ลูกสาว 10 ขวบ ตื่นมาเดินเซๆ เอะใจพาไปตรวจ หมอเผย "ร้ายแรงมาก" รู้ไม่ทันเสี่ยงตายสูง!

ลูกสาว 10 ขวบ ตื่นมาเดินเซๆ เอะใจพาไปตรวจ หมอเผย "ร้ายแรงมาก" รู้ไม่ทันเสี่ยงตายสูง!

ลูกสาว 10 ขวบ ตื่นมาเดินเซๆ เอะใจพาไปตรวจ หมอเผย "ร้ายแรงมาก" รู้ไม่ทันเสี่ยงตายสูง!
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

 ลูกสาวตื่นมาบ่นปวดหัว มีอาการเดินเซ พาไปตรวจผลช็อก หมอเผย "ร้ายแรงมาก" มารักษาไม่ทันเสี่ยงตายสูง!

เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2025 เด็กหญิงวัย 10 ขวบ ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลประชาชนเหอหนาน ประเทศจีน เพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน หลังจากแสดงอาการปวดศีรษะและเดินเซ

ตามรายงานพบว่า หลังจากเด็กตื่นขึ้นจากการงีบหลับตอนบ่าย ก็เริ่มบ่นว่าปวดหัว อย่างไรก็ตาม ผู้ปกครองคิดว่าเนื่องจากลูกสาวนอนมาก จึงไม่ได้ใส่ใจ แต่ต่อมาสังเกตเห็นว่ามีอาหารเดินเซและพูดไม่ชัด จึงตัดสินใจพาไปตรวจที่โรงพยาบาล

เมื่อมาถึงโรงพยาบาล เด็กหญิงอยู่ในอาการโคม่า และถูกนำตัวส่งห้องฉุกเฉินทันที ผลทีซีแสกนเผยให้เห็นความผิดปกติขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 4 ซม. ในหลอดเลือดสมอง และได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคหลอดเลือดสมองแตก

แพทย์กล่าวว่า อาการของเด็กอยู่ในขั้นร้ายแรงมาก หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที มีความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตสูงมาก พ่อแม่ก็ตกตะลึงเมื่อได้ยินคำวินิจฉัย เพราะทางครอบครัวไม่คิดว่าอาการของลูกสาวจะร้ายแรงขนาดนี้

หลังจากนั้นแพทย์ได้ทำการผ่าตัดเพื่อรักษาภาวะหลอดเลือดสมองผิดปกติ (AVM)   อาการของเด็กหญิงก็อยู่ในเกณฑ์คงที่โดยขณะนี้ได้รับการติดตามอาการที่โรงพยาบาล และกำลังอยู่ในช่วงฟื้นฟูร่างกาย

Advertisement

ภาวะหลอดเลือดสมองผิดปกติ เป็นความผิดปกติแต่กำเนิดของหลอดเลือดในสมอง ที่ทำให้การเชื่อมต่อระหว่างหลอดเลือดแดงและหลอดเลือดดำไม่ปกติ ซึ่งโดยปกติหลอดเลือดแดงทำหน้าที่นำเลือดที่มีออกซิเจนจากหัวใจไปยังสมอง หลอดเลือดดำส่งเลือดที่หมดออกซิเจนกลับไปยังปอดและหัวใจ แต่ความผิดปกติดังกล่าวจะรบกวนกระบวนการที่สำคัญเหล่านี้

ผู้ป่วยอาจมีอาการเช่น ปวดศีรษะ อ่อนแรง กล้ามเนื้อเป็นอัมพาต ทำให้เดินลำบาก พูดไม่ชัด สูญเสียการมองเห็น หรือชักภาวะนี้มักถูกค้นพบโดยบังเอิญเมื่อผู้ป่วยเข้ารับการสแกนสมองเพื่อค้นหาปัญหาสุขภาพอื่นๆ บางกรณีถูกค้นพบเมื่อหลอดเลือดแตกและทำให้มีเลือดออกซึ่งส่งผลต่อเนื้อเยื่อสมอง หากไม่ตรวจพบแต่เนิ่นๆ และไม่รักษาอย่างทันท่วงที ผู้ป่วยมีความเสี่ยงสูงที่จะเสียชีวิต

ดังนั้น ผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์จึงแนะนำว่า เมื่อตรวจพบอาการผิดปกติในร่างกาย ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาและรักษาโรคอย่างทันท่วงที

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
kookkak

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เราใช้คุกกี้เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดบน
เว็บไซต์ของเรา โปรดศึกษาเพิ่มเติมที่
นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้