ตำรวจตั้งค่าหัวนำจับ แก๊งท่าอิฐ

กต.ตร.จับมือตำรวจ ตั้งรางวัลนำจับ ดำ คลองเตย แก๊งท่าอิฐ 200,000 บาท และสมุนอีก 100,000 บาท พร้อมเร่งไล่ล่าทุกตารางนิ้ว ตำรวจยันจะใช้อาวุธเพื่อป้องกันตัว หากต่อสู้ขัดขืนขณะจับกุม จึงขอให้เข้ามอบตัว

พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ.อยุธยา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เรียกทีมสืบสวนประชุม เพื่อติดตามความคืบหน้าและเร่งรัดจับกุมนายขวัญชัย จุ้ยมณี หรือ ดำ คลองเตย และนายชัยมงคล ปานล้ำเลิศ หรือ เบิ้ม แก๊งค้ายาเสพติดท่าอิฐ จ.นนทบุรี ยิงตำรวจศูนย์สืบสวนบาดเจ็บสาหัส 2 นาย เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม ซึ่งตำรวจยังคงไล่ล่าอย่างใกล้ชิด พร้อมประสานตำรวจภูธร 1-9 และศูนย์ปฏิบัติการตำรวจ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อค้นหาแหล่งกบดาน ตรวจสอบประวัติพบนายขวัญชัยมีหมายจับคิดตัว 6 ข้อหา ส่วนนายชัยมงคล 4 ข้อหา เช่น ต่อสู้ขัดขืนเข้าพนักงานระหว่างปฏิบัติหน้าที่ ร่วมกันพยายามฆ่าเจ้าพนักงาน คดียาเสพติด และยังเป็นมือปืนรับจ้างก่อเหตุมาแล้วอย่างโชกโชน ล่าสุด คณะกรรมการตรวจสอบและติดตามการปฏิบัติงานข้าราชการตำรวจ กรุงเทพมหานคร (กต.ตร.) ได้ตั้งรางวัลนำจับนายดำ 200,000 บาท ส่วนนายเบิ้ม 100,000 บาท ให้แก่ผู้ชี้เบาะแสจนขับกุมได้ สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่ 191 และศูนย์สืบสวนสอบสวนนครบาล หมายเลข 02-354 3399 จึงขอให้ทั้งคู่เข้ามอบตัว ยืนยันตำรวจจะใช้อาวุธเพื่อป้องกันตัวเท่านั้น หากมีการยิงต่อสู้ขณะจับกุม เพราะสืบทราบว่าทั้งคู่มีทั้งปืนสั้นและอาวุธสงครามพกติดตัวตลอดเวลา สำหรับผู้ที่ให้การช่วยเหลือ หรือที่กบดาน จะถูกดำเนินคดีด้วย

ส่วนคดีจี้ชิงทรัพย์ร้านทองยิ่งเฮง ย่านดอนเมือง และกวาดทองรูปพรรณไปเกือบ 100 บาท บ่ายวันนี้ (28 ธ.ค.) ได้นำคดีไปเปรียบเทียบกับแผนประทุษกรรมคดีเก่า เช่น ร้านทองออโรรา ภายในห้างโลตัส สาขาลาดพร้าว เมื่อวันที่ 24 ตุลาคมที่ผ่านมา พบว่ามีความคล้ายคลึง ส่วนนายชัยรัตน์ เวชบารมี ซึ่งระบุว่าเป็นเจ้าของรถฟอร์จูนเนอร์ ทะเบียน สส 9912 ที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ ตรวจสอบประวัติพบว่าเคยถูกจับกุมคดีลักทรัพย์ที่จังหวัดเพชรบูรณ์ และหลบหนีประกันในชั้นศาล โดยขอเวลาตำรวจทำงานสักระยะ เชื่อว่าจะจับกุมคนร้ายได้