ฮุนเซน บอก อภิสิทธิ์ ยัน DSI ไม่ใช่จุดยืนไทย
กัมพูชา ออกแถลงการณ์ขู่ ข้อกล่าวหาว่า ให้การฝึกอบรมนักรบแดง อาจส่งผลผลกระทบต่อความสัมพันธ์ ระหว่างกัน ขณะ ฮุนเซน เผย นายกฯ อภิสิทธิ์ ต่อสายตรง เพื่อชี้แจง
สำนักข่าวต่างประเทศ รายงาน วานนี้ หลังกระทรวงต่างประเทศกัมพูชา ออกแถลงการณ์ในช่วงบ่ายว่า ข้อกล่าวหา จากประเทศไทย เป็นสาเหตุทำให้เกิดความเสี่ยงอย่างมาก ต่อความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ
ตามแถลงการณ์ ระบุว่า "กัมพูชาขอปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมด จากกรมสอบสวนคดีพิเศษแห่งประเทศไทย หรือ DSI ที่กล่าวอ้างว่า กัมพูชาได้อนุญาตให้การฝึกอบรมการใช้อาวุธ ในอาณาเขตของราชอาณาจักรกัมพูชา ให้กับสมาชิกของกลุ่มเสื้อแดง เพื่อไปกระทำการอันโหดร้าย ต่อรัฐบาลไทย รวมถึงการลอบสังหารบุคคลสำคัญของรัฐบาลไทย"
"การกล่าวหาโดยยังไม่ได้รับการพิสูจน์ และให้ร้ายดังกล่าว โดย DSI จะก่อให้เกิดอันตรายมากขึ้น ต่อความสัมพันธ์ระหว่างไทย และ กัมพูชา และเป็นอุปสรรคต่อความพยายามในการปรับปรุงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศทั้งสอง"
แถลงการณ์ดังกล่าวของกระทรวงการต่างประเทศกัมพูชา มีขึ้นวันเดียวกัน ภายหลังจากที่ สมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา กล่าวปฏิเสธข้อกล่าวหา ในขณะกล่าวปราศรัยต่อบัณฑิตในกรุงพนมเปญ โดยนอกเหนือจากการปฏิเสธ สมเด็จฮุนเซน ยังมั่นใจว่า กัมพูชามีหน้าที่ "ในการต่อสู้กับการก่อการร้าย" และกัมพูชาเอง ก็ไม่มีส่วนได้เสีย ในการแทรกแซงกิจการภายในของประเทศไทยอีกด้วย
นอกจากนี้ สมเด็จฮุนเซน ยังเปิดเผยถึงการหารือกันครั้งล่าสุด กับ นายกรัฐมนตรี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม โดยมีการหารือกัน ถึง 2 กรณี โดยเฉพาะการให้คำมั่น เกี่ยวกับการอนุมัติของรัฐสภาไทย ในข้อตกลงการประชุม 3 ฉบับ ที่ทำไว้กับกัมพูชา
http://news.xinhuanet.com/english2010/world/2010-10/13/c_13556087.htm
ขณะที่ เว็บไซต์ หนังสือพิม์ พนมเปญโพสต์ และ ซินหัว รายงานวานนี้ (13) ว่า สมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ได้กล่าวปราศรัยในพิธีจบการศึกษาที่กรุงพนมเปญ ถึงข้อกล่าวจากกองกำลังความมั่นคงของไทย เกี่ยวกับกลุ่มผู้เคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาล ซึ่งมีเป้าหมายสังหารบุคคลสำคัญของไทย ร่วมถึง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ซึ่งได้รับการฝึกอบรมมาจากประเทศกัมพูชา
โดย สมเด็จฮุนเซน กล่าวว่า เป็นขอกล่าวหาที่ไม่มีเหตุผล รัฐบาลกัมพูชา และตนมั่นใจได้ว่า กัมพูชามีหน้าที่ "ในการต่อสู้กับการก่อการร้าย" และกัมพูชา ก็ไม่มีส่วนได้เสีย ในการเข้าแทรกแซงกิจการภายในของประเทศไทย" นอกจากนี้ เมื่อคืนที่ผ่านมา (12) ตนยังได้ติดต่อสื่อสารกับ นายอภิสิทธิ์ ผ่านเครื่องมือพิเศษ โดยนายกรัฐมนตรีของไทย ได้ส่งข้ออย่างเป็นทางการถึงตน เพื่ออธิบายว่า ความคิดเห็นของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ไม่ได้สะท้อนให้เห็นจุดยืนทั้งหมดของรัฐบาลไทย