กษิต เตือนพันธมิตรฯ อย่าใช้ความคลั่งชาติมาทำให้เกิดปัญหา

กษิต เตือนพันธมิตรฯ อย่าใช้ความคลั่งชาติมาทำให้เกิดปัญหา

กษิต เตือนพันธมิตรฯ อย่าใช้ความคลั่งชาติมาทำให้เกิดปัญหา
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

"กษิต" ระบุได้จัดชุดชี้แจงบันทึกข้อตกลงเจบีซีอย่างต่อเนื่อง และไม่ได้โกหกตามที่ถูกกล่าวหา ย้ำเดินหน้าลงมติพรุ่งนี้ ยืนยันไม่ใช่เรื่องทำให้เสียดินแดน ติงกลุ่มพันธมิตรฯ อย่าเอาความคลั่งชาติมาทำให้เกิดปัญหา

นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ แถลงถึงการประชุมร่วมรัฐสภาในวันที่ 2 พฤศจิกายนนี้ ที่จะพิจารณาร่างบันทึกข้อตกลงคณะกรรมาธิการเขตแดนไทย-กัมพูชา (เจบีซี) ว่า ที่ผ่านมาได้ให้ข้อมูลต่อสาธารณชนอย่างต่อเนื่อง โดยเจ้าหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศได้จัดชุดเฉพาะชี้แจงทั้งทางวาจาและเอกสาร มั่นใจว่า ที่ผ่านมาได้ชี้แจงให้ทุกฝ่ายที่มีส่วนได้-เสียในสังคมได้เข้าใจโดยตลอด และไม่ได้เป็นการโกหกใครอย่างที่กล่าวหา

รมว.ต่างประเทศ กล่าวว่า การพิจารณาร่างเจบีซีทั้ง 3 ฉบับเกิดจากการหารือของ ส.ส. ส.ว. และประธานสภาฯ ได้หยิบยกเรื่องดังกล่าวขึ้นมา เนื่องจากวาระอื่น ๆ พิจารณาผ่านไปแล้ว และยังเหลือเวลาการประชุม ซึ่งในการประชุมร่วมรัฐสภาสัปดาห์ที่ผ่านมาได้อภิปรายไปแล้ว แต่ตนคงต้องตอบบางข้อสงสัยที่ยังเหลืออยู่และกล่าวปิดการอภิปราย จึงคาดว่า ในวันพรุ่งนี้ (2 พ.ย.) คงมีการลงมติในเรื่องดังกล่าว นอกจากนี้ยังมีเรื่องคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา แต่จะเป็นการประชุมลับ เพราะเป็นเรื่องอ่อนไหวเกี่ยวกับการบริหารจัดการเขตแดน

"นายกรัฐมนตรีไทยและนายกรัฐมนตรีกัมพูชา พบกันล่าสุดที่ประเทศเวียดนาม บรรยากาศเป็นไปด้วยดี ความร่วมมือด้านต่าง ๆ ระหว่างไทย-กัมพูชามีการประชุมกันอย่างต่อเนื่อง มีความร่วมมือกันในหลายกรอบ และผมขอยืนยันว่า รัฐบาลนี้ไม่ได้มีปัญหากับประเทศเพื่อนบ้านใด ทุกประเทศร่วมมือระหว่างกันอย่างเต็มที่ ดูได้จากตัวเลขการท่องเที่ยว การลงทุน การไปมาหาสู่ระหว่างกันของประชาชน" นายกษิต กล่าว

เมื่อถามว่า น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ อดีต รมว.ต่างประเทศ ยืนยันว่าในบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู) การสำรวจและปักปันเขตแดนไทย-กัมพูชา ปี 2543 ทำให้ไทยเสียดินแดน จะชี้แจงอย่างไร นายกษิต กล่าวว่า เอาความถูกต้องและหลักการเป็นตัวตั้ง การมีเอ็มโอยู ปี 2543 เป็นเพราะว่ามีเรื่องการเจรจาที่ยังไม่เรียบร้อย ส่วนแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้พบกันไม่รู้กี่สิบครั้ง ทั้งที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการ การดีเบตกับนายกรัฐมนตรีออกโทรทัศน์ พูดกันหมดทุกอย่างไม่มีปิดบัง แต่พอพูดเสร็จก็ยังว่าประเทศไทยเสียดินแดนไปแล้ว แสดงให้เห็นว่าสิ่งนี้คือจุดยืนทางการเมืองของกลุ่มพันธมิตรฯ

"ถ้าเขาทำอย่างนี้ไม่รู้ว่าจะว่าอย่างไร ความรักชาติหวงแหนดินแดน ทุกคนมีเหมือนกัน เหมือนหลอกให้ไปพูดชี้แจง พูดอะไรก็อยู่จุดเดิม เรื่องนี้รัฐสภามีอำนาจสูงสุดเป็นผู้ตัดสินใจ ถ้าเรื่องนี้ทำให้เสียดินแดน นายกษิต หรือ กระทรวงการต่างประเทศ คงไปหลอกคนที่อยู่ในรัฐสภา คงเป็นไปไม่ได้ ขอความกรุณาพูดด้วยเหตุด้วยผล อย่าเอาความคลั่งชาติมาทำให้เกิดปัญหา ไม่มีอะไรที่บิดเบือน อย่ายืนกระต่ายขาเดียว ยืนยันว่าไทยไม่เสียดินแดน เป็นเรื่องการเจรจาต่อรองบนเหตุผลข้อเท็จจริง บนกฎหมายระหว่างประเทศ" นายกษิต กล่าว

เมื่อถามว่า การที่กลุ่มพันธมิตรฯ ประกาศชุมนุมในวันที่ 2 พ.ย.นี้ เพื่อคัดค้านการพิจารณาร่างเจบีซี จะดำเนินการอย่างไร นายกษิต กล่าวว่า สามารถแสดงออกได้อย่างเต็มที่ตามสิทธิตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งขณะนี้ยังมีประกาศ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินอยู่

เมื่อถามย้ำว่า เบื่อหรือไม่ที่ชี้แจงมาแล้วหลายครั้งแต่ยังไม่เข้าใจ นายกษิต กล่าวว่า ไม่เบื่อพูดซ้ำได้ ไม่มีปัญหา ให้ข้อมูลกี่ครั้งไม่มีอะไรปิดบัง แต่ขอให้รับฟังกันบ้าง โตๆ กันแล้ว

ต่อข้อถามว่า หากร่างเจบีซีดังกล่าวไม่ผ่านการพิจารณาจะเกิดความเสียหายอย่างไร นายกษิต กล่าวว่า จะพูดว่าเสียหายก็คงไม่ได้ เราต้องยึดตามมิติ ถ้าไม่มีเจบีซีก็ว่ากันไปในเรื่องอื่น ๆ ถ้าเรื่องนี้ไม่ผ่านแล้วเรื่องอื่นๆ จะชะงักก็ไม่ใช่ แต่ถามว่า ถ้าร่างเจบีซีผ่านก็สามารถเจรจาเจบีซี รอบต่อไปได้ เรื่องก็จะเป็นชิ้นเป็นอันต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook