อุตุฯ เตือนภัยฝนตกหนักในภาคใต้และคลื่นลมแรงในอ่าวไทย
กรมอุตุนิยมวิทยาเตือนประชาชนภาคใต้ระวังฝนตกหนัก อาจก่อให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง และคลื่นลมแรง บริเวณภาคใต้และอ่าวไทย เนื่องจากอิทธิพลของพายุดีเปรสชั่นบริเวณทะเลจีนใต้ตอนล่างที่จะเคลื่อนผ่าน อ่าวไทยและภาคใต้ตอนล่าง ในช่วงวันที่ 1-3 พ.ย.นี้ เตรียมแผนอพยพประชาชนชายฝั่ง เรือทุกชนิดงดออกฝั่ง
นายต่อศักดิ์ วานิชขจร รองอธิบดี และรักษาราชการแทนอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา แถลงว่า เมื่อเวลา 13.00 น.วันนี้ (31 ต.ค) หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณทะเลจีนใต้ตอนล่างได้ทวีกำลังแรงขึ้นเป็น พายุดีเปรสชันแล้ว มีศูนย์กลางห่างประมาณ 450 กิโลเมตร ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ของจังหวัดสงขลา หรือที่ ละติจูด 6.5 องศาเหนือ ลองจิจูด 105.0 องศาตะวันออก มีความเร็วสูงสุดประมาณ 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางตะวันตกเฉียงเหนือ ด้วยความเร็ว15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะเคลื่อนตัวเข้ามาปกคลุมบริเวณอ่าวไทยและภาคใต้ตอนล่าง ในช่วงวันที่ 1-3 พฤศจิกายน 2553 ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคใต้มีฝนตกชุกหนาแน่น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ และอ่าวไทยมีคลื่นสูง 2-4 เมตร
จึงขอให้ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำ ไหลผ่านและพื้นที่ราบลุ่มริมฝั่งแม่น้ำ บริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส กระบี่ ตรัง และสตูล ระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนักที่อาจทำให้เกิดสภาวะน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่งได้ สำหรับประชาชนที่อาศัยอยู่ตามชายฝั่งทะเลของภาคใต้ฝั่งตะวันออก ขอให้ระวังอันตรายจากคลื่นลมแรงที่พัดเข้าสู่ฝั่ง ชาวเรือควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ โดยเรือเล็กในอ่าวไทยควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้ไว้ด้วย
"ทั้งนี้ กรมฯ จะจับตาดูการก่อตัวของพายุดีเปรสชันลูกนี้ในเที่ยงคืนนี้ว่าจะแรงมากขึ้น ขนาดไหน อาจต้องเตรียมการอพยพประชาชนที่อยู่ชายฝั่ง ขอให้ประชาชนติดตามการเตือนภัยของหน่วยราชการ และให้เตรียมอุปกรณ์เบื้องต้น เช่น ไฟฉาย เสื้อผ้า เชือก และสำรองอาหารแห้งให้เพียงพอ 2-3 วัน วางแผนเส้นทางอพยพซึ่งหน่วยราชการในพื้นที่จะแจ้งให้ทราบ ส่วนเรือควรงดออกจากฝั่งทุกชนิด และให้ติดตามข่าวเตือนภัยอย่างใกล้ชิด" นายต่อศักดิ์ กล่าว
นายต่อศักดิ์ กล่าวอีกว่าส่วนบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงจากประเทศจีน ยังคงแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทย ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีอากาศหนาวเย็นโดยทั่วไปกับมีลมแรง และในระยะ 2-3 วันนี้ อุณหภูมิจะลดลงได้อีก 1-3 องศา ภาคเหนือตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อุณหภูมิต่ำสุด 12-16 องศาเซลเซียส ส่วนบริเวณยอดดอยและยอดภู อุณหภูมิต่ำสุด 6-12 องศาเซลเซียส
ในระยะนี้ขอให้ประชาชน ติดตามข่าวพยากรณ์อากาศและประกาศเตือนภัย จากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด