมากมายใช้กันทุกวัน แนะนำให้โยนทิ้งไปซะ
กลายเป็นเรื่องปกติไปแล้ว สำหรับหลายๆ บ้าน ที่จะซื้อผลิตภัณฑ์ปรับอากาศมาใช้ เพื่อให้มั่นใจว่ากลิ่นไม่พึงประสงค์ในบ้านจะหายไป และมีความหอมสดชื่นเข้ามาแทน
โดย ดร.เปดี มิร์ดามาดี แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านธรรมชาติบำบัด จากรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐฯ ที่มักออกมาให้คำแนะนำด้านสุขภาพผ่าน TikTok ได้ออกมาเตือนของถึงในภายในครัวเรือนชิ้นหนึ่ง ที่อาจเชื่อมโยงกับอาการคันตาหรืออาการภูมิแพ้ ในกรณีเลวร้ายที่สุดยังทำให้เกิดอาการหอบหืดรุนแรงด้วย
ซึ่งของที่ว่านั้นก็คือ "น้ำหอมปรับอากาศแบบเสียบปลั๊ก" ที่ผู้คนใช้กันโดยทั่วไปในสหรัฐฯ
iStockphoto
ดร.เปดี กล่าวว่า ผลิตภัณฑ์เหล่านี้จำนวนมาก มีสารเคมีที่เป็นพิษ เช่น ฟอร์มาลดีไฮด์ (formaldehyde) และสารอินทรีย์ระเหยง่าย (VOCs) ที่จะเข้าสู่ร่างกายของเราผ่านการหายใจ ซึ่งอากาศที่เราหายใจเข้าไปก็คือวิธีการง่ายและเร็วที่สุดที่จะนำสารพิษเข้ามาสู่ร่างกายของเรา
"หากคุณมีน้ำหอมปรับอากาศแบบเสียบปลั๊กใด ๆ ในบ้านหรือรถ ให้ปิดและโยนมันทิ้งไปซะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณมีอาการภูมิแพ้หรือหอบหืด" ดร.เปดี กล่าว
ข้อมูลจาก Indoor Doctor พบว่ามีผลการศึกษาวิจัย พบว่ามีน้ำหอมปรับอากาศถึง 86% ที่มีสารพาทาเลต (phthalates) ซึ่งอาจขัดขวางการผลิตฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน และทำให้กิดปัญหาด้านการสืบพันธุ์
นอกจากนี้ น้ำหอมปรับอากาศทั่ว ๆ ไป ก็มักจะมีฟอร์มาลดีไฮด์ ที่เชื่อมโยงกับมะเร็งในจมูกและลำคอ รวมถึงมีสาร VOCs ที่เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหอบหืดในเด็ก
ดร.เปดี ยังย้ำว่า ใครที่ยังใช้น้ำหอมปรับอากาศแบบนี้ ให้ทำเพื่อตัวเองและครอบครัวด้วยการโยนมันทิ้งไปซะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากภายในบ้านมีโรคหอบหืดหรือปัญหาด้านระบบทางเดินหายใจ
พร้อมกันนั้น ดร.เปดี ยังแนะนำทางเลือกอื่น ๆ สำหรับแก้ปัญหากลิ่นในบ้าน คือให้หันมาใช้เครื่องพ่นน้ำมันหอมระเหยแทน