แม่เด็ก 16 เปิดใจรับเป็นทุกข์-เหยื่อมรณะดับอีกราย!

แม่เด็ก 16 เปิดใจรับเป็นทุกข์-เหยื่อมรณะดับอีกราย!

แม่เด็ก 16 เปิดใจรับเป็นทุกข์-เหยื่อมรณะดับอีกราย!
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เช้าวันนี้ (30 ธ.ค.) นางลัดดาวัลย์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา มารดาของเด็กสาวอายุ 16 ปีที่เกี่ยวกับอุบัติเหตุบนโทลเวย์วิภาวดีรังสิตเมื่อช่วงค่ำวันที่ 27 ธันวาคมที่ผ่านมา ได้ให้สัมภาษณ์สดด้วยเสียงอิดโอยผ่านรายการ "เช้าข่าวข้น" ทางโมเดิร์นไนน์ทีวี ว่า "ฝากกราบขอโทษทุกคน ทุกครอบครัวที่สูญเสียและได้รับบาดเจ็บ เราไม่ได้หลบหนีไปไหนแน่ แต่ขอให้กระแสอารมณ์ของสังคม คลี่คลายลงไปกว่านี้ก่อน ระหว่างนี้จะส่งคุณป้าของเด็ก ไปเป็นตัวแทนกราบแสดงความเสียใจ ทั้งที่งานศพและที่โรงพยาบาล"

"ดิฉันกับสามีต้องกราบขอโทษจริงๆ เราต้องย้ายลูกออกจากโรงพยาบาลมา 3 แห่งแล้ว เพราะมีการขู่ทำร้ายร่างกายและขู่ฆ่า ทั้งจากทางโทรศัพท์และช่องทางอื่นๆ รวมทั้งบุกเข้าไปในห้องพัก ซึ่งเราเข้าใจในอารมณ์ที่เกิดขึ้นในสังคมตอนนี้ ทางโรงพยาบาลก็ขอให้เราย้ายออกด้วย ไม่ใช่เราตัดสินใจฝ่ายเดียว แต่ตอนนี้ลูกพักรักษาตัวในที่แห่งหนึ่ง ไม่ได้หนีไปต่างประเทศแต่อย่างใด เราหนีคดีได้ แต่หนีความผิดหรือตราบาปไม่ได้หรอกค่ะ"

"ตอนนี้ครอบครัวเราเป็นทุกข์มาก ไม่มีใครนอนหลับได้ลง รู้สึกช็อคและเสียใจ ที่ลูกสาวก่อเหตุทำให้มีคนเสียชีวิตถึง 8 คน ทั้งนี้ยังมีคนเอาเบอร์โทรศัพท์ส่วนตัวไปลงในเฟชบุ๊ค เอารูปของลูกสาวไปลงอย่างเปิดเผย มีโทรศัพท์เข้ามาต่อว่าด่าทอตลอดทั้งคืน"

"เหตุที่เกิดขึ้น ลูกสาวยอมรับว่าขับรถเร็ว เพราะต้องรีบนำรถไปคืนเพื่อน ดิฉันไม่เคยอนุญาตให้ลูกขับรถไปข้างนอกแบบนั้น พอเกิดอุบัติเหตุแล้ว ลูกติดอยู่ในรถ พอเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือออกมาได้ ในสภาพกระจกทิ่มแทงที่ก้น นั่งไม่ได้ ลูกจึงไปยืนพิงขอบถนน เจ้าหน้าที่ตำรวจขอดูบัตรและการประกัน ลูกสาวผิดแน่ๆ ที่อายุ 16 ปีไม่มีบัตร ลูกจึงรีบกดโทรศัพท์แบล็คเบอร์รี ไปบอกเพื่อนว่ารถเกิดอุบัติเหตุและถามเรื่องประกันของรถคันนี้ ไม่ใช่ยืนเล่นโทรศัพท์แบล็คเบอร์รีอย่างที่บางท่านเข้าใจ"

"อยากให้ดูหลักฐานพยานทุกอย่าง น้อมยอมรับว่าขับมาด้วยความเร็วสูง ตอนเกิดเหตุรถตู้กินเลนมาในช่องทางของลูก ก็เลยยิงไฟสูงใส่เพื่อขอทาง พอรถตู้หลีกทาง ก็เร่งความเร็วเพื่อให้พ้น แต่รถตู้ก็เข้ามาในเลนของลูกสาวอีก แต่หลบไม่ทันเลยพุ่งเข้าชน แต่ทั้งนี้อยากให้ตำรวจดูกล้องทุกกล้อง ถ้าลูกสาวผิดจริง ก็ยินดีให้จัดการตามกระบวนการทุกอย่าง"

นอกจากนี้ นางลัดดาวัลย์ ยังเผยอีกว่า ตอนนี้ลูกสาวตนเองก็เครียดมาก เอ่ยตลอดว่า "เอาชีวิตหนูไปเลยไหม ทำไมหนูถึงไม่ตาย" ส่วนที่บอกว่า พ่อของลูกสาวเป็นนายทหารก็ยอมรับว่าเคยเป็นทหารจริง แต่ตอนนี้ก็ออกจากราชการแล้ว เป็นแค่ข้าราชการบำนาญไม่ได้มีอิทธิพลใดๆ และเปรยคำถามว่า "ผิดด้วยหรือที่นามสกุลนี้" สำหรับตอนนี้ต้องรอรวบรวมหลักฐานทั้งหมดให้ชัดเจนก่อนจึงจะออกมาแถลงข่าว อยากให้ตำรวจได้ตรวจสอบสภาพรถ กล้องทุกตัว พิสูจน์หลักฐานทั้งหมด พูดไปก็เหมือนว่าแก้ตัว แต่อยากให้มีการตรวจสอบให้ชัดเจน

ทางด้านโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้เตือนถึงการแสดงความคิดเห็นถึงบุคคลในสังคมออนไลน์ ที่พิมพ์ข้อความลงในอินเตอร์เน็ต ประนามเยาวชนผู้ขับขี่รถเก๋งในเหตุการณ์ดังกล่าว หากผู้ที่ถูกกล่าวหาหรือผู้เสียหายเห็นว่า เป็นการกล่าวหาที่ไม่เป็นธรรมต่อตนเอง หรือทำให้เกิดความเสียหายเสื่อมเสียชื่อเสียง หรือกล่าวหาด้วยถ้อยคำที่ไม่เป็นไปตามข้อเท็จจริง มีสิทธิฟ้องร้องให้สอบสวนดำเนินคดี ผู้กระทำการดังกล่าวได้ตามกฎหมาย อีกทั้งคดีดังกล่าวยังไม่ได้รับการตัดสินว่า ใครถูก ใครผิด และยังไม่มีการตัดสินหรือแจ้งข้อหา เท่ากับว่ายังเป็นผู้บริสิทธิ์อยู่

ในขณะที่รายงานล่าสุด มีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีกหนึ่งรายจากเหตุการณ์ดังกล่าว คือ น.ส.จันจิรา ซิมกระโทก อายุ 22 ปี นศ.คณะสาธารณสุขศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ ที่บาดเจ็บสาหัสแล้วเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลวิภาวดีตั้งแต่วันเกิดเหตุ นับเป็นศพที่ 9 จากอุบัติเหตุในครั้งนี้

ตร.ออกหมายเรียกเด็กสาว 16 แล้ว
สำหรับความคืบหน้าล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจเผยว่า ได้ประสานจากญาติของเด็กสาวคนดังกล่าวแล้ว ทำการนัดแนะว่าจะมาพบในเวลาประมาณ 19.30 เมื่อวันที่ 29 ธ.ค.ที่ผ่านมา แต่ไม่มีผู้ใดมา ดังนั้นทางพนักงานสวบสวนจึงออกหมายเรียกให้มารายงานตัวในวันที่ 5 ม.ค.ที่จะถึงนี้ เวลา 12.00 น. เพื่อมารับทราบข้อกล่าวหา โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมแจ้ง 2 ข้อกล่าวหา คือ 1.ขับรถโดยประมาณเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต มีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับไม่เกิน 5 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 2.ขับขี่โดยไม่มีใบอนุญาตขับขี่ มีโทษปรับ 1,000 บาท ซึ่งในวันดังกล่าวทางพนักงานสอบสวนจะเปิดโอกาสให้คู่กรณีเจรจาชดเชยค่าเสียหายต่อกันด้วย ทั้งนี้ หากไม่มาตามหมายเรียกก็จะดำเนินการออกหมายจับต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook