หื่นจัด! รวบแท็กซี่ขืนใจสาวเมา ก่อนวิ่งเปลือยหลบหนี
เจ้าหน้าที่รวบตัวแท็กซี่หื่น หลังพยายามข่มขืนสาวเมาหมดสติ แต่ไม่สำเร็จ ก่อนจะวิ่งหนีในสภาพล่อนจ้อน
สื่อรายงานว่า วานนี้(25 ก.ย.) เมื่อเวลา 10.30 น. ที่ จ.สมุทรสาคร เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวนายกิตติชัย มุสิกสงค์ อายุ 40 ปี คนขับรถแท็กซี่สีเขียวเหลือง หลังพยายามข่มขืนหญิงเมา มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ
เหตุเกิดขึ้นเมื่อคืนวันที่ 19 ก.ย. โดยหญิงผู้เสียหาย อายุ 34 ปี ได้ไปกินเลี้ยงสังสรรค์กับเพื่อนผู้หญิงอีก 3 คน จนกระทั่งผู้เสียหายเมาหมดสติ เพื่อนๆ จึงได้เรียกรถแท็กซี่ ซึ่งมีนายกิตติชัย เป็นคนขับ มาส่งที่บ้านพัก โดยมีเพื่อนๆ นั่งมาด้วย เมื่อถึงบริเวณหน้าบ้านพัก เพื่อนๆ ของผู้เสียหายได้ขอแรงนายกิตติชัย ช่วยอุ้มผู้เสียหายที่เมาไม่ได้สติมานอนไว้บนแคร่ก่อน ขณะที่เพื่อนๆ เดินอ้อมไปทางหลังบ้านเพื่อเปิดประตูด้านหลัง ระหว่างนั้น นายกิตติชัย ได้เดินเข้ามาลวนลามเหยื่อที่นอนเมาด้วยการลูบคลำหน้าอก ซึ่งมีภาพในกล้องวงจรปิดบันทึกไว้ได้ เมื่อเพื่อนๆ เปิดประตูด้านหลังได้ นายกิตติชัยก็ช่วยอุ้มเข้าไปในห้องนอน โดยออกมาเป็นคนสุดท้าย ได้แอบเปิดประตูห้องนอนและประตูบ้านพักทิ้งไว้ หลังจากนั้นนายกิตติชัย ก็ไปส่งเพื่อนๆของผู้เสียหาย แล้วจึงย้อนกลับมาเพื่อจะข่มขืน
เมื่อมาถึงบ้านพักผู้เสียหาย นายกิตติชัยก็ลงมือถอดเสื้อผ้าทั้งของตนเองและผู้เสียหายออกจนหมด แล้วก็ลงมือกระทำชำเรา แต่ผู้เสียหายได้รู้สึกตัวขึ้นมาก่อน จึงต่อสู้และใช้กำลังบีบคอนายนายกิตติชัย ด้วยความตกใจ นายกิตติชัยจึงวิ่งหนีออกมาออกมาทางประตูหลังบ้านในสภาพล่อนจ้อน ซึ่งกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพไว้ได้ พบว่านายกิตติชัยวิ่ง ไม่สวมเสื้อผ้า โดยเอามาสวมใส่ข้างนอกบ้านแล้วรีบขับรถแท็กซี่หลบหนีไป
ด้านนายกิตติชัย อ้างว่าที่ลงมือก่อเหตุเนื่องจากเกิดอารมณ์ทางเพศตั้งแต่ตอนอุ้มผู้เสียหายลงมานอนที่แคร่ ส่วนที่รีบวิ่งหนีนั้น เป็นเพราะเกิดตกใจและกลัวว่าจะจำหน้าได้
ขณะที่เหยื่อผู้เสียหายบอกว่า ได้เข้าแจ้งความ เมื่อวันที่ 21 ก.ย. แต่พอเวลาผ่านไปถึง 2 วันแล้ว ยังไม่มีความคืบหน้า จึงได้โทรศัพท์ไปแจ้งกับทางมูลนิธิปวีณาเพื่อเด็กและสตรี เพื่อขอให้ช่วยเร่งรัดการดำเนินคดี ซึ่งต่อมา 1 วัน เจ้าหน้าที่ตำรวจก็สามารถติดตามตัวแท็กซี่หื่นรายนี้มาดำเนินคดีได้ ซึ่งตนยืนยันจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุดและอยากฝากเตือนบรรดาผู้หญิง ถ้าคิดจะดื่มสุราก็อย่าดื่มจนเมาขาดสติ เพราะภัยสังคมนั้นมีอยู่ทุกที่และเกิดขึ้นกับตัวเราได้เสมอ แม้แต่ในที่ๆ เราคิดว่าปลอดภัยที่สุดแล้ว