เปิดอันดับ "อาชีพที่เลี้ยงลูกดี" รั้งท้ายไม่ใช่เกษตรกร แต่เป็นด้านบริการ และเหตุผลน่าเศร้า
Thailand Web Stat

เปิดอันดับ "อาชีพที่เลี้ยงลูกดี" รั้งท้ายไม่ใช่เกษตรกร แต่เป็นด้านบริการ และเหตุผลน่าเศร้า

เปิดอันดับ "อาชีพที่เลี้ยงลูกดี" รั้งท้ายไม่ใช่เกษตรกร แต่เป็นด้านบริการ และเหตุผลน่าเศร้า
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

"ทำงานอะไรถึงจะเลี้ยงลูกให้เก่ง?" การสำรวจชี้ว่าบางอาชีพมีโอกาสสูงในการเลี้ยงลูกให้เรียนเก่ง แต่บางอาชีพกลับต้องจำใจทิ้งลูกไว้ข้างหลัง

ผลการสำรวจในประเทศจีน เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างอาชีพของพ่อแม่และความสามารถในการเลี้ยงดูลูกให้ประสบความสำเร็จทางการศึกษา ได้ดึงดูดความสนใจอย่างมากจากผู้คนในโลกออนไลน์ หลายคนต่างรู้สึกเสียดายและเอ่ยปากว่า “เด็กบ้านยากจนยิ่งยากที่จะก้าวขึ้นไปเป็นคนเก่ง” แล้วสรุปว่าพ่อแม่ทำอาชีพไหน ถึงมีโอกาสเลี้ยงดูลูกให้เรียนเก่ง? เรามาดูผลการสำรวจกัน!

ครูและข้าราชการ สองอาชีพที่สามารถสร้าง "ลูกคนเก่ง" ได้ง่ายที่สุด

จากการสำรวจพบว่า พ่อแม่ที่ทำอาชีพครูและข้าราชการมีลูกที่เรียนเก่งมากที่สุด โดยเฉพาะครูที่อยู่ในอันดับแรก ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกเนื่องจากอาชีพเหล่านี้ต้องการระดับการศึกษาที่สูง ครูมักจะมีความรู้เฉพาะทางในการสอนและสามารถช่วยเหลือลูกได้อย่างใกล้ชิด ส่วนข้าราชการมักจะมีความเข้าใจในความสำคัญของการศึกษามาก และมักมีแนวทางการศึกษาที่ชัดเจนให้กับลูก ส่งผลให้เด็กๆ ในครอบครัวของครูและข้าราชการ จะได้รับการวางแผนการเรียนรู้และเป้าหมายทางการศึกษาอย่างชัดเจนตั้งแต่เริ่มต้น

เซอร์ไพรส์กับอันดับที่ 3 นักธุรกิจ “ม้ามืด” ในการจัดอันดับ

สิ่งที่ทำให้หลายคนตกใจคือ กลุ่มอาชีพที่อยู่อันดับสามไม่ใช่หมอหรือทหาร แต่เป็น "นักธุรกิจ" แม้ว่าพวกเขาจะเป็นกลุ่มที่มีเวลาน้อยในการช่วยเหลือลูกในด้านการเรียน แต่พวกเขากลับมีทักษะในการวิเคราะห์ปัญหา และรู้ว่าลูกต้องการอะไรเพื่อประสบความสำเร็จ มักจะลงทุนในสิ่งที่สำคัญและจำเป็น เช่น การส่งลูกเรียนในโรงเรียนที่มีคุณภาพ หรือการส่งลูกไปศึกษาต่อต่างประเทศ ซึ่งทำให้ลูกมีโอกาสในการศึกษาที่ดีและพร้อมพัฒนาทักษะต่างๆ

กลุ่มอาชีพที่ยากต่อการเลี้ยงลูกให้เก่ง "แรงงานภาคบริการ"

สิ่งที่หลายคนอาจไม่คาดคิดคือ กลุ่มอาชีพที่อยู่ท้ายสุดในผลสำรวจไม่ใช่เกษตรกร แต่เป็นคนงานในภาคบริการ เช่น พนักงานเสิร์ฟ คนขับรถบรรทุก และแรงงานในโรงงาน เหตุผลหลักมาจากการที่อาชีพเหล่านี้ต้องทำงานหนัก เวลาไม่แน่นอน และมีรายได้ต่ำ ผู้ปกครองมักจะต้องเดินทางไปทำงานที่ห่างไกลจากบ้าน ทำให้เด็กๆ ไม่ได้รับการดูแลและช่วยเหลือทางการศึกษาอย่างเพียงพอ ถึงแม้จะอยู่ในครอบครัวที่มีพ่อแม่ครบถ้วน แต่บางครั้งพ่อแม่ก็เหนื่อยล้าเกินกว่าจะมีพลังมาคอยสอนหนังสือให้ลูก

Advertisement

ช่องว่างทางการศึกษา – ความจริงที่ยากจะปฏิเสธ

การสำรวจนี้ไม่อาจสะท้อนภาพรวมทั้งหมดของสังคมได้ แต่ก็ชี้ให้เห็นข้อเท็จจริงที่ไม่อาจปฏิเสธได้ว่า "โอกาส" สำหรับเด็กๆ ในครอบครัวที่มีฐานะยากจนที่จะเติบโตขึ้นเป็นคนเก่งนั้น ยิ่งแคบลงเรื่อยๆ แล้วทำไมถึงเป็นเช่นนี้?

  1. ขาดแคลนสิ่งแวดล้อมทางการศึกษาและครูผู้สอนที่มีคุณภาพ: เด็กๆ ที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกลหรือในหมู่บ้านขาดแคลนทรัพยากรการศึกษา มีโรงเรียนเก่าและขาดแคลนครูที่มีคุณภาพ ขณะที่เด็กในเมืองใหญ่กลับได้รับการศึกษาที่มีมาตรฐานสูงกว่า

  2. ขาดพื้นฐานการศึกษาที่มั่นคง: เด็กจากครอบครัวที่มีฐานะดี มักจะได้เรียนพิเศษภาษาต่างประเทศหรือคณิตศาสตร์ขั้นสูงตั้งแต่เด็กๆ แต่เด็กที่มาจากครอบครัวยากจนกลับไม่ค่อยมีโอกาสได้เรียนรู้ในลักษณะนี้

  3. สภาพแวดล้อมครอบครัวแตกต่าง: พ่อแม่ที่มีการศึกษาต่ำอาจไม่เข้าใจวิธีการสอนลูก หรือบางครั้งอาจมองว่า "การเรียนไม่ช่วยอะไร" ซึ่งทำให้เด็กๆ ขาดแรงจูงใจและอาจจะท้อแท้จากการเรียน

อย่างไรก็ตาม... อุปสรรคเหล่านี้ไม่สามารถตัดสินชะตากรรมของเด็กได้ทั้งหมด เพราะยังมีเด็กหลายคนที่มาจากครอบครัวที่ยากจน แต่สามารถประสบความสำเร็จได้ด้วยความพยายามและความมุ่งมั่นของตัวเอง จึงเป็นการย้ำเตือนว่า ความพยายามและการพัฒนาตัวเองเป็นสิ่งสำคัญที่จะนำพาไปสู่ความสำเร็จแม้จะมาจากสถานการณ์ที่ยากลำบากก็ตาม

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
kookkak

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เราใช้คุกกี้เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดบน
เว็บไซต์ของเรา โปรดศึกษาเพิ่มเติมที่
นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้