หนุ่มงดดื่มชานม 2 เดือน เดินวันละหมื่นก้าว น้ำหนักไม่ลดแล้วยังเพิ่มขึ้น หมอเฉลยสาเหตุ

หนุ่มงดดื่มชานม 2 เดือน เดินวันละหมื่นก้าว น้ำหนักไม่ลดแล้วยังเพิ่มขึ้น หมอเฉลยสาเหตุ

หนุ่มงดดื่มชานม 2 เดือน เดินวันละหมื่นก้าว น้ำหนักไม่ลดแล้วยังเพิ่มขึ้น หมอเฉลยสาเหตุ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หนุ่มตั้งใจลดน้ำหนัก งดดื่มชานม 2 เดือน เดินวันละ 10,000 ก้าว นอกจากไม่ลดแล้วยังเพิ่มขึ้น หมอเฉลยสาเหตุ

ชายคนหนึ่งในเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ยของจีน พยายามลดน้ำหนักด้วยการเดินวันละ 10,000 ก้าวทุกวัน แต่กลับไม่ทำให้น้ำหนักลดลง ตรงกันข้าม น้ำหนักของเขากลับเพิ่มขึ้น 1 กิโลกรัม ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าร่างกายของแต่ละคนมีสภาพแตกต่างกัน รวมถึงอัตราการเผาผลาญและระดับกิจกรรมในชีวิตประจำวัน ดังนั้น ผลลัพธ์ของการเดินวันละ 10,000 ก้าวเพื่อลดน้ำหนักจึงอาจไม่เหมือนกัน หากต้องการลดน้ำหนักอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากการเพิ่มกิจกรรมทางกายแล้ว ยังต้องคำนึงถึงการควบคุมอาหาร ความเข้มข้นและระยะเวลาของการออกกำลังกาย อัตราการเผาผลาญของร่างกาย และสุขภาพโดยรวมด้วย

ตามรายงานของ Chutian Metropolis Daily นายหลี่ (นามสมมติ) วัย 37 ปี มีงานยุ่งและต้องเข้าสังคมบ่อย ทำให้มีพฤติกรรมการกินที่ไม่เป็นระเบียบ จนทำให้น้ำหนักขึ้นเกือบ 10 กิโลกรัมภายในครึ่งปี ด้วยความกังวลเรื่องสุขภาพ เขาจึงตัดสินใจลดน้ำหนัก หลังจากค้นหาวิธีต่างๆ ทางออนไลน์ เขาพบว่าแนวคิด "เดินวันละ 10,000 ก้าว" น่าสนใจ จึงตั้งเป้าหมายให้ตัวเองเดินให้ครบตามจำนวนนี้ทุกวัน หวังว่าจะช่วยให้ลดน้ำหนักได้

นอกจากเดินวันละ 10,000 ก้าวแล้ว นายหลี่ยังรับประทานอาหารเย็นเป็นบะหมี่ผักชามเล็ก และงดดื่มชานมที่ชื่นชอบตลอด 2 เดือนของการลดน้ำหนัก อย่างไรก็ตาม เขากลับรู้สึกอ่อนเพลียหลังมื้ออาหาร และสภาพร่างกายโดยรวมไม่สดชื่น ที่น่าตกใจที่สุดคือน้ำหนักกลับเพิ่มขึ้นอีก 1 กิโลกรัม ทำให้เขาตัดสินใจไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลตงหู เมืองอู่ฮั่น

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านต่อมไร้ท่อ กวน ย่าเหวิน ได้ทำการประเมินร่างกายของเขาและพบสาเหตุที่ทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นแทนที่จะลดลง โดยอธิบายว่า การเดินเป็นรูปแบบหนึ่งของการออกกำลังกายแบบแอโรบิกที่มีความเข้มข้นต่ำ ซึ่งช่วยเผาผลาญพลังงานและกระตุ้นระบบเผาผลาญ แต่การลดน้ำหนักที่แท้จริงขึ้นอยู่กับการที่ร่างกายได้รับพลังงานน้อยกว่าที่เผาผลาญไป หากไม่ได้ควบคุมปริมาณแคลอรี่จากอาหารให้เหมาะสม แม้จะเดินวันละ 10,000 ก้าว ก็อาจไม่ช่วยให้น้ำหนักลดลง

แพทย์ยังระบุว่า นายหลี่มีภาวะอ้วนลงพุงและภาวะดื้อต่ออินซูลิน ซึ่งทำให้ร่างกายเผาผลาญไขมันได้ช้ากว่าปกติ นอกจากนี้ การเดินเป็นเพียงการออกกำลังกายแบบแอโรบิก ซึ่งเผาผลาญพลังงานเพียง 200-300 กิโลแคลอรีต่อครั้ง (เทียบเท่าข้าวหนึ่งถ้วย) อีกทั้งเขายังมักรู้สึกหิวหลังออกกำลังกาย และเผลอกินเพิ่มขึ้น ทำให้เกิดภาวะแคลอรี่ส่วนเกิน

ที่สำคัญ การออกกำลังกายทำให้มวลกล้ามเนื้อของเขาเพิ่มขึ้น 2 กิโลกรัม ซึ่งเนื่องจากกล้ามเนื้อมีความหนาแน่นมากกว่าไขมันถึง 1.1 เท่า จึงทำให้น้ำหนักของเขาเพิ่มขึ้นแทนที่จะลดลง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
kookkak

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เราใช้คุกกี้เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดบน
เว็บไซต์ของเรา โปรดศึกษาเพิ่มเติมที่
นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้