ส่วนนี้ของ "แซลมอน" มีประโยชน์ไม่แพ้เนื้อปลา หลายคนไม่รู้คุณค่า ทิ้งไปเฉยๆ
Thailand Web Stat

ส่วนนี้ของ "แซลมอน" มีประโยชน์ไม่แพ้เนื้อปลา หลายคนไม่รู้คุณค่า ทิ้งไปเฉยๆ

ส่วนนี้ของ "แซลมอน" มีประโยชน์ไม่แพ้เนื้อปลา หลายคนไม่รู้คุณค่า ทิ้งไปเฉยๆ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ส่วนนี้ของ "แซลมอน" ประโยชน์ไม่แพ้เนื้อปลา น่าเสียดายหลายคนไม่รู้คุณค่า ไม่กิน ทิ้งไปเฉยๆ

เวลานำปลาแซลมอนมาปรุงอาหาร หลายคนมักจะ ลอกและทิ้งหนังปลา โดยไม่ทราบว่า หนังปลาแซลมอนเต็มไปด้วยสารอาหารสำคัญ ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มคอลลาเจนให้ผิวเต่งตึง แต่ยังมี กรดไขมันโอเมก้า-3 และสารต้านอนุมูลอิสระ ที่อาจช่วยลดความเสี่ยงของโรคมะเร็ง หากนำมาบริโภคอย่างเหมาะสม หนังปลาแซลมอนจะกลายเป็น แหล่งสารอาหารอันล้ำค่า ที่ช่วยเสริมสร้างสุขภาพได้อย่างดี

ประโยชน์ของหนังปลาแซลมอน

1. อุดมด้วยคอลลาเจน ช่วยบำรุงผิวและข้อต่อ

คอลลาเจน เป็นสารสำคัญที่ช่วยให้ผิวเต่งตึง เรียบเนียน และชะลอวัย อีกทั้งยังช่วยบำรุง กระดูกอ่อนและข้อต่อ ลดความเสี่ยงของโรคข้อเสื่อม หนังปลาแซลมอนมีปริมาณคอลลาเจนสูงกว่าตัวเนื้อปลา แต่กลับถูกมองข้ามและถูกทิ้งไปอย่างน่าเสียดาย

2. อุดมไปด้วยโอเมก้า-3 ช่วยป้องกันโรคหัวใจ

หนังปลาแซลมอนมี กรดไขมันโอเมก้า-3 ในระดับสูงที่สุดเมื่อเทียบกับส่วนอื่น ๆ ของปลา ซึ่งมีส่วนช่วย ลดการอักเสบ ลดระดับไตรกลีเซอไรด์ในเลือด และช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ การรับประทานแซลมอนพร้อมหนังปลาจะช่วยรักษาปริมาณโอเมก้า-3 ได้ดีกว่าการกินเฉพาะเนื้อปลา

3. สารต้านอนุมูลอิสระ ลดความเสี่ยงโรคมะเร็ง

โอเมก้า-3 ในนอกจากดีต่อหัวใจ ยังมี คุณสมบัติช่วยยับยั้งการเติบโตของเซลล์มะเร็ง โดยลดการอักเสบและปกป้องเซลล์จากอนุมูลอิสระ นอกจากนี้ หนังปลาแซลมอนยังอุดมไปด้วย แอสตาแซนธิน (Astaxanthin) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรัง รวมถึงมะเร็ง

4. แหล่งรวมวิตามินและแร่ธาตุสำคัญ

นอกจากคอลลาเจนและโอเมก้า-3 แล้ว หนังปลาแซลมอนยังอุดมไปด้วย วิตามินบี วิตามินดี ไนอะซิน และฟอสฟอรัส ซึ่งช่วย บำรุงสมอง เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และทำให้กระดูกแข็งแรง โดยเฉพาะ วิตามินดี ที่ช่วยให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียมได้ดีขึ้น ลดความเสี่ยงของโรคกระดูกพรุน

Advertisement

วิธีกินหนังปลาแซลมอนให้ปลอดภัยและได้ประโยชน์สูงสุด

1. เลือกแหล่งที่มาของปลาแซลมอนที่ปลอดภัย

หนังปลาแซลมอนทุกแหล่งไม่เหมาะสำหรับการบริโภค เนื่องจากแซลมอนบางแห่งอาจมีการปนเปื้อน สารพีซีบี (PCB) และเมทิลเมอร์คิวรี (Methylmercury) ซึ่งเป็นสารพิษที่อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพหากสะสมในร่างกายเป็นเวลานาน ทางที่ดีควรเลือก ปลาแซลมอนที่จับจากธรรมชาติในมหาสมุทรแปซิฟิก แทนการเลือกแซลมอนที่เลี้ยงในมหาสมุทรแอตแลนติก เพื่อลดความเสี่ยงจากสารปนเปื้อน

2. ล้างและเตรียมหนังปลาให้สะอาด

ก่อนนำหนังปลาแซลมอนมารับประทาน ควรแช่ในน้ำเกลือหรือน้ำมะนาว เพื่อกำจัดกลิ่นคาว และ ขูดเอาเมือกที่ผิวออก เพื่อลดสิ่งสกปรกที่อาจติดมา จากนั้นล้างน้ำสะอาดก่อนนำไปปรุงอาหาร

3. ใช้วิธีปรุงอาหารที่คงคุณค่าทางโภชนาการ

การปรุงอาหารหนังปลาแซลมอน ควร หลีกเลี่ยงอุณหภูมิที่สูงเกินไป ลดการใช้น้ำมันและเกลือ วิธีที่ดีที่สุดคือการปรุงพร้อมกับเนื้อปลาและก้างปลา เพื่อให้คงทั้งรสชาติและสารอาหารที่เป็นประโยชน์

ใครที่ควรหลีกเลี่ยงการกินหนังปลาแซลมอน?

แม้ว่าหนังปลาแซลมอนจะมีประโยชน์มากมาย แต่ บางกลุ่มควรหลีกเลี่ยงหรือบริโภคในปริมาณจำกัด ได้แก่

  • หญิงตั้งครรภ์และเด็กเล็ก – เนื่องจากอาจมีความไวต่อสารปนเปื้อนที่ตกค้างในปลา
  • ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับตับและไต – ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานในปริมาณมาก
  • ผู้ที่แพ้อาหารทะเล – หนังปลาแซลมอนอาจกระตุ้นอาการแพ้

หนังปลาแซลมอนเป็นแหล่งสารอาหารที่ อุดมไปด้วยคอลลาเจน โอเมก้า-3 สารต้านอนุมูลอิสระ และวิตามินที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ หากเลือกจากแหล่งที่ปลอดภัยและปรุงอย่างถูกวิธี สามารถช่วยบำรุงผิว ข้อต่อ หัวใจ และลดความเสี่ยงโรคมะเร็ง ได้เป็นอย่างดี ดังนั้น ครั้งหน้าที่คุณทานแซลมอน อย่าทิ้งหนังปลา! 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
kookkak

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เราใช้คุกกี้เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดบน
เว็บไซต์ของเรา โปรดศึกษาเพิ่มเติมที่
นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้