พม่าปะทะกะเหรี่ยงกระสุนตกไทยเจ็บ 2 คน
(30 ม.ค.) สถานการณ์ชายแดนไทย-พม่า ทหารรัฐบาลพม่า SPDC ได้ใช้อาวุธหนักยิงใส่ฝ่ายทหารกะเหรี่ยงพุทธเพื่อประชาธิปไตย DKBA และกองกำลังสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยงอิสระ KNU ที่บริเวณบ้านมอเกอร์ไทย หมู่ที่ 1 ตำบลวาเล่ย์ อ.พบพระ จ.ตาก
ในขณะที่ทั้ง 2 ฝ่ายกำลังยิงอาวุธหนักใส่กันนั้น มีกระสุนปืน ค. 120 ตกล้ำเข้ามาตกในเขตไทย ที่บริเวณท้ายหมู่บ้าน จำนวน 4 นัด เป็นเหตุให้ราษฎรกะเหรี่ยง ที่หนีภัยการสู้รบอยู่แถบชายแดนไทย - พม่า ได้รับบาดเจ็บ 2 คน เป็นผู้ชาย อายุประมาณ 27 ปี และเด็กหญิงอายุ 10 ขวบ ในระหว่างการสู้รบ มีทหารไทยหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 4 อ.แม่สอด ได้เข้าไปตรึงแนวชายเดน และพื้นที่บริเวณชายแดนไทย-พม่า บ้านมอเกอร์ไทยนั้นเป็นพื้นที่ล่อแหลม เพราะหากมีการสู้รบทำให้มีกระสุนปืนล้ำเข้ามาตกในเขตไทยได้ ขณะที่ทางด้านบ้านอูเกทะฝั่งพม่า ตรงข้ามบ้านวาเล่ย์ใต้ ตำบลวาเล่ย์ ทหารทั้งสองฝ่าย ยังคงมีการสู้รบอย่างหนักเช่นกัน สำหรับการสู้รบที่ผ่านมาฝ่ายพม่าได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก
รายงานข่าวแจ้งว่า พล.ท.วรรณทิพย์ ว่องไว แม่ทัพภาคที่ 3 ได้ลงพื้นที่ชายแดนไทย-พม่า อ.แม่สอด จ.ตาก เพื่อจัดกำลังทหารเฝ้าระวังเหตุ รักษาความปลอดภัย และเตรียมความพร้อมไปตรวจพื้นที่พนังป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำเมย บ้านท่าอาจ หมู่ 3 ตำบลท่าสายลวด อ.แม่สอด ก่อนที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และพลเอกประยุทธ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก จะเดินทางไปตรวจพื้นที่ดังกล่าวในวันพรุ่งนี้ (31 ม.ค.)