สั่งให้ออกราชการ พ.ต.ท. ค้ายาเสพติด

สั่งให้ออกราชการ พ.ต.ท. ค้ายาเสพติด

สั่งให้ออกราชการ พ.ต.ท. ค้ายาเสพติด
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

พล.ต.ต.พุทธชาติ เอกฉันท์ ผู้บังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (ผบก.ปส.) ว่ามีนายตำรวจสตูลร่วมกับภรรยา ลักลอบ จำหน่ายยาเสพติดในพื้นที่ อ.สะเดา จ.สงขลา มานาน จึงได้เข้าประสานงานกับ พล.ต.ต.ชนสิษฎ์ วัฒนวรางกูร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา (ผบก.ภ.จว.สงขลา) นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดปราบปรามยาเสพติดภูธรภาค 9 ร่วมกับตำรวจภูธรจังหวัดสงขลาและตำรวจ สภ.สะเดา นำหมายศาลจังหวัดนาทวี ที่ ด.26/2554 เข้าตรวจค้นที่บ้านเลขที่ 24 ซ.รวมราษฎ์ ถ.ทองหวานวิถี ต.สะเดา อ.สะเดา จ.สงขลา ซึ่งเป็นบ้านพักของ พ.ต.ท ณัฐวัฒน์ พงษ์รักไทย อายุ 39 ปี รองสารวัตรฝ่ายอำนวยการ 2 ตำรวจภูธรจังหวัดสตูล ซึ่งขณะเข้าตรวจค้น มี พ.ต.ท.ณัฐวัฒน์ และ นางสาวประนอม มากศรี อายุ 38 ปี ภรรยาอยู่ภายในบ้าน

จากการตรวจค้นภายในบ้านพบของกลางยาอี ชนิดเม็ดสีครีม จำนวน 80 เม็ด แอ๊บพลิฟาย จำนวน 7 เม็ด ยาไอซ์ จำนวน 2 ถุง รวมน้ำหนัก 75.15 กรัม อาวุธปืนขนาด .45 จำนวน 2 กระบอก ขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนปืนทั้ง 2 ขนาด รวม 55 นัด และจากการตรวจค้นรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโฟล์คสวาเกน สีดำ ทะเบียน พษ 7241 กรุงเทพมหานคร พบเงินไทย จำนวน 202,740 บาท เงินประเทศมาเลเซีย จำนวน 6,075 ริงกิต คิดเป็นเงินไทยประมาณ 60,750 บาท สมุดบัญชีธนาคาร 9 เล่ม โทรศัพท์มือถือ จำนวน 9 เครื่อง และรถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า ทะเบียน คมพ 802 สงขลา อีก 1 คัน

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัว พ.ต.ท.ณัฐวัฒน์ และภรรยาไปทำการสอบสวนที่ สภ.สะเดา โดย พ.ต.ท.ณัฐวัฒน์ ปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นผู้ค้า แต่รับว่า เสพยาเสพติด แต่จากการเค้นสอบภรรยา รับสารภาพว่าลักลอบค้ายาเสพติดมานานกว่า 4 ปี

ล่าสุดผู้บัญชการตำรวจภูธรภาค 9 มีคำสั่งถึงผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสตูล ให้แต่งตั้งกรรมการสอบสวนวินัยขั้นร้ายแรงและให้มีคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนในช่วงที่คณะกรรมการสอบสวนกำลังทำหน้าที่

พล.ต.ท.วีระยุทธ สิทธิมาลิก กล่าวว่า การเข้าตรวจค้นบ้านของ พ.ต.ท ณัฐวัฒน์ พงษ์รักไทย เป็นการเข้าตรวจจากชัดเจนว่ามีหลักฐานแน่นหนา หลังจากที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ได้ติดตามพฤติกรรมมาเป็นเวลา 3-4 เดือน หลังจากที่มีการตรวจสอบพบว่ามีประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติด เนื่องจากการเฝ้าติดตามมาตลอดเวลา 4 เดือน แต่ไม่หลักฐานแต่คราวนี้เรามีหลักฐานชัดเจนจึงจับได้คาหนังคาเขา 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook