เด็กสาวยันอายุ 17! รับตัวเองผิด-เล็งไปบวช
เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา (31 ธ.ค.) เด็กสาวคู่กรณีอุบัติเหตุบนโทลเวย์ทำให้มีผู้เสียชีวิต 9 ศพ ได้ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ผ่านรายการ "เช้าข่าวข้นคนข่าวเช้า" ทางโมเดิร์นไนน์ทีวี
โดยมีใจความว่า รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รวมทั้งยอมรับว่าตนเองขับรถโดยประมาท และขอโทษต้องญาติผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บทุกคน พร้อมกับยืนยันว่าตนเองไม่มีทวีตเตอร์ หรือไฮไฟว์ มีเพียงเฟชบุ๊คที่ปิดไปแล้ว หลังจากวันเกิดเหตุ 1 วัน ซึ่งยืนยันว่าหลังเกิดเหตุไม่ได้มีการอัพเดทสถานะทางแบล็คเบอร์รีหรือเฟชบุ๊คใดๆ ทั้งสิ้น ทั้งนี้เด็กสาวคนดังกล่าวได้ยืนยันว่า ตอนนี้ตนเองอายุ 17 ปีบริบูรณ์
พร้อมกับเผยว่าอยากไปร่วมงานศพของผู้ที่เสียชีวิต แต่ไม่สามารถไปได้เนื่องจากกระแสวิพากษ์วิจารณ์ทางสังคมยังคงรุนแรง รวมทั้งทางครอบครัวยังไม่อนุญาติให้เปิดรับสื่อใดๆ ทั้งสิ้น เพราะกลัวกระทบถึงสภาพจิตใจ ถึงแม้ว่าตอนนี้จะดีขึ้นตามลำดับแล้วก็ตาม นอกจากนี้เด็กสาวคนดังกล่าวยังยอมรับว่า ตนเองเป็นคนผิด และหากไม่มีอะไรผิดพลาดตนเองอยากจะขอไปบวช ก่อนจะเดินทางไปรับข้อหากับเจ้าหน้าตำรวจตามหมายเรียกในวันที่ 5 ม.ค. ที่จะถึงนี้ เพียงแต่ตอนนี้ตนยังไม่ขอพูดอะไรที่เกี่ยวข้องกับรูปคดีหรือบุคคลที่ 3 ซึ่งต้องปรึกษากับครอบครัวต่อไป
ซึ่งในเวลาต่อมา "กลุ่มเพื่อนหลากสกุลของผู้เสียชีวิตทั้ง 9 ศพ" ได้มีแถลงการณ์ตอบโต้ออกมาว่า "ไม่เห็นด้วยกับการประกาศแถลงการณ์จากราชสกุลเทพหัสดิน อันเป็นรูปแบบแถลงการณ์ที่เป็นทางการและเคร่งครัดตามแบบจดหมายราชการมากกว่าจะเป็นการแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งอย่างที่ท่านได้กล่าวไว้" พร้อมยังเรียกร้องให้ทางครอบครัวดังกล่าวออกมาแสดงความเสียใจด้วยตนเอง และเผชิญหน้ากับความเป็นจริง
สำหรับตวามคืบหน้าของเหตุการณ์ครั้งนี้ เมื่อช่วงเช้าหลังจากโทรศัพท์เปิดใจผ่านรายการทีวีดังกล่าวแล้ว เจ้าหน้าที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ ร.พ.วิภาวดี ได้เปิดเผยว่า เด็กสาวอายุ 17 คู่กรณีเหตุดังกล่าว พร้อมบิดาและมารดา ได้เดินทางไปเยี่ยมผู้บาดเจ็บที่พักรักษาตัวโรงพยาบาลเป็นครั้งแรก โดยได้นำกล่องคล้ายกล่องของขวัญ มามอบให้ผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมด และสอบถามอาการบาดเจ็บ แต่ยังไม่ได้มีการพูดคุยกัน และหลังจากนั้นก็เดินทางกลับทันที โดยเด็กสาวอายุ 17 มีสีหน้าที่เคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด
ขณะที่ในวันนี้ ผู้บาดเจ็บ 1 ราย แพทย์ได้อนุญาตให้เดินทางกลับบ้านแล้ว คือ นายวรัญญู เกตุชู จึงเหลือผู้พักรักษาตัวในโรงพยาบาล จำนวน 6 ราย