น้ำทะลักไม่หยุด! 12 จังหวัดภาคกลางเตรียมรับมือ

เมื่อเวลา 10.00 น. นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานประชุมเพื่อเตรียมการองรับสถานการณ์อุทกภัย ปี 2553 พื้นที่ภาคกลาง 12 จังหวัด ได้แก่ นนทบุรี พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี ลพบุรี สระบุรี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี นครปฐม กาญจนบุรี สมุทรสาคร หน่วยงานส่วนราชการจังหวัดนนทบุรี องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจังหวัดนนทบุรี

นายชวรัตน์ กล่าวว่า ให้ผู้ว่าแต่ละจังหวัดเรียกส่วนราชการ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ประชุมประจำวันเพื่อเตรียมการรับมือล่วงหน้า รวมถึงป้องกันแก้ไข มีการประสานงานร่วมมือ กันระหว่างหน่วยงาน อปท.กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน แจ้งข้อมูลข่าวสารรับมือกับสถานการณ์ โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยง การถูกน้ำท่วมซ้ำซาก พร้อมทั้งจัดเตรียมเครื่องอุปโภคบริโภคให้พร้อม เช่น ข้าวสาร อาหารแห้ง

ทั้งนี้ มีการปล่อยน้ำจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ และเขื่อนเจ้าพระยาเป็นจำนวนมาก เพราะไม่สามารถเก็บกักน้ำไว้ได้อีก จึงเตือนประชาชนในพื้นที่ท้ายเขื่อนให้เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน

ด้าน จ.พระนครศรีอยุธยา (22 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่วัดบุญกันนาวาส ต.ไทรน้อย อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา คันดินกั้นน้ำและแนวกระสอบทรายด้านที่ติดแม่น้ำเจ้าพระยาสูงเกือบ 3 เมตร ได้พังทลายลงมาเนื่องจากแรงดันและกระแสที่ไหลเร็วและแีรง เป็นเหตุให้น้ำจากแม่้น้ำเข้าพระยาไหลทะลักเข้าท่วมพื้นที่วัด ซึ่งระยะเวลาไม่ถึง 1 ชั่วโมงพื้นที่วัดกว่า 10 ไร่จมอยู่ใต้น้ำทันที ซึ่งระดับน้ำสูงกว่่า 2 เมตร สร้างความเสียหายเป็นอย่างมาก

อนึ่ง วัดบุญกันาวาสกำลังจัดเตรียมพื้นที่ำสำหรับงานรับเสด็จสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ทรงกำหนดเสด็จมาเป็นองค์ประธานทอดกฐินพระราชทานและยกช่อฟ้าพระอุโบสถหลังที่บุรณะใหม่ในวันที่ 29 ตุลาคมนี้ ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวนั้นได้ถูกน้ำท่วมไปแล้ว

ด้าน นายนพดล ชินะจิตร นายอำเภอบางบาล กล่าวว่าก่อนหน้านี้เมื่อเจ้าพระยาเริ่มสูงล้นตลิ่ง ทางการได้ทำคันกันน้ำมีความสูงกว่า 3 เมตรล้อมรอบพื้นที่วัดเพื่อเตรียมพื้นที่ในการรับเสด็จสมเด็จพระเทพรัตนฯ แต่เมื่อช่วงบ่ายของวันนี้แรงดันน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาได้ดันให้คันกั้นน้ำหน้าวัดพังลงมาและน้ำไหลเข้าอย่างรวดเร็ว

อย่างไรก็ตาม ทางการต้องแจ้งรายงานด่วนไปยังสำนักพระราชวังและต้องเร่งฟื้นฟูพื้นที่ให้กลับมาเป็นปกติโดยเร็ว