ตร.ออกหมายจับมือยิงกัปตันบินไทยแล้ว

ตร.ออกหมายจับมือยิงกัปตันบินไทยแล้ว

ตร.ออกหมายจับมือยิงกัปตันบินไทยแล้ว
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ความคืบหน้าคดีที่คนร้ายขับรถยนต์โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ไล่ยิง เรือโท พูลวิทย์ เรืองเดช อายุ 53 ปี กัปตันสายการบินไทย จนได้รับบาดเจ็บนั้น ล่าสุดทางตำรวจได้ยื่นของออกหมายจับต่อศาลแล้ว และทางศาลได้อนุมัติออกหมายจับเสี่ยบ่อกุ้งที่เป็นผู้ต้องหาแล้ว โดยผู้ต้องหาเปลี่ยนชื่อมาแล้วหลายครั้ง ซึ่งชื่อตามหมายจับนั้น ต้องถามพนักงานสอบสวน สน.ประเวศ อีกครั้งหนึ่ง และทางตำรวจได้ส่งกำลังออกตามล่าตัวผู้ต้องหาคนดังกล่าวแล้ว โดยคาดว่าไม่นานน่าจะได้ตัวแน่

ด้าน พ.ต.อ.เทียนชัย คามะปะโส ผู้กำกับการ สน.ประเวศ ได้เปิดเผยว่าทางศาลจังหวัดพระโขนงได้ออกหมายจับ นายนันทพงษ์ ห้วยหงษ์ทอง อายุ 26 ปี ชาว จ.นครปฐม ในข้อหาพยายามฆ่าและมีเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต

นอกจากนี้ พ.ต.อ.เทียนชัย ยังกล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า ผู้ต้องหายังเคยมีประวัติต้องคดีอาวุธปืนในพื้นที่
อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร และคดีพยายามฆ่าใน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม รวมถึงคดียาเสพติดในพื้นที่สถานีตำรวจนครบาลร่มเกล้า และคาดว่ายังมีอีกหลายข้อหาซึ่งต้องตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง

โดยล่าสุดขณะนี้ ยังไม่ได้รับการประสานขอเข้ามอบตัวแต่อย่างใด ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งจับกุมตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด

 

ตำรวจพบแล้วปลอกกระสุนขนาด 9 มม. ที่คนร้ายส่องยิงใส่รถกัปตันการบินไทยได้รับบาดเจ็บ สาเหตุเพียงเพราะเปิดไฟหน้ารถกะพริบใส่

เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน พนักงานสอบสวน สน.ประเวศ และตำรวจทางหลวง ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณถนนมอเตอร์เวย์ กรุงเทพฯ-ชลบุรี ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อตรวจหาปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม. ที่คนร้ายขับรถฟอร์จูนเนอร์ ไม่ทราบแผ่นป้ายทะเบียน และใช้อาวุธปืนยิงใส่รถบีเอ็มดับเบิลยู ของเรืออากาศโทพูลวิทย์ เรืองเดช อายุ 53 ปี กัปตันสายการบินไทย ได้รับบาดเจ็บบริเวณหัวไหล่ เหตุเกิดคืนวันที่ 12 มกราคมที่ผ่านมา จากการเดินเท้าตรวจสอบอย่างละเอียด จึงพบปลอกกระสุนตกอยู่ริมถนน จึงเก็บมาตรวจสอบและเปรียบเทียบกับหัวกระสุนที่ฝังอยู่ในหัวไหล่ของคนเจ็บ

ส่วนการติดตามคนร้าย ขณะนี้ทีมสืบสวนได้ประสานบริษัทโตโยต้า แห่งประเทศไทย เพื่อหาข้อมูลการซื้อขายรถฟอร์จูนเนอร์ ของแต่ละศูนย์ รวมทั้งเต็นท์ขายรถต่าง ๆ เพื่อหาเบาะแสผู้ซื้อรถยนต์ยี่ห้อดังกล่าว นับถอยหลังไป 6 เดือน

สำหรับความคืบหน้าในคดีนี้ เมื่อเวลาประมาณ 14.00 น. พนักงานสอบสวน สน.ประเวศ เตรียมยื่นคำร้องขอศาลอาญาออกหมายจับคนร้ายก่อเหตุยิงกัปตันสายการบินไทยบน มอเตอร์เวย์

พ.ต.อ.อาณัติ เกล็ดมณี รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 4 เปิดเผยว่า ไม่เกินเที่ยงวันพรุ่งนี้พนักงานสอบสวนจะขออำนาจศาลออกหมายจับคนร้ายที่ขับ รถยนต์โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีขาว ป้ายแดง ก่อเหตุใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม.ไล่ยิงเรือโทพูลวิทย์ เรืองเดช กัปตันสายการบินไทย บนถนนมอเตอร์เวย์กรุงเทพ - ชลบุรี ก่อนถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพียง 4 กิโลเมตร เหตุเกิดเมื่อกลางดึกวันที่ 12 มกราคมที่ผ่านมา หลังจากตำรวจได้เรียกหญิงสาวไม่ทราบชื่อเจ้าของรถต้องสงสัยมาสอบปากคำ จนทราบว่าในวันเกิดเหตุน้องสาวและน้องเขยยืมรถไปใช้ ตำรวจจึงติดต่อไปยังน้องสาวเจ้าของรถมาสอบปากคำอีกคน

ล่าสุดรู้ตัวคนร้ายแล้ว แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ เนื่องจากจะมีผลต่อรูปคดี บอกได้แต่เพียงว่าอายุ 26 ปี เป็นชาว อ.บ้านลาด จ.เพชรบุรี และไม่ได้ประกอบอาชีพอะไร รวมทั้งไม่ใช่คนมีสีอย่างแน่นอน ซึ่งจากการสอบปากคำ น.ส.ปิยะจินดา (ขอสงวนนามสกุล) ภรรยาของคนร้ายได้ให้การว่า ขณะเกิดเหตุได้นั่งรถไปกับสามีและลูกชายวัย 1 ขวบ แต่ก็นั่งหลับไปตลอดทางไม่เห็นเหตุการณ์ที่ชัดเจน ได้แต่บอกว่าทาง ร.ท.พูลวิทย์ เป็นคนเปิดไฟใส่รถก่อน ซึ่งตรงนั้นก็เป็นคำให้การของแต่ละฝ่าย
   
พ.ต.อ.อาณัติ กล่าวอีกว่า ภรรยาของคนร้าย ยังได้ให้การอีกว่า สามีเป็นคนขี้โมโหและหงุดหงิดง่าย ซึ่งเหตุที่เกิดขึ้นเป็นเพียงเรื่องการบันดาลโทสะเท่านั้นไม่มีสาเหตุอื่น ขณะนี้ตนได้ประสานไปยังทนายความของคนร้ายแล้ว แต่ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะติดต่อขอเข้ามอบตัว ซึ่งทางฝ่ายสืบสวนก็กำลังลงพื้นที่ เพื่อจับกุมตัวมาดำเนินคดีแล้ว
   
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะคล้ายกับคดีโจ๊ก-จิ๊บ ไผ่เขียว และพัวพันกับยาเสพติดด้วยหรือไม่ เนื่องจากลักษณะการก่อเหตุคล้ายกัน พ.ต.อ.อาณัติ กล่าวว่า ไม่ใช่แน่นอน เพราะทางภรรยาของคนร้าย ค่อนข้างมีฐานะ รถที่นำมาขับก็ยืมมาจากพี่ของภรรยา และเบื้องต้นยังไม่พบว่าพัวพันกับคดียาเสพติดแต่อย่างใด ซึ่งหากคนร้ายเข้ามอบตัว โอกาสที่จะได้รับการประกันตัวในชั้นศาลก็มีสูง อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินคดีด้วยความเป็นธรรม ว่ากันไปตามพยานหลักฐาน แต่การกระทำดังกล่าว ถือว่าอุกอาจพอสมควร สาเหตุเล็กน้อยไม่น่าจะถึงกับต้องยิงกัน
   
ล่าสุดมีรายงานข่าวจากชุดสืบสวนแจ้งว่า สำหรับคนร้ายรายนี้คือ นายณัฐพงษ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี ชาวจังหวัดเพชรบุรี โดยนามสกุลของนายนันทพงษ์ ยังไปพ้องกับคนดังอีกหลายคน แต่แหล่งข่าวแจ้งว่าอาจจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ เลยก็ได้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook