พ่อหน้าซีด ทารกมี "ปานที่ก้น" จะยกให้คนอื่นเลี้ยง เจอย่าสวนด้วย "ความจริง" หุบปากฉับ!
Thailand Web Stat

พ่อหน้าซีด ทารกมี "ปานที่ก้น" จะยกให้คนอื่นเลี้ยง เจอย่าสวนด้วย "ความจริง" หุบปากฉับ!

พ่อหน้าซีด ทารกมี "ปานที่ก้น" จะยกให้คนอื่นเลี้ยง เจอย่าสวนด้วย "ความจริง" หุบปากฉับ!
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

พ่อเครียด ลูกเกิดมามี "ปานที่ก้น" จะยกให้คนอื่นเลี้ยง เจอย่าสวนคำเดียว อยู่หมัด!

ตามรายงานของเว็บไซต์ phunuphapluat  แชร์เรื่องราวตามคำบอกเล่าของหญิงสาวคนหนึ่ง ที่เพิ่งให้กำเนิดลูกชายคนแรก ในขณะที่อยู่ที่โรงพยาบาล ทั้งเธอและสามีต่างก็ยุ่งมากจนไม่มีเวลาตรวจดูทุกอย่างเกี่ยวกับลูกอย่างละเอียด เพิ่งจะมาค้นพบตอนที่กลับถึงบ้านว่า มีปานขนาดใหญ่เท่าฝ่ามือสีฟ้าที่บริเวณก้นของทารก

สามีของเธอค้นพบปานนี้ในระหว่างที่ทั้งคู่กำลังอาบน้ำให้ลูกชาย เขาร้องบอกขึ้นมาว่า "ที่รัก ที่รัก ดูสิ ทำไมลูกชายของเราถึงมีปานสีฟ้าใหญ่ๆ ที่ก้นล่ะ?” แม้ว่าเธอเองจะแปลกใจกับมันเช่นกัน เพราะเพิ่งสังเกตเห็นเช่นเดียวกัน แต่ก็พยายามพูดให้สามีที่ดูตื่นตระหนกสบายใจขึ้น โดยบอกว่าคงไม่เป็นไร เพราะหลายคนก็มีปานเหมือนกัน

ดูเหมือนหัวข้อสนทนานี้ควรจะจบลงเพียงแค่นั้น แต่ความจริงคือสามีของเธอไม่ยอมปล่อยผ่านมันไป ตลอดทั้งวันเธอสังเหตเห็นว่าเขาเอาแต่คิดซ้ำๆ ดูสิ่งนี้ อ่านสิ่งนั้น แล้วจู่ๆ ก็พูดว่า

“ผมก็คิดอยู่เรื่อยๆ ว่าก้นผมไม่มีปาน แต่ลูกมี ดังนั้นมันจึงไม่ใช่เรื่องทางพันธุกรรม แต่ผมอ่านเจอในเน็ตว่าคนเขาบอกว่าเด็กที่มีปานใหญ่ขนาดนี้คือ ‘ร่องรอยที่ถูกทำทิ้งไว้’ และจะเลี้ยงยาก ดังนั้นก็ให้ครอบครัวญาติรับไปเลี้ยง ก็จะเป็นเด็กที่เลี้ยงง่ายกว่า เนื่องจากอาของผมยังไม่มีลูก และกำลังหวังว่าจะมีลูก เพราะถ้าพวกเราเลี้ยงลูกเอง ถ้าเป็นเด็กเกเรที่ ‘ถูกตราหน้าว่ามาจากชาติก่อน’ จริงๆ คงเหนื่อยมาก”

เมื่อฟังสิ่งที่สามีพูดจบ เธอแทบไม่เชื่อหูตัวเองและถึงกับไปไม่เป็น ได้แต่ถามออกไปว่า “คุณกำลังพูดถึงอะไร ต่อให้มันจะยากฉันก็จะยังคงเลี้ยงลูกต่อไป ฉันจะไม่ให้ใครเลี้ยงลูกของเรา ฉันไม่เห็นด้วยกับวิธีนี้อย่างแน่นอน” แต่สามีก็ยังคงพูดต่อไปว่า “ทำไมดื้อจัง ผมให้ญาติไปเลี้ยง จะได้สะดวกขึ้น ไม่ได้ให้คนนอกเลี้ยง ไม่มีอะไรต้องกลัว”

Advertisement

สุดท้ายเธอก็ไม่อาจทนได้อีกต่อไปและถึงกับร้องไห้ออกมา แม่สามีที่อยู่ชั้นล่างได้ยินจึงวิ่งขึ้นมาถามว่าเกิดอะไรขึ้น เมื่อทราบเรื่องทั้งหมดก็อุทานว่า “ทำไมเขาถึงโง่ขนาดนี้? แค่อ่านเรื่องไร้สาระทั้งหมด แล้วมาพูดเรื่องไร้สาระกับภรรยาและลูกของตัวเอง”

จากนั้นแม่สามีก็อธิบายเรื่องปานสีฟ้าที่ก้นลูกชายให้ฟังสักพัก บอกว่าไม่เพียงแต่หลานชายคนนี้เท่านั้น แต่ลูกๆ ของเธอก็เกิดมาพร้อมกับปานชนิดนี้ด้วย อย่างไรก็ตาม มันจะค่อยๆ จางลงเมื่อโตขึ้น และนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาจึงมองไม่เห็นปานที่ก้นของตัวเองในตอนนี้ และเรื่องนี้ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับพันธุกรรมที่ทำให้เขาสงสัยเลย

นอกจากนี้แม่สามียังเล่าด้วยว่า สมัยก่อนเคยได้ยินคนพูดว่า “หมอตำแย” มักจะทำเครื่องหมายปานสีฟ้าบนตัวเด็กดื้อ แต่เธอไม่เชื่อ “ไม่ต้องกังวลนะ แม่เคยถามหมอตั้งแต่ตอนหลานเกิด หมอบอกว่าปานนี้ไม่ใช่เนื้องอก และไม่เกี่ยวอะไรกับความเจ็บป่วยหรือความเชื่อทางจิตวิญญาณ” และหันไปพูดทิ้งท้ายกับลูกชายตัวเองว่า “ดังนั้นอย่าคิดที่จะมอบหลานของฉันให้ใครอีกเลย ถึงจะเลี้ยงยากก็อย่าแตะหลานฉันนะ!!!” พูดจบก็อุ้มหลานเดินลงบันไดไป เพราะเกรงว่าลูกชายจะทำสิ่งโง่ๆ อีก

หลังจากได้ยินแม่สามีพูด เธอที่เป็นลูกสะใภ้ก็รู้สึกมีความสุขมาก แต่ลูกชายกลับยืนนิ่งด้วยความตกตะลึง เธอยังบอกด้วยว่าไม่เคยเห็นใครในชีวิตที่อารมณ์ร้อนและโง่เขลาเหมือนสามีของตัวเองเลย เกือบจะต้องเสียใจไปตลอดชีวิตที่อยากทอดทิ้งลูก!!!

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
kookkak

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เราใช้คุกกี้เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดบน
เว็บไซต์ของเรา โปรดศึกษาเพิ่มเติมที่
นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้