เขมรแถลง! อ้างไทยรุกรานตาย 2 เจ็บมาก
เว็บไซต์ ฟิฟทีนมูฟ เผยแพร่ แถลงการณ์ด่วนจาก กระทรวงการต่างประเทศ และความร่วมมือระหว่างประเทศ แห่งราชอาณาจักรกัมพูชา ลงวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2011 ระบุวานนี้ (4 ก.พ.) ระหว่างเวลา 15.00 - 17.00 น. ทหารไทยประมาณ 300 นาย ได้บุกรุกเข้ามายังดินแดนกัมพูชา และโจมตีทหารกัมพูชา ในพื้นที่ 3 จุด อันได้แก่ ขะมุม (ใกล้กับบันไดปราสาทพระวิหาร ประมาณ 500 เมตร) พื้นที่คานม้า และพนมโตร๊ป หรือ ภูมะเขือ พร้อมอ้างว่า สองจุดหลังนี้ ตั้งอยู่จากเส้นเขตแดน เข้ามาในแผ่นดินกัมพูชา 1,120 เมตร และ 1,600 เมตร ตามลำดับ ตามด้วยการยิงกระสุนปืนใหญ่ ขนาด 130 ม.ม. และ 155 ม.ม. เข้ามาในดินแดนกัมพูชา ประมาณ 20 กิโลเมตร เป็นผลให้ปราสาทพระวิหาร ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของมรดกโลก เสียหายอย่างรุนแรง กอปรกับการเสียชีวิต และบาดเจ็บของทหารกัมพูชา และชาวบ้านกว่าสิบราย ซึ่งการตอบโตกลับจากฝ่ายกัมพูชา เป็นไปเพื่อปกป้องอธิปไตยและบูรภาพแห่งดินแดน ในสภาวะที่ไร้ทางเลือก อันเนื่องมาจากการถูกโจมตี พร้อมโยนความผิด ในเหตุแห่งการเกิดสงคราม ที่ยืนยันมาจาก ถ้อยแถลงของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 31 มกราคม ที่ผ่านมา ว่า "การใช้กำลังเป็นทางเลือกสุดท้าย และรัฐบาลไทย ไม่กลัวที่จะทำสงครามกับกัมพูชา"
นอกจากนี้ ยังเรียกร้องให้ มีการแก้ปัญหาพรมแดน โดยเฉพาะในพื้นที่ปราสาทพระวิหาร ที่ ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) หรือ องค์กรระหว่างประเทศอื่นใด หากการทำความตกลงไม่สามารถเป็นไปได้ผ่านช่องทางทวิภาคี
ตามรายงานของ ฟิฟทีนมูฟ ระบุว่า แถลงการณ์ดังกล่าว ออกด้วยความรีบร้อนถึงขั้นย่อหน้าผิดอีกด้วย
ทางด้าน กระทรวงการต่างประเทศของไทย ออกแถลงการณ์ วันนี้ เกี่ยวกับเหตุการณ์ทหารไทย ปะทะ ทหารกัมพูชา ช่วงบ่ายวานนี้ โดยระบุเป็น ภาษาอังกฤษว่า เมื่อบ่าย วันที่ 4 กุมภาพันธ์ เวลาประมาณ 15.20 น. ทหารกัมพูชา เปิดฉากยิงใส่ฐานที่มั่นของเจ้าหน้าที่ทหารไทย ที่ประจำการอยู่ใกล้ ภูมะเขือ ซึ่งเป็นดินแดนของประเทศไทย โดยใช้ปืนใหญ่ไร้แรงสะท้อน นอกจากนี้ เวลา 16.20 น. ของวันเดียวกัน ทหารกัมพูชา ก็ได้ยังยิงปืนเข้าใส่พื้นที่บริเวณปราสาทพระวิหาร และบริเวณใกล้เคียงฐานที่มั่นของเจ้าหน้าที่ทหารไทย ใกล้ผามออีแดง ซึ่งอยู่ในเขตแดนประเทศไทยเช่นเดียวกัน ขณะที่ ก็ได้มีกระสุนปืนใหญ่อีกหลายลูก ที่ยิงมาจากทหารฝ่ายกัมพูชา ตกเข้าไปในหมู่บ้านภูมิซรอล ในจังหวัดศรีสะเกษของประเทศไทย ซึ่งอยู่ห่างจากแนวชายแดนประมาณ 5 กิโลเมตร อีกด้วย ขณะที่เหตุการณ์ดังกล่าว ส่งผล พลเรือนไทยรายหนึ่งเสียชีวิต และเจ้าหน้าที่ทหาร อีก 6 นาย ได้รับบาดเจ็บ ขณะที่ บ้านเรือนประชาชน ได้รับความเสียหาย 7 หลังคาเรือน ส่วนประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวอีกกว่า 3 พันคน ต้องเร่งอพยพ ออกจากพื้นที่ ซึ่งการโจมตีจากฝ่ายกัมพูชาดังกล่าว ถือว่าเป็นการกระทำที่รุกรานและละเมิดอำนาจอธิปไตยของประเทศไทย อย่างที่ชัดเจน ประเทศไทยไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากการตอบโต้ตามสิทธิ์ โดยยังยืนยันว่า ต้องการแก้ไขข้อพิพาทต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นโดยสันติวิธี แต่ก็ต้องสงวนสิทธิ์ในการปกป้องอธิปไตยของตนเองไว้ด้วยเช่นเดียวกัน