ฟิล์ม ขึ้นเบิกความฟ้องหมิ่น แอนนี่ 5 มี.ค.

ศาลไต่สวนครั้งแรก ฟิล์ม รัฐภูมิ ส่งทนาย-สมรักษ์ ช่อง3 เป็นพยาน ฟ้องหมิ่น แอนนี่ รอฟิล์มมาเบิกความ 5 มี.ค.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องพิจารณาคดี 611 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดไต่สวนมูลฟ้องโจทก์ครั้งแรก ในคดีดำหมายเลข อ.3670/2553 ที่ นายรัฐภูมิ หรือ ฟิล์ม โตคงทรัพย์ นักร้อง และนักแสดงชื่อดัง สังกัดค่ายอาร์เอส จำกัด (มหาชน) มอบอำนาจให้ นายนพดล ลิขิตสัจจากุล ทนายความ เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง น.ส.รุ่งนภา แก้วไทรหาญ หรือ แอนนี่ บรู๊ค เป็นจำเลย ในความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326 และ 328โดยคดีนี้ ยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 8 พ.ย.53 ระบุว่า ระหว่างวันที่ 17 ก.ย.-28 ก.ย.53 จำเลย นำบุตรชายไปให้สัมภาษณ์ทางสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ทำนองว่า โจทก์เป็นผู้ชายที่ไม่มีคุณธรรม ไม่รับผิดชอบต่อจำเลย และบุตร ซึ่งเป็นความเท็จ เพราะบุตรของจำเลยไม่ใช่บุตรของโจทก์ เนื่องจากโจทก์กับจำเลยคบหากันได้เพียงเดือนเศษ และมีความสัมพันธ์กันเพียง 3 ครั้งเท่านั้น โดยใช้วิธีคุมกำเนิด

โดย นายนพดล ลิขิตสัจจากุล ทนายความ ซึ่งเป็นพนักงานของบริษัท อาร์เอสฯ ผู้รับมอบอำนาจในการยื่นฟ้อง เดินทางมาเบิกความเป็นพยาน ร่วมกับ นายสมรักษ์ ณรงค์วิชัย ผู้จัดการฝ่ายผลิตรายการช่อง 3 ส่วน ฟิล์ม รัฐภูมิ ยังติดภารกิจอยู่ในประเทศอังกฤษ จึงไม่ได้เดินทางมาศาลแต่อย่างใด

การไต่สวนทนาย ได้ซักถาม นายสมรักษ์ เบิกความถึงประเด็นที่มีการพูดคุยเรื่องความสัมพันธ์ของแอนนี่ บรู๊ค จำเลย กับ นายกิตติคุณ หรือ จุ๊น สัมฤทธิ์พันธ์สุข นักแสดงหนุ่ม ซึ่งเคยเซ็นสัญญาการแสดงกับสถานีโทรทัศน์สีช่อง 3 ว่า ได้เป็นคนโทรถามจุ๊น-กิตติคุณ เอง ในฐานะที่พยานเป็นหัวหน้างาน ต้องดูแลดาราในสังกัด  เพราะหลังจากฟิล์ม และแอนนี่ ต่างแถลงข่าว ก็มีการพาดพิงถึงดาราช่อง 3 โดยจุ๊น ยอมรับกับพยานว่า เคยมีความสัมพันธ์กับแอนนี่ จริง และครั้งสุดท้ายที่นายกิตติคุณ พบแอนนี่ คือ ช่วงเดือน พ.ย.52 ในงานคอนเสิร์ตที่ จ.จันทบุรี พร้อมทั้งยังเล่าถึงการคุมกำเนิดด้วยยาคุม 2 เม็ด และได้ปฏิเสธเรื่องบุตรของแอนนี่ โดยที่พยานเชื่อคำบอกเล่าของนายกิตติคุณ เพราะเป็นการถามโดยตรงกับเจ้าตัว ไม่มีพยานอื่นยืนยันเรื่องความสัมพันธ์ดังกล่าว แต่ภายหลังนายกิตติคุณ ได้แถลงข่าวปฏิเสธเรื่องความสัมพันธ์กับแอนนี่ พร้อมกับมอบให้ทนายความยื่นหนังสือยกเลิกสัญญาสังกัดการแสดงกับสถานี

ขณะที่นายนพดล ทนายความ รับมอบอำนาจจากฟิล์ม-รัฐภูมิ เบิกความว่า โจทก์บอกกับพยานเองว่า เคยมีเพศสัมพันธ์กับจำเลยเพียง 3 ครั้งเท่านั้น ช่วงก่อนเดือน ก.ย.52 หนึ่งครั้ง และเดือน ก.ย.52 อีก 2 ครั้ง และคุมกำเนิดด้วยวิธีธรรมชาติ โดยหลังจากทราบว่าจำเลยคบหาผู้ชายอื่นด้วย จึงไม่ได้กลับไปหาอีก และโจทก์บอกด้วยว่าเมื่อจำเลยบอกว่าตั้งครรภ์ ยังได้นำเรื่องไปเล่าให้มารดาโจทก์ฟัง แล้วถูกตำหนิว่าอย่าทำอะไรกดดันจำเลย เพราะเกรงว่าจะไปทำแท้ง แต่ให้ช่วยเหลือเท่าที่ช่วยได้ และเมื่อคลอดบุตรมาแล้ว ก็ยังตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอได้ ซึ่งโจทก์ก็เคยแถลงข่าวว่าพร้อมจะตรวจดีเอ็นเอ ส่วนที่จำเลยเคยให้สัมภาษณ์ในรายการตีสิบ ว่า เมื่อคลอดบุตรไม่ได้ใส่ชื่อใครเป็นบิดานั้น เป็นความเท็จ เพราะพยานได้รับสำเนาใบรับรองการคลอดที่ระบุชื่อโจทก์ เป็นบิดาของบุตรจำเลย ที่ลงวันที่เกิดเมื่อ 28 มิ.ย.53

โดย นายนพดล ยังได้ตอบคำถามซักค้านของทนายของแอนนี่ ด้วยว่า ไม่ทราบว่าการแจ้งเกิดจะต้องใช้สำเนาบัตรประชาชน หรือทะเบียนของผู้เป็นบิดาหรือไม่ และไม่ทราบว่าโจทก์เคยให้สำเนาบัตรประชาชนกับจำเลยไว้ ทราบเพียงว่าโจทก์เคยโอนเงินให้จำเลยหลักแสนบาท และช่วงคลอดที่จำเลยแจ้งกับโจทก์ขอเงิน 50,000 บาท ที่บอกว่าบุตรชายป่วย เมื่อทนายความของแอนนี่ ถามย้ำว่า จนถึงวันนี้พยานยังไม่ทราบว่าเรื่องระหว่างโจทก์-จำเลยเป็นจริง หรือเป็นเท็จใช่หรือไม่ นายนพดล ตอบว่าไม่ทราบ แต่ถ้าจะยืนยันว่าจริงหรือเท็จ ก็ต้องตรวจพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์หาดีเอ็นเอ

ทั้งนี้ เมื่อไต่สวนพยานเสร็จ 2 ปาก นายสุพรรณ เสือหาญ ทนายความของฟิล์ม-รัฐภูมิ โจทก์ แถลงต่อศาลขอไต่สวนพยานอีก โดยจะนำฟิล์ม-รัฐภูมิ มาเบิกความ หลังเดินทางกลับจากต่างประเทศ ในเดือน มี.ค.นี้ ศาลพิจารณาแล้วจึงนัดไต่สวนพยานโจทก์อีกครั้ง วันเสาร์ที่ 5 มี.ค.นี้ เวลา 09.00 น.