สลด!ผู้ต้องขังเมืองผู้ดี ถูกลามโซ่-เปลือย ในคุกที่พัทยา
นักข่าวอิสระชาวอังกฤษได้แพร่ภาพผู้ต้องขังชาวอังกฤษผ่านเว็บไซต์ส่วนตัว ในสภาพเปลือยและถูกล่ามโซ่ภายในห้องขังของสถานีตำรวจในพัทยา
แอนดรูว์ ดรัมมอนด์ นักข่าวอิสระและช่างภาพสารคดีโทรทัศน์ที่ประจำในกรุงเทพฯ และรายงานข่าวทั้งในไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ระบุในเว็บไซต์ของเขาเมื่อวันที่ 7 ธ.ค.ที่ผ่านมาว่า ชายชาวอังกฤษวัย 53 ปี น่าจะถูกขังอยู่ในห้องขังของสถานีตำรวจแห่งหนึ่งในพัทยามาได้ระยะหนึ่งแล้ว หลังถูกควบคุมตัวเนื่องจากเมาสุราและส่งเสียงดังก่อความรำคาญบริเวณถนนพัทยาสาย3 ทั้งนี้ยังถูกตรวจพบว่าอยู่เกินกำหนดวีซ่า
ดรัมมอนด์ ยังระบุด้วยว่า ตำรวจได้อ้างว่าชายคนนี้ติดเชื้อเอดส์และมีปัญหาทางจิต จึงได้ล่ามโซ่เขาไว้ในห้องขังเพื่อไม่ให้เข้าใกล้นักโทษคนอื่นๆ แต่ก็ไม่มีใครนำตัวเขาส่งโรงพยาบาลเพื่อรักษาอาการป่วยแต่อย่างใด ซึ่งภายในห้องขังเขาอยู่ในสภาพเปลือยโดยมีเพียงขวดพลาสติกหนึ่งใบไว้หนุนนอน ด้านตำรวจยังบอกอีกว่าเขาอยู่ในสภาพที่ไม่สามารถขึ้นให้การในศาลได้ และไม่รู้จะทำอย่างไรกับเขาดี ซึ่งกำลังรอการตัดสินใจจากสถานทูตอังกฤษ
นาย เบนนี่ โมฟี่ ช่างภาพและนักเคลื่อนไหวเพื่อการปฏิรูประบบเรือนจำและศาลในไทย กล่าวว่า เพื่อนนักโทษได้แบ่งอาหารให้ชายคนนี้รับประทานบ้าง แต่เขาก็ยังผอมจนหนังติดกระดูก สภาพร่างกายของเขามีร่องรอยการถูกทุบตีและจำเป็นต้องรับการรักษาทั้งทางกายและสภาพจิตใจ
แต่ล่าสุดนายดรัมมอนด์ได้ระบุในเวบไซต์ของเขาว่า นางเทรซี หญิงชาวอังกฤษ ซึ่งเป็นผู้บริหารมูลนิธิเด็ก เมลิสา คอสโกรฟ ได้นำตัวชายอังกฤษคนนี้ไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลแล้ว เธอกล่าวว่า เมื่อเห็นภาพของชายคนนี้ครั้งแรกทำให้รู้สึกแย่มาก เหมือนเขาถูกกักอยู่ในค่ายกักกัน เธอบอกว่าจะรับผิดชอบตัวชายคนนี้ รวมทั้งจะดูแลและช่วยเหลือเมื่อต้องไปขึ้นศาล
ผกก.สภ.เมืองพัทยา ออกโรงโต้ส่งผู้ต้องขังส่ง ร.พ.แล้ว ยันปฏิบัติเท่าทียมกันทุกราย ส่วนข่าวที่ออกไปไม่ดีนั้น เนื่องจากผู้ต้องหามีอาการทางประสาท จึงไม่สามารถควบคุมตัวเองได้
ด้านพ.ต.อ.นันทวุฒิ สุวรรณละออง ผกก.สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี กล่าวว่าเมื่อวันที่ 24 พ.ย. 2553 ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีชาวต่างประเทศมีอาการเมาสุรา แล้วก่อเหตุส่งเสียงดังก่อความเดือดร้อนรำคาญให้กับประชาชนที่สัญจรผ่านไปมาบริเวณถนนพัทยาสายสาม จึงได้ไปตรวจสอบพบว่าชายคนดังกล่าวมีอาการเมาสุรา และได้ก่อเหตุตามที่ได้รับแจ้งจริง ซึ่งได้ตรวจค้นหนังสือเดินทาง ก่อนทราบชื่อคือ นายริชาร์ด เอียน เฮวิต อายุ 46 ปี สัญชาติอังกฤษ จึงรู้ว่าได้วีซ่าหมดอายุ เลยได้ควบคุมตัวมาส่งพนักงานสอบสวน
หลังจากนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เชิญ แพทย์มาตรวจสอบอาการของผู้ต้องหา โดยแพทย์ระบุว่า ผู้ต้องหามีอาการทางประสาท ในวันที่ 8 ธ.ค. 2553 พนักงานสอบสวนจึงได้ทำเรื่องส่งตัวผู้ต้องหาไปรักษาอาการทางประสาท ที่สถาบันกัลป์ยาณ์ราชนครินทร์ กทม. พร้อมกับแจ้งอายัดตัวผู้ต้องหาไว้กับ ผกก.สน.ศาลาแดง โดยเมื่อรักษาอาการหายแล้ว ผู้ต้องหาจะต้องถูกส่งมาดำเนินคดีที่ สภ.เมืองพัทยา อีกครั้ง
ผกก.สภ.เมืองพัทยา พ.ต.อ.นันทวุฒิ สุวรรณละออง ยังกล่าวอีกว่า กรณีที่มีข่าวออกไปในทางที่ไม่ดีนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา ปฏิบัติกับผู้ต้องหาทุกรายอย่างเท่าเทียมกันตามกฎหมาย ส่วนสาเหตุที่ผู้ต้องหามีเนื้อตัวสกปรก เปรอะเปื้อน ด้วยอุจจาระของตัวเองนั้น เนื่องจากผู้ต้องหามีอาการทางประสาท จึงไม่สามารถควบคุมตัวเองได้