เขมรอ้างไทยถอนทหารออกจากพระวิหาร

เขมร อ้าง ไทย ถอนกองกำลังทหาร กว่า 1,000 นาย ออกจากพื้นที่พิพาทใกล้ปราสาทพระวิหารแล้ว เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม ที่ผ่านมา หลังการหารือกันที่กรุงบรัสเซลส์ ระหว่างผู้นำไทยและกัมพูชา

ขแมร์ไรเซชั่น อ้างการรายงานของ เรดิโอ ฟรี เอเชีย ระบุว่า พล.อ.เจีย ดารา รองผู้บัญชาการทหารสูงสุดของกัมพูชา ในฐานะผู้รับผิดชอบปฏิบัติการทางหาร ในพื้นที่พระวิหาร ยืนยันว่า กองกำลังทหารไทย 1,000 นาย ได้ถอนกำลังออกพื้นที่พิพาทแล้วหลังจากการหารือกัน ระหว่างสมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา และ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีของไทย สองครั้งที่ผ่านมา ที่มหานครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 24 กันยายน และ ที่กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม ในวันที่ 4 ตุลาคม ขณะที่สถานการณ์ทางการทหารตลอดพื้นที่แนวชายแดนไทย-กัมพูชา อยู่ในสภาวะผ่อนคลาย และกองกำลังทั้งสองฝ่าย ได้มีการพบปะกันอยู่เป็นประจำ รวมถึงการร่วมรับประทานอาหารร่วมกันด้วย

นอกจากนี้ ตามรายงานยังระบุด้วยว่า ไทยยังคงกำลังทหารจำนวน 10 นาย ในพื้นที่ วัดแก้วสิกขาคีรีสวาระ (Wat Keo Sekha Kirisvarak) ซึ่งเกิดความขัดแย้งอย่างรุนแรงขึ้นระหว่างสองประเทศ หลังทหารไทย หลายร้อยนาย ได้เข้ารุกรานพื้นที่ดังกล่าวเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม ปี 2551 โดย พล.อ. เจีย ดารา ระบุว่า "สถานการณ์ทางการทหาร ในพื้นที่ ณ ขณะนี้ผ่อนคลายอย่างมีนัยยะสำคัญโดยฝ่ายกัมพูชา ได้สังเกตเห็นว่า กองกำลังทหารไทยมีทัศนคติที่ดีขึ้นมาก ความตึงเครียดในปัจจุบันคลี่คลายลง อีกทั้งไทยก็ได้มีการถอนกำลังทหารออกจากแนวป้องกันที่สอง และเมื่อไม่กี่วันมา ยังได้มีการพบปะกันในทุกจุดที่มีการวางกำลังระหว่างทหารไทยกับกัมพูชาอีกด้วย"

ขณะที่นายกอย เกือง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศกัมพูชา กล่าวว่า "การถอนกำลังทหารของไทยออกจากพื้นทีพิพาทจะทำให้การเจรจาทวิภาคีระหว่างกัมพูชาและไทยดำเนินต่อไปเพื่อยุติความขัดแย้ง" ส่วนการหารือทวิภาคีที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ นายกอย เกือง กล่าวว่า "ถือเป็นสัญญาณที่ดีในความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ ในการจัดระเบียบเพื่อลดความตึงเครียดทางทหาร
และช่วยให้เกิดความคืบหน้าในการเจรจาในอนาคต"

ที่มา : http://webcache.googleusercontent.com/search?q=cache:mALjZt8E3McJ:khmerization.blogspot.com/2010/10/thailand-withdrawn-1000-troops-from.html+Thailand+withdraw+1,000+troops+from+disputed+area+near+radio+free+asea&cd=1&hl=th&ct=clnk&gl=th