อือหือออ เปิด 8 ปมใหญ่ "ทรัมป์" ประกาศจะทำ มีทั้งเป่าคดีตัวเอง-ถอนคุ้มครองคนข้ามเพศ
เช็คลิสต์ 8 ปมใหญ่ ที่ "ทรัมป์" ประกาศจะทำในวันแรกที่รับตำแหน่ง มีทั้งเป่าคดีความตัวเอง-อภัยโทษบุกรุกสภาฯ-ตั้งกำแพงภาษีเน้นจีน-ถอนคุ้มครองคนข้ามเพศ
แท็ก
เช็คลิสต์ 8 ปมใหญ่ ที่ "ทรัมป์" ประกาศจะทำในวันแรกที่รับตำแหน่ง มีทั้งเป่าคดีความตัวเอง-อภัยโทษบุกรุกสภาฯ-ตั้งกำแพงภาษีเน้นจีน-ถอนคุ้มครองคนข้ามเพศ
เผยแล้ว! ทรัมป์-ภรรยา เข้ารับการฉีดวัคซีนต้าน #โควิด19 แล้วตั้งแต่ ม.ค.ที่ผ่านมา ขณะยังดำรงตำแหน่ง โดยไม่แจ้งให้สาธารณะทราบ พร้อมย้ำ "การพัฒนาวัคซีนคือผลงานของเรา"
รัฐบาลประธานาธิบดีโจ ไบเดน จะอนุญาตให้เด็กหลายร้อยคนได้พบเจอกับพ่อแม่ของพวกเขาอีกครั้ง หลังจากนโยบายผู้อพยพของโดนัลด์ ทรัมป์ ที่แยกครอบครัวผู้อพยพออกจากกัน
สุนทรพจน์แรกหลังลงจากตำแหน่งประธานาธิบดีของโดนัลด์ ทรัมป์ ได้กล่าวโจมตีการทำงานของโจ ไบเดน พร้อมย้ำชัยชนะการเลือกตั้ง 2020 ของเขา ก่อนระบุว่าเขาอาจจะลงสมัครชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีอีกครั้งในปี 2024
หลังมีความพยายามปกปิดการเสียภาษีและข้อมูลทางการเงิน ในที่สุดศาลสูงสหรัฐก็เปิดทางให้อัยการนิวยอร์กสามารถเข้าถึงข้อมูลบัญชีทางการเงินของโดนัลด์ ทรัมป์ นับเป็นความพ่ายแพ้อีกครั้งของทรัมป์ นับตั้งแต่เขาออกจากทำเนียบขาว
แม้วุฒิสภาจะมีมติไม่เอาผิดโโนัลด์ ทรัมป์ จากข้อกล่าวหายุยงปลุกปั่น ก่อให้เกิดเหตุจลาจลในรัฐสภาสหรัฐ แต่ตัวแทนจากพรรคเดโมแครตก็เดินหน้าเอาผิดทรัมป์และพรรคพวกต่อไป
หลังจากวุฒิสภามีมติไม่ถอดถอน โดนัลด์ ทรัมป์ได้ออกแถลงการณ์ชี้ว่า การถอดถอนในครั้งนี้เป็น "การล่าแม่มด" ครั้งใหญ่ พร้อมส่งสัญญาณบอกผู้สนับสนุนของเขาว่าขบวนการทางการเมืองในครั้งนี้เพิ่งจะเริ่มต้้นขึ้นเท่านั้น
ขณะกำลังพิจารณาถอดถอนโดนัลด์ ทรัมป์ ทีมผู้ยื่นถอดถอนได้เปิดหลักฐานวิดีโอใหม่ ที่แสดงให้เห็นความรุนแรงของผู้สนับสนุนทรัมป์ ที่บุกเข้าไปในอาคารรัฐสภาเมื่อวันที่ 6 ม.ค. ที่ผ่านมา
วุฒิสภาสหรัฐฯ มีมติ 56 - 44 เสียง เดินหน้าถอดถอนโดนัลด์ ทรัมป์ ชี้เป็นเรื่องที่ชอบด้วยกฎหมายและเป็นไปตามหลักรัฐธรรมนูญ หลังจากทรัมป์ถูกยื่นถอดถอนเป็นครั้งที่ 2
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน มีคำสั่งให้สหรัฐกลับเข้าร่วมคณะมนตรีสิทธิมนุษยชน หลังจากรัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศถอนตัวเมื่อปี 2018 โดยการกลับเข้าร่วมคณะมนตรีในครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของนโยบายต่างประเทศของรัฐบาลไบเดน
ผลสำรวจล่าสุดชี้ว่า ประชาชนกว่า 56% สนับสนุนให้มีการลงโทษและตัดสิทธิ์ทางการเมืองของโดนัลด์ ทรัมป์ หลังจากที่เขาถูกสภาผู้แทนราษฎรยื่นถอดถอนเป็นครั้งที่ 2 เนื่องจากเหตุการณ์จลาจลรัฐสภาสหรัฐฯ
เจคอบ ชานส์ลีย์ หรือที่รู้จักกันในนาม “พ่อมด QAnon” หนึ่งในผู้ก่อเหตุจลาจลในรัฐสภาสหรัฐ อดข้าวประท้วงในเรือนจำ หลังไม่ได้รับอาหารออร์แกนิก ซึ่งเป็นอาหารตามความเชื่อทางศาสนาของเขา
ผลสำรวจชี้ ชาวอเมริกันมากกว่า 2 ใน 3 พึงพอใจการรับมือกับโรคโควิด-19 ของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ซึ่งมีนโยบายช่วยเหลือและฟื้นฟูเศรษฐกิจ ด้วยการแจกเงินเยียวยาให้กับประชาชน ภาคธุรกิจ และภาครัฐทั่วประเทศ
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แถลงปรับนโยบายต่างประเทศที่สำคัญของสหรัฐ ที่จะมุ่งเน้นไปที่การร่วมมือกับประเทศพันธมิตร พร้อมประกาศว่า "อเมริกากลับมาแล้ว"
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ลงนามคำสั่งแก้ไขนโยบายผู้อพยพของโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ส่งผลให้มีเด็กมากกว่า 600 คนต้องพลัดพรากจากพ่อแม่ของตัวเองเป็นเวลานานกว่า 2 ปี บริเวณชายแดนสหรัฐ
อเล็กซานเดรีย โอคาซีโอ-คอร์เทซ เปรียบเทียบตัวแทนจากพรรครีพับลิกัน ที่บอกให้ลืมเหตุการณ์จลาจลรัฐสภา เมื่อวันที่ 6 มกราคมที่ผ่านมา ว่าเหมือนกับ "ผู้กระทำความรุนแรง" พร้อมเปิดเผยว่าตัวเองเคยตกเป็นเหยื่อความรุนแรงทางเพศ ที่มีบาดแผลอยู่ในใจ
แค่เดือนแรกของปี 2021 การเมืองสหรัฐก็ลุกเป็นไฟ มีแต่เรื่อง "เซอร์ไพรส์" ให้ทั่วโลกได้ติดตาม แล้วมีเหตุการณ์อะไรบ้าง Sanook รวบรวมมาให้ได้อ่านกันแล้ว
โจ ไบเดน ประกาศนโยบาย 3 ขั้นตอนเพื่อจัดหาวัคซีนโควิด-19 ให้ชาวอเมริกันทุกคน เป็นส่วนหนึ่งของแผนการรับมือโรคโควิด-19 ที่ไบเดนและคณะทำงานของเขาต้องเร่งมือ ในขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อสะสมและเสียชีวิตพุ่งสูงขึ้นเรื่อย ๆ
เจ้าหน้าที่ตำรวจสภากว่า 38 นาย และเจ้าหน้าที่กองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิมากกว่า 150 นาย ติดเชื้อโควิด-19 หลังเข้าไปทำหน้าที่ในเหตุการณ์ความวุ่นวายที่ผู้สนับสนุนโดนัลด์ ทรัมป บุกเข้าไปในรัฐสภา เมื่อวันที่ 6 มกราคมที่ผ่านมา
หลังเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดี "โจ ไบเดน" ก็ได้ลงนามคำสั่งพิเศษยกเลิกนโยบายที่ละเมิดสิทธิของกลุ่มคนที่มีความหลากหลายทางเพศ เช่น ห้ามนายจ้างเลือกปฏิบัติต่อลูกจ้าง LGBTQ+ ในสถานที่ทำงาน และยกเลิกนโยบายห้ามคนข้ามเพศเข้าทำงานในกองทัพ