พศ.เตรียมวางมาตรการบวชเณรหมู่เพิ่มพระพี่เลี้ยง-พ่อแม่รับรอง

ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาฯ เผยกรณีคลิปฉาวเป็นเณร 4 รูป ที่บวชเมื่อกลางปีที่แล้ว สาเหตุจากเป็นเพื่อนกัน แต่เณร 2 รูป ถูกเพื่อนเณร 2 รูป ฟ้องเจ้าอาวาส ชอบหนีเที่ยว ทำให้ถูกจับสึก และแก้แค้นกลับนำภาพมาลง ซึ่งเป็นกรณีตัวอย่างที่ต้องเตรียมพร้อมการบรรพชาสามเณรฤดูร้อน จะต้องเพิ่มพระพี่เลี้ยงและพ่อแม่รับรองการบวช เพื่อป้องกันความเสียหายจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของเณรซึ่งยังเป็นเด็ก
 
นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคม (มส.) ซึ่งมีสมเด็จพระพุฒาจารย์ ประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช เป็นประธานการประชุมว่า ที่ประชุมวันนี้มีเพียงวาระเพื่อทราบ โดยเฉพาะเรื่องการเตรียมการที่จะจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เช่น การเจริญพระพุทธมนต์ ฯลฯ ไม่มีเรื่องการยื่นแต่งตั้งรักษาการเจ้าอาวาสวัดอนงคารามแทนพระเทพเวที จากเจ้าคณะปกครองเข้ามา รวมทั้งกรณีปัญหาเรื่องพระธุดงค์ที่อาจจะแฝงตัวเข้ามาเป็นมิจฉาชีพสร้างความเสียหายให้แก่วงการสงฆ์ แต่มีเจ้าหน้าที่ลงไปติดตามตรวจสอบแล้ว ตลอดจนคลิปเณรฉาวที่ปรากฏเป็นข่าวขณะนี้
 
นายนพรัตน์ กล่าวต่อว่า สำหรับกรณีคลิปฉาวนั้น เจ้าหน้าที่ส่วนคุ้มครองพระพุทธศาสนาของ พศ. และผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด (พศจ.) มหาสารคาม ลงไปตรวจสอบตามที่ตนได้สั่งการไปแล้ว พบว่าเป็นสามเณรที่บวชในเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน ปีที่ผ่านมา มี 4 รูป ซึ่ง 2 รูปมักจะไปค้างนอกวัดและแต่งชุดธรรมดาเที่ยว เณรอีก 2 รูปจึงไปฟ้องเจ้าอาวาส จนถูกสึก และมีการนำคลิปมาลงเพื่อแก้แค้นกลับ ซึ่งเณร 1 รูป ถูกย้ายไปอยู่ที่วัดอื่นแล้ว แต่อีก 1 รูป ยังอยู่วัดเดิม ซึ่งเจ้าคณะปกครองกำลังพิจารณาโทษว่าจะดำเนินการอย่างไร แต่เรื่องนี้มีการไปแจ้งความเอาผิดผู้เผยแพร่แล้ว เพราะกระทบกระเทือน ทำลาย ชื่อเสียงทางพระพุทธศาสนา
 
“กรณีคลิปเณร เป็นตัวอย่างให้ต้องเตรียมพร้อมเรื่องการบรรพชาสามเณรฤดูร้อน จะต้องมีพระพี่เลี้ยงและเจ้าหน้าที่ดูแลใกล้ชิดมากขึ้น เช่นเดียวกับพระบวชใหม่ เพราะเณรยังอยู่ในวัยเด็ก มีความคึกคะนอง ซุกซน และบางอย่างก็ไม่รู้ถึงความเหมาะสม แต่สร้างความเสียหายมาก นอกจากนี้ยังอาจจะต้องตรวจสอบเด็กที่จะเข้ามาบวชเณรให้ผู้ปกครองรับรอง” นายนพรัตน์ กล่าว