ตำรวจเร่ง! ขอออกหมายจับสัปเหร่อวัดไผ่เงินฯ

กทม. 17 พ.ย. - ตำรวจ สน.วัดพระยาไกร เร่งรวบรวมหลักฐานเพื่อขอศาลออกหมายจับสัปเหร่อวัดไผ่เงินฯ เนื่องจากเชื่อว่ารู้เห็นกับการนำศพทารกจากการทำแท้งมาทิ้งในช่องเก็บศพของวัด

พ.ต.ท.ปราชญาน จิเนราวัต รองผู้กับการสืบสวนสอบสวน สน.วัดพระยาไกร กล่าวว่า กำลังเร่งรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอศาลออกหมายจับสัปเหร่อวัดไผ่เงินโชตนาราม ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 302 " ผู้ใดทำให้หญิงแท้งลูกโดยหญิงนั้นยินยอม ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ " และความผิดตามมาตรา 184 " ผู้ใดเพื่อจะช่วยผู้อื่นมิให้ต้องรับโทษหรือให้รับโทษน้อยลง ทำให้เสียหาย ทำลาย ซ่อนเร้นเอาไปเสียหรือทำให้สูญหายหรือไร้ประโยชน์ซึ่งพยานหลักฐานในการกระทำความผิดต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ " เนื่องจากเชื่อว่าสัปเหร่อมีส่วนรู้เห็นกับการนำศพทารก 348 ศพ มาเก็บไว้ในช่องเก็บศพของวัด นอกจากนี้ ยังเร่งสืบสวนหาพยานหลักฐานเพื่อเชื่อมโยงคลินิกรับทำแท้งเถื่อนที่ให้มีการนำศพมาทิ้งไว้

ด้านนายสุเทพ ชบางบอน สัปเหร่อวัดไผ่เงินฯ ซึ่งถูกคุมตัวมาสอบสวนต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงบ่ายวานนี้ ทำให้นายสุเทพ อยู่ในอาการเครียดและปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์สื่อ และมีตำรวจสายสืบดูแลอย่างใกล้ชิด ส่วนประเด็นการสอบสวน พุ่งเป้าไปที่คลินิกหรือสถานพยาบาลที่ว่าจ้างนายสุเทพ นำศพทารกไปทิ้งว่ามีกี่แห่ง อยู่ที่ไหน และมีใบอนุญาตประกอบการถูกต้องหรือไม่ และจากการตรวจสอบย่านถนนจันทน์ และสาธุประดิษฐ์ ซึ่งอยู่กับใกล้กับวัดไผ่เงินฯ มี 15 แห่งที่รับปรึกษาปัญหาการคุมกำเนิด

ด้าน นพ.สมชัย ภิญโญพรพาณิชย์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ พร้อมผู้อำนวยการกองประกอบโรคศิลปะ เดินทางมา สน.วัดพระยาไกร เพื่อหารือกับตำรวจในเรื่องของการขยายผลถึงคลินิกรับทำแท้งเถื่อน เพื่อพิจารณาลงโทษต่อไป

ส่วนบรรยากาศที่วัดไผ่เงินฯ ปรากฏว่าช่องบรรจุศพที่ 17 ที่พบซากศพทารก ไม่ได้ล็อคกุญแจ ที่เหลืออีก 19 ช่องถูกล็อคไว้ทั้งหมด และจากการสังเกตพบว่าช่องบรรจุศพที่ 17 อยู่ในจุดที่ค่อนข้างลับตาคน หากไม่สังเกตจะไม่เห็นความผิดปกติ.