นายกฯ ประกาศ! เร่งแก้คอร์รัปชั่น-สร้างความปรองดอง

นายกฯ ประกาศ! เร่งแก้คอร์รัปชั่น-สร้างความปรองดอง

นายกฯ ประกาศ! เร่งแก้คอร์รัปชั่น-สร้างความปรองดอง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นายกรัฐมนตรี ประกาศมอบของขวัญสร้างความมั่นคงอย่างยั่งยืน และคืนความสุขให้กับคนไทย ยอมรับต้องแก้ไขปัญหายาเสพติด ทุจริตคอร์รัปชั่น และลดความขัดแย้งในสังคม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 17.00 น. วันนี้ (24 ธ.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยคณะรัฐมนตรี แถลงผลงาน 2 ปีของรัฐบาล โดยนายกรัฐมนตรีใช้เวลาประมาณ 40 นาทีในการแถลง มีเนื้อหาโดยสรุปว่า รัฐบาลดำเนินมาตรการเร่งด่วน พร้อมทั้งวางรากฐานการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมไทยให้เข้มแข็งและยั่งยืน เพื่อแก้ไขสถานการณ์และปัญหาต่าง ๆ โดยในช่วง 2 ปีที่รัฐบาลเข้ามาบริหารประเทศ ในแง่การปฏิบัติงานได้ตั้งกฎเหล็ก 9 ข้อ เพื่อสร้างความมั่นใจให้ประชาชนทั่วประเทศได้มั่นใจว่า รัฐบาลเข้ามาบริหารประเทศด้วยความจริงใจและปฏิบัติงานจริงจัง

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลมุ่งมั่นและอาสาเข้าแก้ไขปัญหาให้การพัฒนาเกิดความเท่าเทียม ลดความเหลื่อมล้ำในสังคม ใช้หลักรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ที่เป็นธรรม โดยไม่เลือกปฏิบัติ ส่งผลให้การแก้ไขปัญหาต่าง ๆ บรรเทา เศรษฐกิจฟื้นตัว และสังคมมีความสุข ส่งผลบวกในทุกมิติของการพัฒนาประเทศ โดยจะเห็นได้จากอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ที่เพิ่มขึ้นอย่างน้อยร้อยละ 7.9 ในปี 2553 จากที่เคยชะลอตัวลงอย่างรุนแรง ติดลบที่ร้อยละ 2.33 ในช่วงเดียวกันก่อนรัฐบาลเข้ามาบริหารประเทศ

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า อัตราของคนว่างงานลดลงเหลือเพียง 343,000 คน (0.9%) ในปี 2553 เมื่อเปรียบเทียบกับก่อนรัฐบาลเข้ามาบริหารประเทศในช่วงเดียวกัน นอกจากนี้ มูลค่าการส่งออกโดยเทียบจากเดือนพฤศจิกายน 2551 กับพฤศจิกายน 2553 พบว่าเพิ่มสูงขึ้นถึง 17,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากมูลค่าที่เคยส่งออก 11,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วงก่อนรัฐบาลเข้ามาบริหารประเทศ ขณะเดียวกัน จำนวนนักท่องเที่ยวสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ถึง 15.2 ล้านคน ในปี 2553 เมื่อเทียบกับปี 2551 สำหรับดัชนีตลาดหลักทรัพย์ปรับตัวสูงขึ้นในรอบ 2 ปีที่รัฐบาลเข้ามาบริหารประเทศ โดยเพิ่มขึ้นสูงถึง 1,002.90 จุด ด้านราคาสินค้าเกษตร ส่งผลถึงเกษตรกรรายย่อยที่ประกอบอาชีพหลักของประเทศได้อย่างทั่วถึงทุกภาค ทั้งราคาข้าวเพิ่มสูงขึ้นเป็น 13,645 บาท/ตัน ราคายางเพิ่มสูงขึ้นเป็น 117 บาท/กก. จากเดิมอยู่ที่ 34 บาท/กก. เมื่อเปรียบเทียบในช่วง 2 ปีที่รัฐบาลเข้ามาบริหารประเทศ และปาล์มน้ำมันเพิ่มสูงขึ้นเป็น 6.67 บาท/กก. จากเดิมอยู่ที่ 3.31 บาท/กก.

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ผ่านมารัฐบาลได้ดำเนินนโยบายเพื่อประชาชน เช่น ลดภาระค่าใช้จ่าย ไฟฟ้าฟรี ประปาฟรี รถไฟฟรี รถเมล์ฟรี เรียนฟรี 15 ปี เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ 5.7 ล้านคน หลักประกันสุขภาพคนไทย 63 ล้านคน ค่าตอบแทน อสม. 976,343 คน ประกันรายได้เกษตรกร 4 ล้านราย ใช้งบประมาณ 36,498 ล้านบาท แก้ปัญหาหนี้นอกระบบแล้วเสร็จกว่า 600,000 ราย เข้าโครงการแล้ว 1 ล้านราย ส่วนโครงการปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง ปรับปรุงโรงเรียน 2,930 แห่ง ปรับปรุงถนน 900 สาย กว่า 3 ล้านกิโลเมตร และการแก้ปัญหามาบตาพุด ตั้งกรรมการแก้ปัญหาและติดตามผล คณะรัฐมนตรีเห็นชอบเก็บภาษีจากผู้ผลิตมลพิษ ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยครอบครัวละ 5,000 บาทแล้วกว่า 600,000 ครอบครัว เป็นเงินกว่า 3,000 ล้านบาท

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในอนาคตจะจัดตั้งธนาคารที่ดิน จัดสรรการใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อเกษตรกร เตรียมพัฒนาระบบราง 180,000 ล้านบาท พัฒนารถไฟฟ้าความเร็วสูงร่วมกับจีน รถไฟฟ้า 5 สาย รองรับประชาชน 3.3 ล้านคน พัฒนาระบบอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงราคาถูกถึงประชาชน 40 ล้านคน ในปี 2558

"รัฐบาลไม่ได้แก้ปัญหาเฉพาะหน้าเท่านั้น แต่เป็นมาตรการที่รัฐบาลต้องการวางฐานการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และการเมืองในระยะยาว แม้ว่ารัฐบาลจะอยู่ได้ไม่ครบวาระ แต่ประเทศชาติต้องเดินหน้าสู่การปฏิรูปประเทศ เพื่อสร้างความปรองดองของชาติ ยอมรับว่า 2 ปีที่ผ่านมา ยังคงมีหลายเรื่องที่ประชาชนยังไม่สบายใจ ทั้งการแก้ไขปัญหายาเสพติด การทุจริตคอร์รัปชั่น และการลดความขัดแย้งทางสังคม ซึ่งจะเร่งดำเนินการให้เห็นผล รัฐบาลจะประกาศแผนปฏิรูปประเทศไทย เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่แก่ประชาชน 1 มกราคม 2554 เพื่อความเท่าเทียมและเป็นธรรมด้วย" นายอภิสิทธิ์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า การแถลงผลงานครั้งนี้เป็นการแถลงที่สนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล และถือเป็นครั้งแรกของการแถลงผลงานกลางแจ้ง อย่างที่ไม่มีรัฐบาลชุดไหนทำมาก่อน ฉากหลังใช้จอแอลอีดีขนาดใหญ่ พร้อมฉายเพาเวอร์พอยต์ประกอบ โดยมีคณะรัฐมนตรี ซึ่งมีตัวแทนจากทุกพรรคร่วมรัฐบาล ผู้ได้รับประโยชน์จากโครงการต่าง ๆ แบ่งเป็น 7 โครงการ ทั้งประกันรายได้เกษตรกร การแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ เรียนฟรี 15 ปี และเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ เป็นต้น รวมถึงข้าราชการจากทุกกระทรวง ทบวง กรม เข้าร่วม ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด รอบตึกไทยคู่ฟ้า โดยมีเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังยอดตึกสูง

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook