นักโทษประหาร อายุน้อยที่สุดในไต้หวัน ถูกยิงเป้าแล้ว ปิดฉาก 11 ปี คดีฆาตกรรมสะเทือนขวัญ

นักโทษประหาร อายุน้อยที่สุดในไต้หวัน ถูกยิงเป้าแล้ว ปิดฉาก 11 ปี คดีฆาตกรรมสะเทือนขวัญ

นักโทษประหาร อายุน้อยที่สุดในไต้หวัน ถูกยิงเป้าแล้ว ปิดฉาก 11 ปี คดีฆาตกรรมสะเทือนขวัญ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นักโทษประหาร อายุน้อยที่สุดในไต้หวัน ถูกยิงเป้าแล้ว ปิดฉาก 11 ปี คดีฆาตกรรมสะเทือนขวัญ

"หวงหลินไค่" นักโทษประหารอายุน้อยที่สุดในไต้หวัน วัย 32 ปี ถูกประหารชีวิตเมื่อเวลา 22:02 น. ของวันที่ 16 มกราคม 2025 นับเป็นการประหารชีวิตนักโทษครั้งแรกในรอบ 5 ปีของไต้หวัน ณ เรือนจำไทเป เมืองซินเป่ย (ซินจู๋) โดยใช้การยิงเป้า

นายหวงสูญเสียบิดาเมื่ออายุ 1 ปี และเติบโตภายใต้การเลี้ยงดูของมารดา เขามีความสัมพันธ์กับนางสาวหย่าเหมย (นามสมมติ) เป็นเวลา 2 ปีก่อนเลิกรากัน ในปี 2013 ขณะเขาเป็นทหาร หย่าเหมยพบว่าเขาได้ถอนเงิน 200,000 ดอลลาร์ไต้หวันจากบัญชีของเธอ หลังจากเจรจา มารดาของนายหวงตกลงชดใช้เงินจำนวน 90,000 ดอลลาร์ไต้หวัน แต่หย่าเหมยยังเรียกคืนเงิน 110,000 ดอลลาร์ไต้หวัน

นายหวงไม่สำนึกผิดในสิ่งที่ทำ แต่กลับโกรธแค้นที่ทำให้มารดาต้องเดือดร้อน ในวันที่ 1 ตุลาคม 2013 เขาใช้กุญแจสำรองที่ได้จากการช่วยหย่าเหมยย้ายบ้าน เข้าไปในบ้านของเธอโดยสวมหมวกปิดบังใบหน้า และฆ่ามารดาวัย 47 ปีของหย่าเหมยด้วยเชือกลูกเสือ

หลังจากนั้น เขาซ่อนตัวในครัว รอจนหย่าเหมยวัย 19 ปี กลับมาในเวลาประมาณ 17.20 น. เขาบังคับข่มขืนเธอ และต่อมาลงมือรัดคอจนเสียชีวิต ก่อนจะขโมยเงิน 10,000 ดอลลาร์ไต้หวัน

ภายหลังพ่อของแฟนสาวกลับมาบ้านและพบว่าภรรยาและลูกสาวถูกฆาตกรรม ตำรวจสามารถติดตามตัวหวงหลินไค่ผ่านโทรศัพท์มือถือและจับกุมเขาได้ในวันเดียวกัน ขณะที่เขาพยายามหลบหนีขึ้นไปบนหลังคา

ในระหว่างการพิจารณาคดี หวงหลินไค่ได้คุกเข่าขอโทษในศาล แต่พ่อของผู้เสียชีวิตยังคงประณามว่าเขาเป็นคนที่ "ไร้ศีลธรรมและไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้" ศาลสูงสุดระบุว่า หวงหลินไค่ได้วางแผนการฆาตกรรมล่วงหน้าและกระทำการด้วยความไร้มนุษยธรรม โดยไม่มีสำนึกผิดแต่อย่างใด

Advertisement

ในปี 2017 ศาลฎีกาได้ตัดสินประหารชีวิตหวงหลินไค่ ซึ่งเป็นนักโทษคนที่ 37 ที่รอการประหารชีวิตในไต้หวัน การประหารครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปีหลังจากที่มีการประหาร "เหวินเหรินเซียน" ในปี 2020 

สหภาพยุโรป ผ่านหน่วยงานด้านการต่างประเทศและนโยบายความมั่นคง (European External Action Service - EEAS) ได้เผยแพร่แถลงการณ์ผ่านเว็บไซต์ทางการ โดยแสดงความเสียใจอย่างจริงใจกับครอบครัวของผู้เสียชีวิต พร้อมทั้งประณามการกระทำของหวงหลินไค่ อย่างไรก็ตาม สหภาพยุโรปยังคงยืนยันจุดยืนต่อต้านโทษประหารชีวิต โดยระบุว่าเป็นการลงโทษที่ไร้มนุษยธรรม ละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ และไม่สามารถยอมรับได้ในทุกกรณี

สหภาพยุโรปชี้ว่า งานวิจัยหลายชิ้นแสดงให้เห็นว่าโทษประหารชีวิตไม่ได้มีผลยับยั้งอาชญากรรมอย่างมีนัยสำคัญ อีกทั้งไม่ได้ช่วยลดอาชญากรรมอย่างมีประสิทธิภาพ สหภาพยุโรปจึงเรียกร้องให้ไต้หวันยังคงระงับการใช้โทษประหารชีวิตในทางปฏิบัติ และกำหนดนโยบายที่มุ่งสู่การยกเลิกโทษประหารชีวิตอย่างถาวร คำแถลงนี้ได้จุดประเด็นการถกเถียงเรื่องโทษประหารชีวิตในเวทีระหว่างประเทศอีกครั้ง โดยเฉพาะในบริบทที่สหภาพยุโรปแสดงจุดยืนคัดค้านอย่างชัดเจน

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ไต้หวันเผชิญการถกเถียงเกี่ยวกับโทษประหารชีวิตอย่างต่อเนื่อง ผู้สนับสนุนมองว่าโทษประหารเป็นการลงโทษที่เหมาะสมสำหรับอาชญากรรมร้ายแรงบางประเภท และสามารถเตือนสังคมได้ แต่ผู้คัดค้านชี้ว่าโทษประหารไม่ได้ลดอาชญากรรมอย่างมีประสิทธิภาพ และอาจนำไปสู่การตัดสินผิดพลาด รวมถึงเป็นการละเมิดศักดิ์ศรีของมนุษย์อย่างรุนแรง หลังการประหารชีวิตหวงหลินไค่ นโยบายโทษประหารชีวิตในไต้หวันกลับมาเป็นประเด็นที่สังคมทั้งในและต่างประเทศให้ความสนใจอีกครั้ง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
kookkak

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เราใช้คุกกี้เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดบน
เว็บไซต์ของเรา โปรดศึกษาเพิ่มเติมที่
นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้