ใจบาป! ขี้ยาบุกฆ่าชิงทรัพย์หลวงพ่อแคล้วเมืองโอ่ง

(16 ม.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี รับแจ้งเหตุคนร้ายฆ่าพระเสียชีวิต ภายในวัดหนองประทุน ต.กรับใหญ่ จึงรีบรุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุพบชาวบ้านจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์ ภายในกุฎิของพระครูวิริยาธิการ ปิริยุโต หรือ หลวงพ่อแคล้ว อายุ 78 ปี เจ้าอาวาสวัดหนองประทุน ซึ่งนอนมรณภาพอยู่ภายในกุฏิตรวจสอบพบที่บริเวณหน้าอกและลำคอมีรอยฟกช้ำ มีร่องรอยการถูกทำร้าย และยังพบข้าวของถูกรื้อค้นกระจัดกระจาย เบื้องต้นพบว่าเงินสดประมาณ 1.8 แสนบาท ที่เจ้าอาวาสฯ เตรียมไว้จ่ายค่าวัสดุก่อสร้างกุฏิหลังใหม่ ถูกคนร้ายเชิดเอาหนีไปด้วย

นางเจือ ท่าผา อายุ 70 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ดังกล่าว เผยว่า ก่อนเกิดเหตุตนกับชาวบ้านคนอื่นๆ ได้นำอาหารมาที่วัด เพื่อจะถวายให้หลวงพ่อแคล้วในมื้อเพล แต่เห็นว่ากุฏิเงียบจนผิดสังเกต จึงได้ขึ้นไปดู พบคนร้ายเดินออกมาจากห้องของหลวงพ่อ พร้อมสะพายย่ามของหลวงพ่อออกมาด้วย และเมื่อคนร้ายเห็นชาวบ้าน ได้พยายามกระโดดหลบหนี ชาวบ้านจึงวิ่งไล่กันตามจับ เมื่อตนเปิดประตูกุฏิเข้าไปดู ก็พบว่าหลวงพ่อแคล้วมรณะภาพแล้ว

ในขณะเดียวกันทางด้้านเจ้าหน้าที่ตำรวจก็เร่งไล่ล่าหาตัวคนร้าย หลังจากพบว่าหลบหนีเข้าไปซ่อนตัวในป่าอ้อย ด้านหลังของวัด ต่อมาจึงได้ตรึงกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจและชาวบ้านกว่าร้อยคน ปิดล้อมพื้นที่ไม่ให้คนร้ายหลบหนี จนกระทั่งสามารถจับกุมตัวได้ในที่สุด ทราบชื่อในเวลาต่อมาคือ นายกำพล พารา อายุ 23 ปี อยู่ในสภาพเมายาบ้า และพบเงินสดจำนวน 171,000 บาท ย่ามสะพายและพระเครื่องจำนวนหนึ่งของเจ้าอาวาสฯ

คนร้ายให้การรับสารภาพว่า ได้แอบเข้าไปในกุฏิในช่วงเช้า เพราะทราบว่ามีหลวงพ่อแคล้วจำพรรษาอยู่รูปเดียว เมื่อเห็นประตูห้องหลวงพ่อเปิดอยู่จีงเข้าไป แต่ปรากฎว่าหลวงพ่อเห็นตนพอดี จึงนำจีวรคลุมหน้าหลวงพ่อเอาไว้ จากนั้นได้ใช้เท้ากระทืบลงไปที่หน้าอกกับคออย่างแรง จนหลวงพ่อแน่นิ่งไป ตนจึงคิดว่าหลวงพ่อแค่สลบไป จึงได้รื้อค้นหาเงินสดและของมีค่าภายในกุฏิ ขณะที่ออกจากห้องหลวงพ่่อนั้น ก็พบกับชาวบ้านที่มาถวายเพล จึงได้วิ่งหลบหนีเข้าไปซ่อนตัวในป่าอ้อย และถูกจับกุมตัวได้ดังกล่าว

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวคนร้ายไว้ดำเนินคดีแล้ว ซึ่งในขณะที่คนร้ายอยู่ในห้องขัง พบชาวบ้านจำนวนหนึ่ง รวมตัวกันตะโกนสาปแช่งคนร้าย ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมพาคนร้ายไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในวันพรุ่งนี้ (17 ม.ค.) ซึ่งจะระดมกำลังตำรวจไปทั้งโรงพัก เพื่อป้องกันคนร้ายถูกชาวบ้านรุมประชาทัณฑ์