ก้อย แพรวพรรณ แฟนเก่าแดน อ้างแค่จะไปตายต่อหน้า
จากกรณี แฟนเก่าของนักแสดงชื่อดัง แดน ดนัย สมุทรโคจร บุกเข้าไปสาดโซดาไฟใ่ส่นักแสดงถึงในบ้าน จนได้รับบาดเจ็บที่ใบหน้า และแขน ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุด ก้อย น.ส.แพรวพรรณ สมพงษ์มิตร อายุ 30 ปี มือสาดโซดาไฟได้เข้าให้การกับตำรวจแล้ว พร้อมทั้งเผยด้วยน้ำนองหน้าว่า ไม่ได้ตั้งใจเข้าไปทำร้ายใคร แต่เสียใจที่เลิกกัน จึงนำโซดาไฟเข้าไปเพื่อฆ่าตัวตายต่อหน้านักแสดงหนุ่ม แต่ในระหว่างนั้นเกิดการยื้อแย่งกันขึ้นทำให้โซดาไฟหลุดจากมือไปโดนนักแสดงหนุ่ม ทั้งยังกล่าวว่าตนได้รับบาดเจ็บต้องเย็บถึง 20 เข็ม ด้วยเช่นกัน
น.ส.แพรวพรรณ กล่าวทั้งน้ำตาว่าขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่มีเจตนาทำร้ายให้ใครได้รับบาดเจ็บ และไม่ต้องการให้เสียชื่อเสียง เพราะรักนายดนัยมาก และยังคงรักอยู่ตลอดไม่เคยเปลี่ยน พร้อมทั้งกล่าวว่าได้คบหาอยู่กับนายดนัยที่บ้านหลังเกิดเหตุมานานกว่า 5 ปีแล้ว แต่ระยะหลังเริ่มห่างกัน และคุยกันน้อยลงได้ประมาณ 4 เดือนแล้ว ทั้งนี้ยังคงไปมาหาสู่บ้างในช่วงระยะเวลาดังกล่าว
โดยวันเกิดเหตุตนตั้งใจไปหาแดนที่บ้านเพื่อเคลียร์ปัญหาและขอคืนดี และได้เตรียมน้ำโซดาไฟผสมกับน้ำยาล้างห้องน้ำไปด้วยหวังที่จะประชดรักด้วยการกินโซดาไฟที่ผสมกับน้ำยาล้างห้องน้ำให้ตายไปต่อหน้าแดน แต่ประตูบ้านล็อก จึงใช้ก้อนหินทุบกระจกประตูเข้าไป จนตนได้รับบาดเจ็บที่มือขวาจากการถูกกระจกบาดเป็นแผลเย็บไป 20 เข็ม
"เมื่อก้อยขึ้นไปถึงห้องนอนแดนเห็นมีผู้หญิงอยู่อีกคนก็ช็อคตกใจ ร้องไห้ออกมาเลย ด้วยความเสียใจคิดอย่างเดียวคือต้องตายให้ได้ เลยคว้าขวดน้ำโซดาไฟผสมน้ำยาล้างห้องน้ำมาดื่มเพื่อฆ่าตัวตายต่อหน้าแดน แต่แดนไม่ยอมให้ทำจึงเกิดการยื้อแย่งทำให้น้ำหกไปโดนหน้าแดนและหลังของผู้หญิงคนนั้นได้รับบาดเจ็บ แต่ก็ไม่มาก ยืนยันว่าน้ำนั้นไม่ใช่น้ำกรดแน่นอน" น.ส.แพรวพรรณ กล่าวทั้งน้ำตา
น.ส.แพรวพรรณ กล่าวสลับกับเช็ดน้ำตาเพิ่มเติมว่า ตอนนี้เชื่อว่าแดนคงไม่กลับมาแล้ว คงต้องเลิกขาดกันไปโดยปริยาย แต่ถึงอย่างไรตนก็ยังรักแดนอยู่ เพราะตลอดระยะเวลา 5 ปีที่คบหาอยู่กินด้วยกันฉันสามีภรรยา ถึงแม้จะไม่ได้หมั้นหมายหรือแต่งงานจดทะเบียนสมรสกันก็ตาม แต่ก็เป็นสามีภรรยากันโดยพฤตินัยอยู่แล้ว
"สำหรับคดีแม้ฝ่ายแดนจะบอกว่าไม่เอาเรื่อง แต่เมื่อมีการแจ้งควาก้อยก็ไม่เคยคิดจะหนี แต่ที่เมื่อวานหลบอยู่เพราะยังตกใจเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น หากเมื่อไหร่ทางตำรวจมีการส่งหมายเรียกมา หรือติดต่อมาให้ไปให้ปากคำที่ สน.โคกคราม ก็พร้อมที่จะไปทุกเมื่อ ที่อยากพูดวันนี้เพราะอยากอธิบายให้ทุกคนเข้าใจ เนื่องจากข่าวที่เสนอไปเป็นด้านเดียว และเหมือนจะรุนแรงเกินความเป็นจริง เมื่อได้พูดความจริงออกไปแล้วมันก็ทำให้รู้สึกดีมากขึ้น"
ด้าน พ.ต.ท.ภูเบศ เส้นขาว รอง ผกก.สส.สน.โคกคราม กล่าวว่า เกี่ยวกับเรื่องนี้ก็ต้องสอบผู้เสียหายให้ชัดเจน รวมถึงพยานหลักฐาน และต้องดูว่าหลังการสอบสวนข้อเท็จจริงแล้วจะสามารรถแจ้งได้กี่ข้อหา และดูที่เจตนาของผู้กระทำบวกกับพยานหลักฐานด้วย
ขอบคุณภาพประกอบจาก rakdara.net
อัลบั้มภาพ 14 ภาพ