ตร.ภ.4 เร่งสอบขยายผลรวบเกย์กลุ่ม เอ็มบรีด ใช้บริการเด็ก นร.
รอง ผกก.สด.ศสส.ภ.4 เร่งสอบขยายผลรวบเกย์เมืองขอนแก่น ตั้งกลุ่มเอ็มบรีด เอี่ยวใช้บริการทางเพศเด็กนักเรียนชาย หญิง ด้านเจ้าของร้านตัดผม แฮร์คลับ ให้การปฏิเสธในชั้นพนักงานสอบสวน โดยจะไปให้การชั้นศาล
ความคืบหน้ากรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ กลุ่มงานสวัสดิภาพเด็กเยาวชน และสตรี ศูนย์สืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 4 (สด.ศสส.ภ.4) บุกทลายร้านตัดผม กลางเมืองขอนแก่นที่ดัดแปลงห้องพักเป็นตลาดนัดค้ากามเด็กนักเรียนหญิง ชาย อายุ14 ปี ที่หนีเรียนมาขายบริการให้เกย์ และชายนักเที่ยว ถึง 5 คน เมื่อวันที่ 5 ม.ค. ที่ผ่านมา ล่าสุด รอง ผกก.สด.ศสส.ภ.4 เผยกลุ่มเกย์เมืองขอนแก่นเครือข่ายใหญ่ ใช้ชื่อกลุ่ม เอ็มบรีท
พ.ต.ท.กิติศักดิ์ เจริญศรี รอง ผกก.กลุ่มงานสวัสดิภาพเด็ก เยาวชน และสตรี ศูนย์สืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 4 (สด.ศสส.)กล่าวว่า หลังจากที่ทางเจ้าหน้าที่ได้จับกุมกลุ่มรักร่วมเพศ ที่ตั้งชื่อกลุ่มว่า เอ็มบรีด หรือกลุ่มต่อต้านโรคเอดส์ ที่เปิดร้านตัดผมแฮร์คลับ บังหน้าแต่ภายในอาคารเป็นแหล่งมั่วสุมของเด็กนักเรียนทั้งหญิงและชาย ที่มารอขายบริการทางเพศ โดยเฉพาะเด็กผู้ชายจะมามั่วสุมกันเป็นประจำเพื่อให้กลุ่มเกย์มาใช้บริการ
โดยภายในอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น จะซอยออกเป็นห้อง เพื่อเตรียมไว้รองรับผู้ที่จะมามีเพศสัมพันธ์กัน ซึ่งหากนักเที่ยวรักร่วมเพศสนใจคนใดก็จะต้องจ่ายค่าห้องให้นายธนพงษ์ โกมุทพงศธร อายุ 45 ปี เจ้าของร้าน ตัดผมดังกล่าว แบบชั่วคราวครั้งละ 50 บาท ส่วนค่าตัวเด็กอยู่ที่การตกลงราคา โดยอัตราขายบริการทางเพศเด็กผู้ชายหากหน้าตาดี จะมีราคา 1,000 บาท หากเป็นเด็กผู้ชายหน้าตาไม่ดีจะมีราคา 200-500 บาท ทำให้มีเด็กผู้ชายจำนวนมากที่ต้องการมีรายได้ก็จะวนเวียนกันมาเป็นประจำ โดยส่วนใหญ่จะเป็นเด็กนักเรียนภายในเขตเทศบาลนครขอนแก่น
ปัญหาที่มีเด็กวัยรุ่นเข้ามามั่วสุมกันมาทำให้ชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงต้องได้รับความเดือดร้อนเนื่องจากเด็กนักเรียนที่มาขายบริการมักจะขับขี่รถจักรยานยนต์ แล้วยกล้อวนเวียนไปมาอยู่หน้าบ้านสร้างความเดือดร้อนรำคาญเป็นอย่างมาก
สำหรับกลุ่มเอ็มบรีด ถือเป็นกลุ่มเกย์กลุ่มใหญ่ใน จ.ขอนแก่น และนิยมเข้ามาใช้บริการเด็กผู้ชายภายในร้านตัดผมดังกล่าว โดยบรรดาเกย์ ที่ต้องการใช้บริการจะโทรศัพท์มาสอบถาม นายธนพงษ์ ว่า มีเด็กหรือไม่ หากมีก็จะมาใช้บริการทันที ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังขยายผลเพื่อจับกุมคนที่ใช้บริการเด็กต่อไป ในเบื้องต้นทราบชื่อแล้วว่า แก้ว และเจ๊สัน ดังนั้นคงต้องมีการขยายผลและรวบรวมหลักฐานจากนั้นให้พนักงานสอบสวนทำการออกกมารับทราบข้อกล่าวหา
ต่อมาเมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 6 ม.ค. พ.ต.ท.ดิเรกฤทธิ์ ปานเรือนแสน สว.สด.ศสส.ภ.4 และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ศสส.ภ.4 ได้ควบคุม นายธนพงษ์ โกมุทพงศธร อายุ 46 ปี เจ้าของร้านตัดผมชื่อร้านแฮร์คลับ ตั้งอยู่เลขที่ 301 / 77 หมู่ 14 ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น พร้อมด้วย นายสุขสันต์ เรากสิกรรม อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 224/ 50 หมู่ 6 ถ.ประชาสโมสร ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น เจ้าของร้านคาราโอเกะ เดอะบีส และ นายพิชิต ตรีชาลี อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 155 หมู่ 5 บ้านโคกท่า ต.หนองตูม อ.เมือง จ.ขอนแก่น มีอาชีพเป็นช่างรับเหมา พร้อมของกลาง1.ปกภาพสื่อลามกพร้อมแผ่นซีดี 23 แผ่น ซึ่งมีแผ่นซีดี อ้น ศราวุธ สุดยอดคลิปวีดีโอฉาว 1 แผ่น ปะปนอยู่ด้วยเหมาะสำหรับชายที่นิยมร่วมเพศชายกับชาย
2.ปกภาพสื่อลามกชายเกย์ 10 แผ่น 3.หนังสือลามกอนาจารชายเกย์ 11 แผ่น 3.ถุงยางอนามัยยังไม่ได้ใช้ 20 ชุด 4.ถุงยางอนามัยที่ใช้แล้ว 1 ชุด 5.ใบประกาศให้นายธนพงษ์ โกมุทพงศธร ได้รับการฝึกวิชา ช่างตัดผมชาย จากศูนย์การศึกษานอกโรงเรียน จ.ขอนแก่น มาส่งให้กับ พ.ต.ท.เทวฤทธิ์ บูรณรักษ์ พงส.สบ.2 สภ.เมืองขอนแก่น พนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีในข้อกล่าวหาว่า กระทำอนาจารแก่เด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ,เป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือชักพาไปซึ่งบุคคลใดเพื่อบุคคลนั้นกระทำการค้าประเวณี, พรากเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี ไปเสียจากบิดา มารดา ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2534, พ.ร.บ.ป้องกันปราบปรามการค้าประเวณีบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ซึ่งมีผู้เสียหายจำนวน 5 คน เป็นหญิง 2 คน และชาย 3 คน ทั้งหมดมีอายุ 13 - 15 ปี และเป็นนักเรียนในเขตเทศบาลนครขอนแก่น ได้ชี้ให้ตำรวจจับกุม และดำเนินคดีกับบุคคลทั้งสามคน
นายธนพงษ์ ผู้ต้องหาที่เป็นเจ้าของร้านแฮร์คลับ กล่าวว่า ตนได้เช่าตึกพาณิชย์ดังกล่าวเปิดเป็นร้านตัดผม หลังจากได้รับใบประกาศในวิชาชีพช่างตัดผมมาเมื่อมี 2546 หลังจากนั้นได้มีเพื่อนเป็นเกย์เหมือนกับตนแวะเวียนมาเที่ยวหาอยู่ตลอดเวลา ทำให้ต้องทำห้องเช่าจำนวน 5 ห้องอยู่ในร้านตัดผม ต่อมาได้มีเด็กนักเรียนมาเที่ยวพูดคุยอยู่ในร้านของตนส่วนหนึ่ง และเมื่อคุยกับชายเกย์ที่มาหาตน ทั้งสองสนิทสนมกันขึ้นมา จึงได้ขอโอกาสไปคุยส่วนตัว
โดยให้ค่าเช่าห้องพักกับตนห้องละ 50 บาท / 1 ชั่วโมง ซึ่งเขาทั้งสองคนจะทำอะไรกัน ตนไม่ทราบ และไม่รับรู้ด้วย จึงขอปฏิเสธต่อพนักงานสอบสวนในข้อหาเป็นผู้จัดหาเด็กชาย - หญิง มาให้บริการทางเพศกับผู้อื่น แต่เป็นการที่เด็กชายหญิงรู้กันเองกับคู่สนทนา ซึ่งเรียกร้องเงินตามที่เด็กต้องการ และไปหาบริการทางเพศกับที่เด็กเสนอตัวขายไปเอง ไม่ว่าจะเป็นเด็กผู้หญิง และชาย
ด้านุขสันต์ เรากสิกรรม ผู้ต้องหารายที่สอง เปิดเผยว่า ตนรู้จักกับนายธนพงษ์ เจ้าของร้านตัดผมแฮร์คลับ เพราะได้อบรมการต่อต้านโรคเอดส์ของสาธารณสุข จ.ขอนแก่น เมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา จนได้ตั้งกลุ่มว่า เอ็มบรีด หลังจากนั้นได้ติดต่อสื่อสัมพันธ์กันเรื่อยมา เมื่อมาที่ร้านแฮร์คลับทุกครั้งก็พบว่าในร้านได้มีเด็กนักเรียนชาย - หญิง วัย 14 - 16 ปี จำนวน 4 - 5 คน นั่งอ่านหนังสือโป๊ของชายเกย์ ดูแผ่นซีดีที่เป็นหนังเอ็กซ์ทั้งชาย และ หญิง เมื่อตนเกิดอารมณ์ขึ้นมาจึงได้เรียกเด็ก 1 ใน 5 คน ไปพูดคุยเพื่อหาความสุขทางเพศด้วย
โดยตนเสนอเงินค่าตัวให้ 200 บาท แล้วเด็กจะแบ่งให้เจ้าของร้าน 50 บาท เป็นค่าเช่าห้องพัก ซึ่งได้ใช้เวลาหาความสุขไม่ถึง 30 นาที ก็เสร็จเดินมานั่งเล่นในร้านสักพักหนึ่งก่อนกลับไปที่ร้านคาราโอเกะของตน โดยตนทำมาแล้ว 2 ครั้ง ครั้งที่สามก็ถูกจับในห้องเช่า ดังกล่าว
ทางด้าน พ.ต.ท.ดิเรกฤทธิ์ ปานเรือนแสน สว.สด.ศสส.ภ.4 เปิดเผยว่า เด็กนักเรียนที่หนีเรียนมาและมามั่วสุมในร้านตัดผมแฮร์คลับ ซึ่งมีประมาณ 5 - 10 คน อายุประมาณ 13-15 ปี ส่วนใหญ่เป็นเด็กเกเร หนีเรียน ต้องการเงินไปจับจ่ายฟุ้งเฟ้อ ซื้อโทรศัพท์มือถือ เล่นเกมส์คอมพิวเตอร์ ซึ่งเด็กที่มาอยู่ในร้านแฮร์คลับ จะเป็นเด็กผู้ชาย-เด็กผู้หญิงที่มาขายบริการ และแบ่งเกรดในการขายบริการทางเพศในราคา 200 - 500 บาท จนมีพ่อแม่ ผู้ปกครองของเด็กดังกล่าวได้มาร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่
จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ได้สืบสวนและสามารถจับกุม นายธนพงษ์ นายสุขสันต์ และนายพิชิต และทลายแหล่งบริการขายประเวณีในร้าน แฮร์คลับ ได้ดังกล่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะนำมาขยายผลแหล่งขายบริการทางเพศต่อไป โดยนายธนพงษ์ ผู้ต้องหารายแรกให้การปฏิเสธในขั้นพนักงานสอบสวน โดยจะไปให้การชั้นศาล ส่วนผู้ต้องหา ทั้ง นายสุขสันต์ และนายพิชิต ยอมรับสารภาพ ทั้งหมดจึงได้ถูกควบคุมตัวเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.