"นายกอิ๊งค์" นำทีมทลายโกดัง "บุหรี่ไฟฟ้า" มูลค่ารวม 130 ล้าน แจงปม "โกดังเมียตำรวจ?"

"นายกอิ๊งค์" เอาจริง ทลายแหล่งบุหรี่ไฟฟ้าที่ใหญ่ที่สุดในไทย
นายกรัฐมนตรี อิ๊งค์ "แพทองธาร ชินวัตร" เดินหน้าตามนโยบายรัฐบาลปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้าอย่างจริงจัง หลังจากที่ตำรวจสามารถทลายโกดังขนาดใหญ่ที่จังหวัดนนทบุรี ซึ่งเป็นแหล่งเก็บและกระจายบุหรี่ไฟฟ้าและน้ำยาที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ณ ปัจจุบัน โดยโกดังแห่งนี้ตั้งอยู่ห่างจากสถานีตำรวจภูธรบางบัวทองเพียง 900 เมตรเท่านั้น ซึ่งถือว่าอยู่ในพื้นที่ที่ตำรวจสามารถตรวจสอบได้ง่าย แต่กลับไม่สามารถเข้าถึงได้ทันท่วงที เนื่องจากผู้กระทำผิดมีการเคลื่อนย้ายของกลางหนีตำรวจทุกครั้ง
การจับกุมครั้งนี้เป็นผลจากการปฏิบัติการร่วมกันระหว่างกองบัญชาการตำรวจนครบาลและกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 โดยมีการขอศาลออกหมายค้นในพื้นที่รวม 10 จุด และสามารถยึดของกลางได้มากถึง 260,000 ชิ้น ซึ่งมีมูลค่าประมาณ 130 ล้านบาท โดยเฉพาะในโกดังนี้พบสินค้าเป็นบุหรี่ไฟฟ้าและน้ำยาพรีเมี่ยมที่มีราคาต่อชิ้นสูงถึง 500 บาท ทำให้การจับกุมครั้งนี้นับเป็นการดำเนินการที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์การปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้าในประเทศไทย
นอกจากนั้น ภายในโกดังยังพบการจัดแสดงสินค้าในตู้โชว์สำหรับลูกค้าที่จะนำสินค้าบุหรี่ไฟฟ้าไปจำหน่ายต่อไป และพบว่ามีการใช้ช่องทางออนไลน์เป็นสื่อกลางในการขายบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งทำให้สามารถกระจายสินค้าไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว โดยการสืบสวนและจับกุมในครั้งนี้ เริ่มต้นจากการล่อซื้อผ่านเว็บไซต์และกลุ่ม LINE จนสามารถสะกดรอยตามและพบแหล่งพักสินค้ารวมถึงเส้นทางการขนส่งที่เชื่อมโยงกับการขนส่งสินค้าผ่านด่านศุลกากรแหลมฉบัง
"นายกอิ๊งค์" กล่าวถึงการจับกุมในครั้งนี้ว่า เป็นผลจากการประสานงานที่ดีระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกฝ่าย ซึ่งสามารถจับกุมบุหรี่ไฟฟ้าที่มีการผสมสารเสพติดอย่างยาเค (เคตามีน) ซึ่งมีอันตรายถึงชีวิต โดยบุหรี่ไฟฟ้าเหล่านี้นอกจากจะมีสารเสพติดแล้ว ยังทำให้ผู้เสพติดมีความเสี่ยงในการติดสารเสพติดในระยะยาว ซึ่งการเลิกยากและส่งผลเสียต่อสุขภาพในที่สุด รัฐบาลจึงต้องเร่งแก้ไขปัญหานี้อย่างจริงจัง
พลตำรวจตรีนพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า การตรวจสอบและจับกุมในครั้งนี้เกิดขึ้นจากการสืบสวนที่ทำร่วมกับตำรวจภูธรทุกภาค โดยในขั้นแรกพบว่าการขายบุหรี่ไฟฟ้าเริ่มแพร่หลายผ่านทางออนไลน์ โดยกลุ่มผู้ค้ามักใช้ช่องทางต่าง ๆ เช่น เว็บไซต์และกลุ่ม LINE เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับจากเจ้าหน้าที่ ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะสามารถติดตามจับกุมได้
นอกจากนี้ พลตำรวจตรีนพศิลป์ยังระบุว่า โกดังที่ถูกทลายนี้มีการใช้งานเป็นแหล่งพักสินค้าและจัดส่งสินค้าบุหรี่ไฟฟ้าไปยังพื้นที่ต่าง ๆ โดยโกดังดังกล่าวมีการติดตั้งตู้โชว์สำหรับการจัดแสดงสินค้าให้แก่ผู้ค้าที่จะนำไปจำหน่ายต่อ ซึ่งถือเป็นสถานที่ที่มีการดำเนินการครบวงจร ทั้งการจัดเก็บ การแพ็คสินค้า และการจัดส่งผ่านไปรษณีย์
เกี่ยวกับข้อกฎหมาย นายกรัฐมนตรี "อิ๊งค์" กล่าวถึงการดำเนินการในเรื่องนี้ว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้าอย่างจริงจัง และจะดำเนินการตรวจสอบให้ละเอียดเกี่ยวกับการนำเข้าผลิตภัณฑ์ผิดกฎหมายเหล่านี้ โดยจะมีการขยายผลไปถึงการฟอกเงินที่เกี่ยวข้องกับการค้าเถื่อนเหล่านี้ด้วย นอกจากนี้ รัฐบาลยังจะเน้นการสื่อสารกับประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเยาวชน เพื่อให้รับรู้ว่า บุหรี่ไฟฟ้าคือสินค้าที่ผิดกฎหมายและไม่ควรเสพติด
ทั้งนี้ นายกฯ ยังกล่าวถึงการตรวจสอบภายในพื้นที่ใกล้เคียงกับสถานีตำรวจ โดยยอมรับว่า การตรวจสอบของตำรวจในพื้นที่นนทบุรีอาจจะยังไม่ทั่วถึง ซึ่งผู้ต้องหามักจะมีการย้ายสินค้าหนีหากมีเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ และรัฐบาลจะเร่งให้มีการตรวจสอบอย่างละเอียดและเข้มงวดยิ่งขึ้นในอนาคต
ในเรื่องนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวเสริมว่า ตั้งแต่ช่วงแรกที่รัฐบาลเริ่มดำเนินการในเรื่องของการปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้า เกิดความสับสนในบางส่วนเกี่ยวกับกฎหมายและนโยบาย แต่วันนี้รัฐบาลได้มีการกำหนดแนวทางที่ชัดเจนแล้ว ซึ่งจะทำให้ทุกหน่วยงานสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและจะเห็นผลการดำเนินการที่ดีขึ้นในอนาคต
สำหรับการทำลายของกลางในครั้งนี้ พลตำรวจโท สำราญ นวลมา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ของกลางทั้งหมดจะถูกส่งไปทำลายตามขั้นตอนที่เหมือนกับการทำลายยาเสพติด โดยจะมีการเชิญสื่อมวลชนเข้าร่วมสังเกตการณ์การทำลายของกลางเพื่อให้เกิดความโปร่งใส
ขณะที่ นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ของกลางทั้งหมดนี้จะถูกส่งไปที่กรมศุลกากรตามกฎหมาย และจะมีการประเมินมูลค่าและขยายผลเพิ่มเติมไปยังนายทุนและตัวแทนที่นำสินค้าผิดกฎหมายเข้ามาในประเทศ
ในการจับกุมครั้งนี้ สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 1 คน และกำลังออกหมายจับเพิ่มเติมอีก 1 คน ส่วนกรณีที่มีการตั้งข้อสงสัยว่าโกดังนี้เป็นของภรรยาตำรวจ พลตำรวจตรีนพศิลป์ ชี้แจงว่าเป็นเรื่องเข้าใจผิด โกดังดังกล่าวเป็นโกดังที่ปล่อยเช่า ซึ่งเจ้าของโกดังเป็นอดีตภรรยาของตำรวจ แต่ผู้ต้องหาคือผู้เช่าที่นำสินค้าผิดกฎหมายมาเก็บไว้
นายกรัฐมนตรีย้ำว่า รัฐบาลจะดำเนินการตามนโยบายที่ชัดเจน โดยการจับกุมและทำลายแหล่งบุหรี่ไฟฟ้าที่ผิดกฎหมายเหล่านี้จะเป็นการป้องกันไม่ให้มีการกระจายสินค้าผิดกฎหมายไปยังตลาดอีกต่อไป พร้อมทั้งเตรียมดำเนินการในทุกขั้นตอนเพื่อให้การปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้าสามารถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพและครอบคลุมทุกแหล่งที่มีการกระทำผิด
อัลบั้มภาพ 5 ภาพ